ตร.พา รปภ.บ้านกำนัน โดดหน้าต่างหนีสื่อ กลับหลังได้ประกันตัว
ภายหลัง นำตัว นายประสงค์ ไทรไกรกระ รปภ.บ้านกำนัน สอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนบันทึกจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาวุธปืน นั้น
เมื่อเวลา 22.00น. ที่ผ่านมา นายประสงค์ ได้มีการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และพบว่าอยู่ระหว่างขั้นตอนการประกันตัวชั่วคราวโดยวงเงิน 50,000 บาท ในชั้นพนักงานสอบสวน, แต่ระหว่างที่มีผู้สื่อข่าวดักรออยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าออก 2 ทาง ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์เพราะเนื่องจากตัวของนายประสงค์ได้มีการกำชับเอาไว้ ได้มีการพาตัวของนายประสงค์ผู้ต้องหาในคดีปืนซึ่งเป็นพนักงานรปภ.บ้านกำนัน กระโดดออกหน้าต่างด้านหลัง เพื่อพาออกจากห้องสอบสวนไม่ให้สื่อสัมภาษณ์
19.50 น. ภายหลังสอบปากคำ นายประสงค์ ไทรไกรกระ ญาติกำนันนกและ รปภ.ในบ้านที่เกิดเหตุ นายกว่า 10 ชั่วโมง ล่าสุดชุดคลี่คลายคดีได้คุมตัวออกจากห้องสอบสวนโดยใช้ประตูด้านหลังอาคาร ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ไปดักรอเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่พอนายประสงค์เห็นนักข่าวก็ไม่กล้าเดินออกมา วิ่งกลับเข้าไปในห้องสอบสวนเหมือนเดิม จนกระทั่งชุดสืบสวนต้องไปคุมตัวออกมาขึ้นรถเพื่อนำตัวไปส่งที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดครอบครองอาวุธปืนผิดมือ ส่วนพฤติการณ์ที่ถือปืนในวันเกิดเหตุ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจากการสอบถามนายประสงค์อ้างว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงนำอาวุธปืนของตนเองออกมาเพื่อป้องกันตัว ส่วนจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ต้องดูเจตนาและคำให้การอีกครั้ง
ส่วนสมาชิก อบต.ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองปืน ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ต้องรอสอบสวนก่อนว่าปืนกระบอกดังกล่าวไปอยู่กับนายประสงค์ได้อย่างไร
ชาดา ลั่นปราบให้หมดมาเฟีย ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุก
วันนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ย้ำว่ากรณี “กำนันนก” จะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ โดยมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทายอำนาจรัฐ ที่ยอมรับไม่ได้ เพราะทุกวันนี้มาเฟีย และผู้มีอิทธิพลต้องหมดไปจากเมืองไทยแล้ว
โดยนายชาดา ยังพูดกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ก่อนจะนิ่งก็กลิ้งมาก่อนเหมือน ก็คือยอมรับว่าตัวเองก็เป็นผู้มีอิทธิพลมาก่อน เคยถูกค้นบ้านมาเหมือนกัน แต่วันนี้สะอาดแล้ว เพราะหมดยุคหมดสมัยแล้ว