ข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปตรวจสอบเส้นทางโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว - บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 ระยะทาง 7.248 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างของ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งมีพ่อของกำนันนกเป็นเจ้าของและมีกำนันนกเป็นหุ้นส่วน

จากการตรวจสอบพบว่า โครงการก่อสร้างถนนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาตั้งแต่ 8 กันยายน 64 และสิ้นสุดสัญญา 29 กรกฎาคม 66 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 719 วัน ซึ่งเกินกำหนดระยะเวลาที่ระบุในสัญญา คือ 690 วัน และมีการต่ออายุสัญญา 29 วัน ทำให้ต้องเสียค่าปรับตกวันละ 600,000 บาท หรือกว่า 17.4 ล้าน ทำให้สงสัยว่า เหตุใดจึงก่อสร้างล่าช้าไปเกือบ 1 เดือนเต็ม ซึ่งใต้สุดของป้ายประกาศ ยังระบุว่า “กำลังก่อสร้างด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน”

ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ นายเล็ก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าควบคุมงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ตนเองมีหน้าที่ควบคุมงานก็สร้างถนนโครงการดังกล่าวจริง ส่วนเหตุผลที่ระยะเวลาก่อสร้างล่าช้า เกิดจากช่วงระยะเวลาดังกล่าวติดวันหยุดราชการ และปัญหาโควิด 19 ทำให้คนงานไม่สามารถมาทำงานให้เสร็จตามกำหนดได้

ส่วนค่าปรับกว่า 17 ล้านบาท มีการระบุไปจริง แต่สุดท้ายทางภาครัฐได้ทำเรื่องปรับค่าปรับเป็น 0 บาทให้ เพราะเข้าใจเหตุผลที่ล่าช้า ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจากปัญหาโควิด 19 รัฐช่วยโครงการก่อสร้างทั้งหมด ไม่ใช่แค่โครงการนี้

ส่วนเจ้าของโครงการ ทราบว่า เป็นพ่อของกำนันนก ซึ่งฟันราคาประมูลได้ชนะคู่แข่ง คือ บริษัทธงชัยเจริญก่อสร้าง 2566 จำกัดจริง ซึ่งเท่าที่ตนเองรู้มา คือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ให้ราคาต่ำกว่า ราคากลาง ถึงเกือบ 110 ล้านบาท

ตนเองยืนยันในฐานะตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมงานของรัฐ ถือว่า บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ฟันราคาสู้จนชนะคู่แข่งมาได้ และรัฐได้งานที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง เนื่องจากพ่อของกำนันนก ได้ซื้อวัสดุอย่างดี และมีเครื่องเทคอนกรีต ไม่ใช่งานใช้มือของคนงานเท โดยคอนกรีตของถนนหนา 28 ซม. มีความแข็งแรง ความเรียบของถนน ถือว่าดีใช้ได้เลย และหากเทียบกับงานโครงการอื่น ก็ถือว่าราคานี้ไม่แพง

ส่วนกำนันนกตนเองไม่เคยเห็นเลยตลอดคุมงานมา 2 ปี เพราะกำนันนกโลกส่วนตัวสูง ไปไหนก็มีแต่ตำรวจคอยตาม ไม่เคยมายุ่งหน้างานเลยสักครั้ง จะมีก็แต่ ผู้ใหญ่ประโยชน์ จันทร์คล้าย พ่อของกำนันนก มาควบคุมงาน

ล่าสุดตนเองก็เพิ่งทราบข่าวว่า DSI จะเข้ามาตรวจสอบโครงการ ตนเองก็รู้สึกตกใจเหมือนกันว่า มีการฮั้วประมูลในโครงการที่ตนเองควบคุมงานจริงหรือไม่ ถึงแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับตนเองก็ตาม แต่ก็หวั่นใจเล็กน้อย แต่ตนเองยืนยันได้ว่า ผู้ใหญ่โยชน์ได้งานโครงการนี้มา งานก็มีคุณภาพ และชื่อเสียงคุณภาพก็ดีมาตลอด และเชื่อว่าไม่มีการฮั้วประมูล

สุดท้ายตนเองอยากถามกลับไปยัง DSI ว่า โครงการใหญ่ๆ ระดับพันล้าน ทำไม DSI ไม่ยอมไปเจาะ เป็นเพราะเป็นของรัฐมนตรีทั้งนั้นใช่หรือไม่ หลายโครงการทุกวันนี้มีการฮั้วประมูลกันเกือบทั้งนั้น ขนาดเด็กอนุบาลยังดูออก เพราะงานฮั้วได้กำไรดีกว่า การยื่นเสนอราคา ฟันราคาสู้กัน

ทีมข่าวช่อง 8 ยังพบป้ายจราจรตำรวจทางหลวง สนับสนุนโดยกำนันนก หนึ่งในตำรวจชี้ กำนันนก จะมอบผลประโยชน์ให้ตำรวจในพื้นที่โซนใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกทางธุรกิจ

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งข้อสังเกตที่ทีมข่าวช่อง 8 ไปพบว่า ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ใกล้บ้านของกำนันนก อาจจะได้รับผลประโยชน์ หรือ เงินสนับสนุนจากกำนันนกไม่มากก็น้อย โดยทีมข่าวไปพบว่า ป้อมตำรวจทางหลวงดอนตูม จังหวัดนครปฐม ซึ่งมี ร.ต.อ.ณรงศักดิ์ หนึ่งในตำรวจที่ถูกออกหมายจับ และถูกกล่าวหาว่าให้การช่วยเหลือคนร้ายในคืนเกิดเหตุเป็นหัวหน้าป้อมดังกล่าว เนื่องจากทีมข่าวไปพบว่า บริเวณด้านหลังป้อม มีกระดานไวต์บอร์ด เขียนชื่อ ร.ต.อ.ณรงศักดิ์ ถูกระบุอยู่บนกระดานด้วย

โดยทีมข่าวยังไปเจอกับ “ป้ายจราจร” ป้ายหนึ่งตั้งไว้ที่หน้าป้อมติดตัวอักษร “สนับสนุนโดย ป.พัฒนา รุ่งโรจน์” และที่มุมด้านขวามีตัวอักษรสีแดงเขียนว่า “กำนันนก”

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ คนงานก่อสร้างถนน ซึ่งให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองก็เคยเป็นอดีตคนงานก่อสร้างถนนให้กับผู้ใหญ่โยชน์เพื่อสร้างถนน โดยผู้ใหญ่โยชน์พ่อกำนันนก เป็นคนนิสัยดี กว้างขวาง ส่วนป้ายจราจรนั้น ได้ยินว่าตำรวจทางหลวงไปขอการสนับสนุนมาจาก “กำนันนก” เนื่องจากมีการก่อสร้างถนนผ่านด้านหน้าป้อม ต้องเอามาวางไว้ ส่วนถนนก็เป็นสัมปทานของ “บริษัทกำนันนก” โดยตนเองยืนยัน ถนนที่ตนเองทำนั้น คุณภาพดี ไม่โกงวัสดุ ซึ่งการก่อสร้างถูกคุมงานโดยป๋าโยชน์ ซึ่งแกเป็นคนใจดี และมีแต่ชาวบ้านรัก

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ป้อมตำรวจทางหลวงอีกหนึ่งจุด ซึ่งเป็นป้อมที่อยู่ไกลจากพื้นที่การควบคุมดูแลของกำนันนก เราได้พูดคุยกับหนึ่งในเจ้าหน้าตำรวจทางหลวง ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ป้อมของตนเองนั้นค่อนข้างอยู่ไกลจากบ้านกำนันนก ทำให้ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากกำนันนกเลย และป้ายที่มีก็เป็นป้ายที่ตำรวจสั่งซื้อมาเอง ไม่ได้รับการสนับสนุนมาจากใคร โดยกำนันนกมักจะมอบเงิน มอบของช่วยเหลือตำรวจทางหลวงในพื้นที่ใกล้บ้านของตัวเองมากกว่า เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจต่างๆ ซึ่งมีในหลายเขตพื้นที่ด้วยกัน ทั้ง ต.ทัพหลวง ,ต.ดอนตูม ,ต.บางเลน และ ต.กำแพงแสน

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นางสุข (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ปกติช่วงที่มีงานของกำนันนก ตนไม่เคยเจอ เจอเพียงพ่อกำนันนกที่มาคุมงาน ซึ่งไม่เคยสร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ ทางกลับกันคือ เป็นคนที่ไม่แก้ปัญหาทุกครั้งด้วยความเร็ว หากมีผลกระทบจากการก่อสร้าง อีกทั้งมักจะทำบุญกับวัด และชุมชน ในพื้นที่หากมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับเส้นทางเข้าออก

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อจะพูดคุยกับผู้ใหญ่โยชน์ พ่อกำนันนก แต่เมื่อไปถึงที่บ้านพบเป็นคุณป้า ของกำนันนกอยู่ ทีมข่าวจึงได้สอบถามถึงผู้ใหญ่โยชน์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง คุณป้าก็เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของผู้ใหญ่โยชน์ ค่อนข้างจะแย่ ยังไม่สามารถคุยกับใครได้ ขอให้ทีมข่าวเข้าใจด้วย ถ้าเมื่อไหร่ที่ดีขึ้นจะออกมาให้สัมภาษณ์แน่นอน

ทางฝั่งครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องของคดีความ แต่ที่ไปออกข่าวว่าเรามีอิทธิพล รู้สึกเสียใจมาก ถ้าอยากรู้ว่าบ้านเราเป็นยังไงให้ไปถามชาวบ้านได้หมดเลย ตนไม่อยากพูดอะไรมาก ให้ทุกอย่างมันคลี่คลายก่อน

ตอนที่เกิดเรื่องผู้ใหญ่โยชน์ก็เครียด ร้องไห้ เป็นลมอยู่แบบนั้นไปเลย ส่วนลูกของกำนันนกตอนนี้ก็รู้สึกโกรธพ่อแม่ตัวเอง ไม่ยอมไปโรงเรียน ทางภรรยาของกำนันนกก็ไม่มีเวลาดูลูก เพราะต้องไปตามเรื่องคดีตลอด

ทางผู้ใหญ่โยชน์ก็ได้มีไปเยี่ยมกำนันนกบ้าง แต่กำนันนกไม่ให้เจอ มีเพียงภรรยาคนเดียวที่สามารถเข้าไปหาได้ เพราะเขาไม่อยากให้พ่อแม่ตนเองเห็นในสภาพนั้น

ทางผู้ใหญ่โยชน์ก็ได้มีการติดต่อทนายไปแล้ว ก็ให้เป็นในส่วนของคดีไป ตนก็ไม่รู้เรื่องมากนั้น ตอนนี้ผู้ใหญ่โยชน์กับภรรยาก็ยังร้องไห้อยู่ทุกวัน เขาก็มีตัดพ้อว่าทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ทั้งที่ก็ทำบุญช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด