ผู้กำกับพญาไท เปิดใจได้ยินเสียงปืนและเห็นนายหน่องยิง สารวัตรศิว ยืนยันไปส่งโรงพยาบาลด้วยแต่หลงทางเลยไปถึงช้า ระบุไม่เครียดหากจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา
16 ก.ย. 66 พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ได้ออกจากห้องสอบสวน หลังเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกว่า 2 ชั่วโมง โดย พ.ต.อ.กฤษฎาพร ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่เครียดแล้ว และไม่กังวลเรื่องที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจเพิ่มเติม เพราะให้การไปหมดแล้ว รายละเอียดอยู่ในสำนวน
ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุ ตนได้ขับรถตามประกบท้ายรถที่พาสารวัตรศิว และ พ.ต.ท.วศิน ไปส่งโรงพยาบาลจริง แต่ว่าไปหลงตรงบริเวณแยกปั๊มน้ำมันพีที เพราะลูกน้องเลี้ยวผิด ทำให้เสียเวลาไปประมาณ 8 นาที จึงตามไปถึงช้า ซึ่งชุดสืบสวนมีภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ตนหลงทางแล้ว
ส่วนกรณีที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการเปิดเผยออกมา ไม่ปรากฏภาพตนนั้น จริงๆ แล้วมีภาพอีกมุมหนึ่งก่อนหน้านั้นที่เห็นตน ยังอยู่ตรงโต๊ะที่เกิดเหตุเหมือนเดิม และได้มีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ด้วยการสั่งการให้ลูกน้องเข้าไปช่วย
พ.ต.ท.กฤษฎาพร ยัง ได้เล่าเหตุการณ์จังหวะที่สารวัตรศิวถูกยิงว่า ตนเห็นนายหน่องเดินมา และได้ยินเสียงปืนนัดแรก ซึ่งตอนแรกยังคิดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีก รวมทั้งหมด 7 นัด แบ่งเป็นการยิง 5 นัด แล้วพักยิงต่ออีก 2 นัด โดยตนหันไปเห็นจังหวะที่กำลังยิงประมาณนัดที่ 6-7 แล้ว จึงเห็นว่าเป็นปืนกล็อก ตอนนั้นเห็นสารวัตรศิว กำลังจะตกจากเก้าอี้ และ ด.ต.ชนาณัฐ ก็บอกกับตนว่า “นายๆ พี่ศิวโดนยิง” ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนสั่งการ โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจในงานต่างก็ตกใจ ส่วนอาวุธปืนนั้น ตนเอาไว้ในรถ ไม่ได้พกไว้กับตัว ส่วนก่อนเกิดเหตุ มีการดวลเหล้ากันจริง แต่ตนไม่เห็นว่ามีการผูกมือกันหรือไม่ และเมื่อถามว่าผู้กำกับเบิ้มได้เข้าไปอุ้มสารวัตรแบงค์หรือไม่ ผู้กำกับพญาไท ระบุว่า ไม่ได้อุ้ม
หลังจากที่ให้สัมภาษณ์แล้ว ผู้กำกับพญาไทได้เดินเข้าไปห้องสอบสวน และเดินออกมาอีกครั้งผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่า เป็นผู้ที่อยู่ในคลิปเสียงที่บอกว่าจะยิงนักข่าวใช่หรือไม่ผู้กำกับพญาไทตอบว่า”ไม่มีไม่กล้าแล้วกลัวครับ”