เจ้าของฟาร์มในจังหวัดกระบี่ เผยนกกรงหัวจุกในธรรมชาติหายาก สีสันเสียงร้องสู้นกเพาะเลี้ยงไม่ได้ หนุนปลดล็อกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง สร้างรายได้มหาศาลในชุมชน
วันที่ 18 ก.ย. 2566 นายธีระศักดิ์ บริพันธ์ อายุ 40 ปี เจ้าของฟาร์ม ยอดบริพันธุ์ฟาร์ม เพาะพันธุ์นกปรอดหัวโขน หรือนกกรงหัวจุก ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ที่ เลี้ยงพ่อแม่พันธุ์นกกรงหัวจุกไว้ในกรงเพื่อเพาะพันธุ์ รวมกว่า 30 กรง ภายในห้องพักอาคารสามชั้น ที่ทำเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์นกแฟนซี โดยคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีลักษณะรูปร่าง สีขนที่โดดเด่น ขาว เผือก ลาย สวยงาม เสียงร้องไพเราะ เพื่อให้ได้ลูกนกออกมาเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงนกกรงหัวจุก มีทั้งนกเผือกขนสีขาวทั้งตัว นกลาย และสีดำปกติ โดยมีราคาตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับลักษณะ เสียงร้องของนก
นายธีระศักดิ์ เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับกรณีมีการเสนอให้ต้องปลดล็อกนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เนื่องจากที่ผ่านมา การขอนุญาตเลี้ยงนกกรงหัวจุกมีขั้นตอนยุ่งยาก และปัจจุบันนี้ได้มีการเลี้ยงเพาะพันธุ์อย่างแพร่หลาย นกที่เป็นลูกผสมจากการเพาะเลี้ยงเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงนกแข่งขันนกกรงหัวจุก โดยนกแต่ละคู่สามารถ ออกไข่ได้ลูกนกปีละไม่ต่ำกว่า 20 ตัว ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมความสมบูรณ์ของพ่อแม่นก
ขณะที่ ปัจจุบันการลักลอบจับนกกรงหัวจุกตามธรรมชาติมีจำนวนลดลง หาได้ยาก เนื่องจากนกตามธรรมชาติลักษณะสีสัน เสียงร้อง สู้นกที่ได้จากการเพาะเลี้ยงนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีมาผสมกันไม่ได้ นอกจากนี้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันการเลี้ยงนกกรงหัวจุก มีมูลค่ามหาศาล สร้างรายได้ในชุมชน เช่น การเปิดฟาร์มเพาะพันธุ์ผสมนก ทำกรงนก ขายกล้วย เลี้ยงหนอน อาหาร เวชภัณฑ์ เกี่ยวกันนกกรงหัวจุก