อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวกีฬา เตือน ฟรีวีซ่าจีน ยาเม็ดใหญ่ที่มีผลข้างเคียง
วันที่ 16 กันยายน 2566 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าาวถึงกรณีที่รัฐบาลยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถานโดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 นี้ไปจนถึงวันที่ 29 ก.พ.2567 ว่า
ฟรีวีซ่าให้จีน ในครม.นัดแรก นับว่ายาเม็ดนี้นับว่าใหญ่ และให้เร็ว แต่นี่คือมาตรการฝ่ายเดียว คือไทยทำฝ่ายเดียว
จึงอย่าเพิ่งคาดหวังว่ายาใหม่ ยาใหญ่เม็ดเดียวจะแก้อาการแก้ปัญหาได้ถึงรากและคงจะมี "ผลข้างเคียง" ตามมาบ้างได้ด้วย
สิ่งที่ต้องคิดต่อทันทีคือใหญ่ใหม่เม็ดนี้ มีเอกสาร "กำกับยา" ไว้เพียงพอแค่ไหน มีเงื่อนไขในการใช้ที่นอกจากให้ใช้ 5 เดือนจากวันชาติจีนถึงวันตรุษจีน นี้แล้ว ยังมีเงื่อนไขที่ควรกำกับอะไรได้อีก
เช่นการประเมินติดตามผลของการเข้าเมืองมาพบเจออะไร นอกจากการเพิ่มปริมาณ เขามาจากไหน เป็นกลุ่มอะไร อาชีพ และความสนใจต่างจากเดิมหรือไม่ มาแล้วไปไหน เคยมาแล้วกี่หน ใช้จ่ายไปกับอะไร
เราจะเติมเงื่อนไขว่าเค้าต้องมีหลักฐานการจองและชำระค่าโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายของไทยสักคืนสองคืนด้วยมั้ย
อนึ่ง จีนยังไม่มีนโยบายส่งเสริมให้คนจีนออกเที่ยวเหมือนสมัยอดีต แต่มีนโยบายให้จีนเที่ยวในจีนมากขึ้นมาก
ส่วนการให้ฟรีวีซ่ากับคาซัคสถานก็นับว่าน่าติดตาม เพราะเท่าที่ทราบ คาซัคสถานมาเที่ยวไทยเพิ่มจากหลักหมื่นมาขึ้นหลักแสน แต่ทำไมจึงให้ฟรีวีซ่าในกรณีนี้หรือจะเปิดตลาดใหม่มาเสริม เพิ่มจากที่ให้ซาอุดีอาระเบีย และทำไมจึงยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้ฟรีวีซ่า
แปลว่าเอกสารกำกับยาใหม่คงจะต้องมีรายละเอียดให้วงการของเราทั้งวงการท่องเที่ยว วงการความมั่นคง วงการนักวิเคราะห์เศรษฐกิจได้ใช้ประกอบการทำงานอีกพอประมาณ
การประเมินผลก็อย่ารอจนหมดโครงการ ที่จริงต้องประเมินรายสัปดาห์เลย เพราะเราให้วีซ่าฟรีหนนี้ทั้งผู้มาทางอากาศและทางบกทางน้ำ แก่ประเทศที่มีประชากรมากนับพันล้านคน และอยู่ใกล้ไทย สามารถมาทางพรมแดนทางบกได้ง่าย
อย่างไรก็ดี ก็น่าดีใจที่ เรื่องท่องเที่ยวถูกหยิบยกขึ้นมาหาทางแก้ไข ในทันทีที่มีรัฐบาลใหม่ กล้าให้ยาเร็ว เม็ดใหญ่ แต่เราต้องไม่คาดหวังว่ามียาเม็ดแล้วแก้ได้ครบจบวงจร ยังต้องมียาน้ำ ยาดม ยาพ่นอีกสารพัด
อาจมีจังหวะก็ควรคิดเรื่องการผ่าตัดไปด้วย
ส่วนเอกสารกำกับยาเม็ด และยาอื่นๆพึงมีให้ละเอียด ทุกคนในวงการที่เกี่ยวข้องจะได้ใช้ได้ถูก
ส่วนเมื่อรัฐบาลแสดงความจริงจังจะแก้ไขเรื่องท่องเที่ยวแล้ว การร่วมมือเพื่อดึง big data มารวมกัน แชร์กัน ร่วมกันพิจารณาใช้ประโยชน์และป้องกันผลที่ไม่พึงประสงค์ก็จึงจะทำได้
ทำให้รู้เขา เข้าใจองคาพยพในตัวเรา เราจึงจะทำเรื่องท่องเที่ยวเชิงคุณค่า คุณภาพ ได้อย่างมีมูลค่า และยั่งยืนขึ้นไปได้เรื่อยๆ