"เศรษฐา" ลงพื้นที่ด่านแม่สายเชียงราย นำคณะถกประเด็นปัญหาการค้า-ยาเสพติด-สัญชาติ-ที่ดินทำกิน มองปัญหาลี้ภัยสู้รบเมียนมา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า วันนี้มารับฟังปัญหาหลายๆด้าน ซึ่งเรื่องใหญ่เป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ คมนาคม เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เหนือสุดในการขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศจีนรวมถึงประเทศ อื่นๆ ทั้งลาว พม่า ไทย จีน ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการว่าอยากให้มีการลงทุนหลายรูปแบบ ทั้งทางน้ำ ทางรถยนต์ หรือการสร้างด่านศุลกากร ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการขอโครงการก็ต้องมีเรื่องงบประมาณที่เราจะต้องนำมาพิจารณากัน ตนจึงเสนอให้มีการตั้งคณะทำงาน โดยจะต้องมีการเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรสามารถทำได้เร็วเพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งตรงนี้เป็นจุดการค้าระหว่างประเทศ สารผลิตหรือสารตั้งต้นถูกลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องอาศัยการพูดคุยกันหลายภาคส่วน โดยระบุอีกว่า ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องการต่างประเทศอย่างเดียวที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้น ซึ่งต้องมีเรื่องการทำลายยาเสพติด โดยมีการสั่งการนโยบายว่าในวันอาทิตย์(17 ก.ย.) นี้ จะมีการประชุมร่วมกับปปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลดการใช้ยาเสพติด โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พื้นที่จังหวัดเชียงรายลดลง แต่ไปเพิ่มทางพื้นที่ภาคอีสานแทน
ขณะที่การประชุมวันนี้ยังมีการหารือเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเด็กกลับประเทศเมียนมา เนื่องจากไม่มีสิทธิ์เข้ารับการศึกษา นอกจากนี้ยังมีสิทธิที่ดินทำกิน จึงไม่ใช่เพียงเรื่องปัญหาของชาวชาติพันธุ์แต่เป็นปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ หลายครอบครัวมีการครอบครองที่ดินมานานแต่ยังไม่ได้มีการรับรองสิทธิ์ ซึ่งตนได้เน้นย้ำไปแล้วว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขปัญหารวบรวมกันไป ซึ่งเรามีการวางลำดับการดำเนินงานมาแล้วว่าจะทำอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เนื่องจากเป็นการปลูกข้าวโพดในพื้นที่เมียนมา ซึ่งก็ต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศ และอีกไม่กี่เดือนจะถึงฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ ซึ่งตรงกับช่วงการเผาตอซังด้วย จึงต้องให้มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรองนายกฯที่กำกับดูแลได้รับเรื่องไปแล้ว ก่อนที่จะเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
ส่วนเรื่องใดที่สามารถตั้งคณะทำงานได้ทันทีเพื่อขับเคลื่อน นายเศรษฐา ระบุว่า เป็นเรื่องสัญชาติที่จะต้องดำเนินการในทันที ทั้งเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ หรือขั้นตอนการดำเนินการมากเกินไป ซึ่งต้องขอเวลาสรุปและดำเนินการ
ทั้งนี้นายเศรษฐา ปฏิเสธว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาฟรีวีซ่าให้กับชาวเมียนมาร์เนื่องจากเป็นเรื่องของความมั่นคง อาจจะเป็นในลักษณะการขอวีซ่าตรงด่านได้ เป็นการอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน ซึ่งตนมองว่าศักยภาพมีมากกว่านี้ โดยนายเศรษฐา ยังระบุว่า ปัญหาการสู้รบภายในประเทศเมียนมาตามแนวชายแดน ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูให้ครบในทุกมิติ เวลาแก้ไขปัญหาต้องดูเป็นเรื่องๆไป
ส่วนกรณีที่เด็ก 126 คนถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา นายเศรษฐา มองว่า เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดตามและดูแล ซึ่งเรื่องการศึกษา เป็นการกำกับของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนการถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมากว่า 300 คน โดยมีการร้องขอให้รัฐบาลช่วยกลับประเทศ นายเศรษฐา ระบุว่าขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่อง
ทั้งนี้นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้อกังวลถึงการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบต่อเดือนถึงการดำเนินการอาจจะไปหนักที่กระทรวงการคลัง ซึ่งอาจจะต้องเบิกเป็น 2 งวด ว่า ไม่มีปัญหา