จากกรณี ที่ มีคนร้ายที่มีการแต่งกายคล้ายพนักงานส่งอาหาร หรือ ไรเดอร์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวน ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ เหตุเกิดภายใน ซอยมังกร-นาคดี และ บริเวณใกล้เคียง ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สภ.เมืองสมุทรปราการ จำนวน 3 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง โดยหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ล่าสุดวันนี้ ( 17 กันยายน 2566 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ นำโดย พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ / พ.ต.ท.ยอดรัก กิตติลัภนะรัตน์ สว.สส. / พ.ต.ต.ชัชพงศ์ ขาวสะอาด สว.สส.พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายจักรภัทร หรือบิ๊ก อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่จับกุม นายจักรภัทร ได้ที่ถนนเลียบวารี แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 08.00 น วันที่ 17 กันยายน 2566 จากการสอบถาม นายจักรภัทร ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ จำนวน 3 ครั้ง โดยจะตระเวนหาเหยื่อ บริเวณซอยมังกร-นาคดี และ บริเวณใกล้เคียง หลังจากนั้นชุดจับกุม จึงนำตัว นายจักรภัทร ส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินคดีตากฎหมายต่อไป
ภาพจาก กล้องวงจรปิดริมถนน ภายในหมู่บ้านแสงปัญญา ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ สามารถจับภาพ ไรเดอร์ สวมเสื้อแขนสั้นสีเขียว-เหลือง กางเกงขายาว สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบ สีเขียวอ่อน นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า เอ็นแม็ก สีดำ มีกระเป๋าใส่ของสีเขียวอยู่ท้ายรถ จอดอยู่หน้าร้านของของชำ ก่อนจะก่อเหตุกระชากสร้อยข้อมือหญิงที่นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านขายของชำจนล้มลงไปที่พื้น ก่อนที่จะขับขี่หลบหนีไปทางท้ายซอย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 15 กันยายน 2566 โดยจากสังเกต คาดว่า น่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุกระชากสร้อยที่ หมู่บ้านทรัพย์มงคล 1 ซอยสุดใจ และ หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 9 เฟส 1 ที่เกิดเหตุก่อหน้านี้
สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านขายของชำ ภายในหมู่บ้านแสงปัญญา ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ ได้พูดคุยกับชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านได้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกันกับเหตุที่ขึ้นภายใน หมู่บ้านทรัพย์มงคล 1 ซอยสุดใจ และ หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 9 เฟส 1 จากการสอบถามชาวบ้านละแวกดังกล่าว เล่าว่า เหตุดังกล่าวนั้นเกิดไวมาก โดยที่ผู้ก่อเหตุมากระชากแล้วมันก็ไป ยังไม่ทันได้คุยอะไรเลย ของที่ผู้ก่อเหตุนั้นสั่งไว้มันก็ไม่ได้เอาไป โดยวันเกิดเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์มาสั่งน้ำอัดลม ส่วน ผู้เสียหายนั้นนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านขายของชำ โดยที่ผู้ก่อเหตุนั้นได้หันหน้าออกถนน เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายเห็นหน้า หรือ จำหน้าได้ ก่อนที่ไม่นานผู้ก่อเหตุจะกระชากสร้อยข้อมือของผู้เสียหาย แต่ ผู้เสียหายก็ได้ยื้อยุด กับ ผู้ก่อเหตุทำให้ผู้ก่อเหตุนั้น ได้กำไรข้อมือทองคำของผู้เสียหายไปเพียงครึ่งเดียว ซึ่งเป็น กำไรข้อมือทองคำ น้ำหนัก 1 บาท หลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้บิดรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางด้านหน้าปากซอย โดยปกติแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน ส่วนมากจะเกิดที่ถนนใหญ่มากกว่า ส่วน เหตุที่เกิดในพื้นที่ใกล้เคียงกันนั้น พบว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งหมวกกันน็อกที่ใส่ และ รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ และ คาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุรายเดียวกันที่ตระเวรก่อเหตุกระชากสร้อยในพื้นที่ อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า อยากให้เจ้าหน้าที่จับผู้ก่อเหตุให้ได้โดยไว เนื่องจากเหิมเกริมก่อเหตุบ่อย และ ก็พึ่งก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียง
ส่วนเคส หมู่บ้านทรัพย์มงคล 1 ซอยสุดใจ ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางปราณี อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงบ่าย ป้าออกจากบ้านใสกุญแจรั้วป้ากำลังจะไปตลาดทรัพย์พัฒนาเพื่อไปขายของ ป้าขายน้ำอยู่ตลาดทรัพย์พัฒนา ป้าก็ปั่นจักรยานออกไปเกือบถึงปากซอยแล้วรถน้ำแข็งก็มา ป้าก็เลยจอดจักรยานให้รถน้ำแข็งไปก่อนแล้วมอเตอร์ไซค์นี่ก็มาเบียดกับป้าข้างๆ ป้าก็นึกว่าใครมาแหย่ ป้าก็หันไปแล้วมันก็กระตุกสร้อยป้า ป้าก็เลยสะบัดหนีแล้วมันก็ไป ป้าก็ร้องให้คนช่วยเสียงดัง คนก็ออกกันมาหมดเลย สร้อยคอที่ใส่หนัก 1 บาท และพระหลวงพ่อโสธรเลี่ยมทอง เขาได้ไปกำนึงเป็นสร้อยที่ขาด เขาได้ไปไม่หมดมันคาอยู่ที่เสื้อ ลักษณะน่าจะผอมสูง ป้ายทะเบียนรถไม่มีแต่ข้างหลังรถเป็นกระเป๋าแกร๊บสีเขียวเหมือนไรเดอร์ส่งอาหาร จากที่ดูภาพที่ลูกชายให้ดูน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่อาละวาดอยู่ที่ซอยมังกร อยากจะเตือนภัยให้ระวัง
นายณัฐพล ชาวบ้าน เล่าว่า เมื่อวานสักประมาณบ่ายสองกว่า ๆ ขณะที่ตนกำลังจะออกไปทำธุระ เห็นคนจูงจักรยาน ตะโกนขอความช่วยเหลือว่าโดนกระชากสร้อย พอสังเกตไปข้างหน้าก็เห็นไรเดอร์กำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปทางไปซอย ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นไรเดอร์ที่มาส่งของที่บ้าน ตนจึงรีบตามไปจนถึงปากซอยแต่ตามไม่ทัน ช่วงนี้ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ถูกโจรไรเดอร์ตระเวนก่อเหตุบ่อย ตนได้ยินข่าวมาว่าไปก่อโดนกันมาแล้วหลายซอย ช่วงนี้ก็ไว้ใจใครไม่ได้เลย ตนก็อยากฝากถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่บ้านคนเดียวหรืออยู่กันหลายคน พวกไรเดอร์ตอนนี้มันมาหากินแบบใหม่ อ้างเป็นบริษัทนู้นบริษัทนี้ เข้ามาแกล้งถามบ้านเลขที่ อย่าเปิดประตูให้มัน ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นของเรา คือ พูดคำเดียวว่าไม่รู้ไปเลย ยิ่งใส่ของมีค่ามันจะยิ่งมาแวบ ๆ บ่อย อันนี้มันมาถามบ่อยเหลือเกิน ก็อยากให้ระวัง ๆ กันหน่อย พวกไรเดอร์ส่งของแต่ละบริษัท เดี๋ยวนี้ไม่น่าไว้ใจเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะมันแอบแฝงมาในรูปหลายแบบ และเมื่อวานนี้บ้านตรงข้ามตนก็โดนกระชากสร้อย ดีไม่โดนหมดทั้งเส้น