กล้องวงจรปิดพิสูจน์ข้อเท็จจริงคำให้การตำรวจในงานเลี้ยง
โดยการปะติดปะต่อเรื่องราวพบว่าคำให้การของตำรวจไม่ต้องกับภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งมีตำรวจบางคนเข้าควบคุมสถานการณ์ทันทีกับต่างคนต่างลุกหนีกระเจิงออกจากงานเลี้ยงบ้านกำนันนก
นอกจากนี้ยังพบความขัดแย้งในภาพวงจรปิดที่ตำรวจอ้างว่าไม่ได้พกปืนในวันเกิดเหตุเพราะให้เกียรติเจ้าของงานคือ กำนันนก แต่จากภาพวงจรปิดพบว่าตำรวจในงานเลี้ยงพกปืนหลายคน
ครอบครัวทำบุญบำเพ็ญกุศล ผู้กำกับเบิ้ม
วันนี้ (15 ก.ย.66) ที่วัดใหญ่ท่าเสา ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เวลา 10.30 น. พ่อ-แม่ ญาติพี่น้อง ข้าราชการทหาร ร่วมพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้กับ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม
โดยมีการถวายอาหารเพล ให้กับ พระสงฆ์ 10 รูป จากนั้นพระสงฆ์สวดให้ศีลให้พร จากนั้น ครอบครัวและแขกที่มาร่วมงานกรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ แก่ ผกก.เบิ้ม โดยวันนี้ในช่วงเย็นเวลา 19.30น. จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลเป็นคืนที่3 และในวันที่ 17กย66 เวลา 14.00น.จะได้ทำพิธีฌาปณกิจ ที่เมรุวัดใหญ่ท่าเสา
ขณะที่จ่าบอม น้องชาย ผกก.เบิ้ม ก็ได้จุดธูปไหว้ร่างของพี่ชายเหมือนทุกวันที่เคยทำมา ด้านญาติที่เดินทางมาจากต่างจังวัดพร้อมทั้งเพื่อนอดีตข้าราชการครู อดีตข้าราชการทหารในพื้นที่และต่างจังหวัด ก็ได้เดินทางมาไหว้ศพ ของ ผกก.เบิ้ม และแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว ตลอดในช่วงเช้าที่ผ่านมา สำหรับพ่อ-แม่ ของ ผกก.เบิ้ม ทางญาติบอกว่า สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ต้องอยู่ในความดูแลของทางญาติพี่น้องที่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้คิดมาก
ด้านนางพรทิพย์ ยาวไทยสงค์ น้องสะใภ้ ผกก.เบิ้ม พูดถึง ผกก.เบิ้ม ว่า พี่เบิ้มเป็นคนที่มีนิสัยรักพี่น้องรักเพื่อนร่วมงาน ตนไม่แปลกใจเลยที่จะเข้าไปช่วยลูกน้องและนำส่ง รพ. ตามที่ปรากฏในคลิปวงจรปิดที่ออกมา ขอให้เชื่อว่า พี่เบิ้มเป็นคนดี ซึ่งทุกอย่างจะปรากฏในเร็วๆนี้ ส่วนเรื่องงาน พี่เบิ้ม จะไม่ค่อยเล่าอะไรให้ทางครอบครัวฟัง จะมีก็น้อยครั้งที่จะเล่าให้ฟัง เพราะถ้ากลับมาที่บ้าน ที่บ้านคือเซฟโซน จะกลับมาทำกิจกรรมกับครอบครัว เช่นมาทานข้าวกับพ่อแม่ พาเด็กๆเที่ยว เตะบอล กับเพื่อน ดูบอลกับน้องชาย กลับมาที่บ้านก็เป็นลุงคนหนึ่ง เป็นคนอบอุ่น จะถามถึงสาระทุกข์สุกดิบตลอดและไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เห็น ล่าสุดที่เจอพี่เบิ้ม ก็เมื่อราวสัปดาห์ก่อน ซึ่งก็ได้ตกลงกันไว้ว่าเดือนตุลาคม ช่วงปิดเทอม จะพาครอบครัวและญาติพี่น้อง ไปเที่ยวพัทยากัน ซึ่งได้จองเครื่อง-จองที่พักไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก่อน
เมื่อสอบถามถึงเรื่องรูปคดี เพื่อนๆพี่เบิ้ม ไม่ได้พูดถึงในส่วนนี้เลย บอกเพียงว่า ให้เชื่อใจนะว่าพี่เบิ้มเป็นคนรักเพื่อนพี่น้อง และไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สำหรับสภาพจิตใจของคนในครอบครัวก็ต้องขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันอย่างมากมาย เรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฏหมาย อยากบอกว่าพี่เบิ้มเป็นคนดีเหมือนกับที่ทุกคนบอกมา ซึ่งรับรุ้ได้จากการกระทำ และมีความปรารถนาดีกับทุกๆคน
“บิ๊กโจ๊ก” เปิดภาพวงจรปิดนาทีงานเลี้ยงเลือดกำนันนก ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เผ่นแน่บขณะเสียงปืนดังขึ้น ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด
เมื่อเวลา 21.40 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาดูกล้องวงจรอีก 2 ตัว จากใน 15 ตัว ภายในบ้านของกำนันนก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยใช้เวลาดูประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนในที่เกิดเหตุ ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ มาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ดู
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้เปิดภาพที่ได้กล้องวงจรปิดให้ดู โดยภาพแรกเป็นภาพ ขณะที่ตำรวจ 3 นาย คือ ดต.สราวุธ , ดต.ชนาณัฐ และ พ.ต.ต.ณรงค์ อุ้มร่าง สว.ศิว หลังถูกยิงบาดเจ็บ ขึ้นรถ โดยมีพลขับวิ่งไปนำรถเก๋งแล้วพาตัว สว.ศิว นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วน ตร.อีกคนนั่งเบาะหลังแล้วคอยเอามืออุดบาดแผลจากรอยกระสุน แล้วพลขับก็พาไป โรงพยาบาล
จากนั้นก็เป็นภาพหลังจาก สว.วศิน ถูกยิง ทาง สว.อำนวยการไปช่วย สว.วศิน ที่ล้มอยู่ แล้วมี ตร.อีก 4 นาย คือ ดต.สราวุธ , พ.ต.ต.ณรงค์ , ร.ต.ท.จตุรวิทย์ และ พ.ต.ท.ภทร ไปช่วยพาขึ้นรถกระบะ รวมทั้งมี ผกก.เบิ้ม อยู่ด้วย
ส่วนอีกภาพ เป็นช่วยก่อนเกิดเหตุตอน 2 ทุ่มกว่าๆ นายหน่องอยู่ในงาน ในกระเป๋ากางเกงมีปืนที่ใช้ก่อเหตุ และอีกภาพเป็นเวลาประมาณ 19.40 น. นายเด้ง ญาติของกำนันนกกับนายต๋อง เดินเข้ามาในงาน และมีภาพส่งปืนให้นายเด้งเข้าไปในงานด้วย หลังมือปืนลั่นไกนายเด้งชักปืนออกมา ลักษณะปกป้องกำนัน จากนั้นก็เป็นภาพ 1 ใน 6 ตร.ที่ถูกจับในชุดแรก ถอดเสื้อ โดยมีปืนเหน็บไว้ที่เอว อีกคนก็มีปืนพกไว้ที่เอวเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบกระแสสังคมว่า ภาพแรกสิ่งที่สังคมสงสัย “ตร.คนที่ให้การการเท็จ จะเห็นว่าคนช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บมีแค่นี้เอง ที่ให้การว่าช่วยก็ไม่ได้ช่วย คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินคดีจะร่วมกันพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ ว่ามี ตร.นายบ้างที่ต้องถูกแจ้งข้อหานี้”
วันนี้ดำเนินคดีนายเด้งกับนายต๋อง ในกรณีพกปืน โดยนายต๋องเอาปืนมาให้นายเด้ง ซึ่งโดนแจ้งข้อหาไปแล้วทั้งคู่ และวันนี้ได้ดูกล้องทั้งหมด สิ่งที่สังคมคาใจใครช่วย-ไม่ช่วยบ้าง ตร.ในงานส่วนใหญ่มีปืน แต่ไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า ซึ่งเตรียมดำเนินคดี หลังเกิดเหตุ แล้วตร.ก็กลับไปช่วยผู้กระทำผิด แทนที่จะอยู่ข้างตร. ส่วนนายตำรวจระดับสูงเผ่นแน่บแล้วบอกว่าไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเลย แบบนี้ย่ำแย่มาก ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย
ส่วนกล้อง 2 กล้องที่สับสนกันตั้งแต่เช้า เพิ่งได้ข้อเท็จจริง ที่กู้ได้ 100% มีแค่ 13 ตัว ส่วนกล้องอีก 2 ตัว จากการตรวจสอบ กล้องตัวแรกไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. , ส่วนกล้องตัวที่ 2 บันทึกถึงแค่เวลา10.16 น. ของวันเกิดเหตุ ซึ่งทั้งสองตัวไม่ปรากฏภาพเหตุการณ์หลังจากนี้ โดยได้ข้อสรุปว่า ไม่มีการดึงปลั๊ก ไม่มีการถอดสาย เนื่องจากกำนันนกเป็นคนไปกดสวิทปิดกล้องตอนเวลา 10.16 น. โดยตอนนั้นเป็นช่วงเวลาจัดสถานที่งานเลี้ยง คาดว่ามีคนไปเตือนเรื่องการจัดงาน จึงไม่อยากให้กล้องบันทึกภาพให้เห็นว่ามีใครมานั่งตรงไหนบ้าง
เหตุการณ์ในการยิงในงาน คงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงแบบนี้ หลังทะเลาะกัน กำนันไปคุยกับนายหน่อง มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากำนันสั่งยิง หลังยิงแล้วลูกน้องกำนันยืนคุมเชิงทุกจุด แต่ ตร.ต่างคนต่างออก ต่างคนต่างทิ้งหน้าที่ ตร.บางส่วนเห็นความผิดซึ่งหน้าแต่ไม่จับกุม อันนี้มีความผิดชัดเจน
เดิมทีที่สอบปากคำตำรวจในงานบอกว่า ไปส่งคนเจ็บที่ รพ.เป็น 10 คน แค่ความจริงแล้วมีแค่ 5 คนเท่านั้น ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฎ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างคนต่างเอาตัวรอด ส่วนจะแจ้งจ้อหาใครบ้างพรุ่งนี้พิจารณากัน พยานหลักฐานมัดกำนันนก ตอนนี้มันจบแล้ว หลังจากนี้จะไล่ขยายผลต่อ ความร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ และเรื่องธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ ทั้ง 1,500 โครงการ มันยิ่งกว่าผิดปกติ ต้องตรวจสอบ ถ้าผิดต้องถูกดำเนินการฟอกเงินยึดทรัพย์ รวมถึงดำเนินการเรื่องภาษี
การปิดกล้องต้องตั้งใจปิด คงไม่ได้คิดจะสังหารในตอนนั้น แค่ไม่อยากให้เห็นว่ามีใครบ้างในงาน คาดว่ามีคนเตือน ซึ่ง สว.ศิวกร เข้ามาในงานได้แป็บเดียวก็มีการยิงเกิดขึ้น ในงานลูกน้องกำนันมีปืนหมด ตร.ก็มีปืน ส่วน นายหน่อง ก็พกปืนตลอด สรุปเป็นความหึกเหิม เป็นความคึกคะนอง
ในงาน นายต๋อง ส่งปืนให้ นายเด้ง ซึ่งก็รู้แน่ว่าถ้ามีเรื่องต้องมีการใช้อาวุธ คนในงานรู้ว่าลูกพี่มีปัญหากับ สว.คนนี้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องยิงกัน จึงตระเตรียมไว้ก่อน วงจรปิดมีมากกว่านี้ ก่อนยิงมีการเคลียร์กัน มีการเอาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก จากนั้นกำนันนกออกมาคุยกับ นายหน่อง และกำนันนกส่งสัญญาณให้ยิง
มูลเหตุสำคัญ 1.การขอลูกน้องให้มาทำหน้าที่จยย.สายตรวจ 2.มีปัญหาเรื้อรัง สว.ศิวกร เข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทำให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งไม่ได้ ทำให้กำไรน้อยลง เป็นมูลเหตุให้มีการลุแก่อำนาจ ใช้ปืนสั่งยิง มูลเหตุมาจากเรื่องนี้
ส่วนปัญหาเรื่องการดวลเหล้านั้น มีการดวลเหล้ากัน ระหว่าง สว.ศิวกร กับกำนันนก เรื่องดวลเหล้านั้นเป็นแค่ส่วนเดียว เรื่องหลักเป็นเรื่องการไม่พอใจ สว.คนนี้อยู่แล้ว เรื่องทำให้รถเขาวิ่งลำบาก และเรื่องย้ายลูกน้อง รวมถึงกาารดวลเหล้า ซึ่ง สว.ศิวกร ไปบ้านนี้ครั้งแรก ผกก.เบิ้ม ชวนไป เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับกำนัน เพราะตัวเองก็สนิทอยู่แล้ว