จากเหตุการณ์ นายหน่อง ลูกน้องของกำนันนก ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ภายในงานเลี้ยงของ "กำนันนก" เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ขณะที่พลตำรวจโทจิรภพ ยังระบุว่า กล้องวงจรปิดที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนำไปกู้ภาพมาทั้งหมด 15 ตัว พบว่ามี 1 กล้องที่ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่จะเห็นในช่วงเวลาเกิดเหตุได้ แต่กล้องหยุดบันทึกในเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ทำให้ไม่เห็นภาพในขณะเกิดเหตุจริง ซึ่งมีการตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ เจ้าของบ้านหยุดเวลาของกล้องนี้ไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ และมีการทำลายหลักฐานหลังเกิดเหตุ ซึ่งกำลังตรวจสอบ แต่เชื่อว่าส่วนตัวของอดีตกำนันนก ไม่น่าจะมีความรู้ในการลบภาพในกล้องวงจรปิด เพราะการนำเซิร์ฟเวอร์กล้องไปทิ้งใช้เวลาไม่นาน ไม่น่าจะลบได้ จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนลบภาพในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากว่าไม่มีภาพวงจรปิดในขณะเกิดเหตุ ก็ยังมีหลักฐานอื่นประกอบการดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่พบว่ามีพันตำรวจโทภทร วรญาวิศุทธิ์ หรือ สารวัตรไอซ์ พาแฟนไปร่วมงานด้วย และจังหวะที่เกิดเหตุได้พาแฟนไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งกล้องวงจรปิดจับได้ว่าสารวัตรไอซ์ ยกปืนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงปืน แต่ไม่ได้ยิงไปที่บุคคลใด หรือเข้าไประงับเหตุ เนื่องจากอยู่ห่างจากจุดเกิดพอสมควร จึงอาจไม่เข้าข่ายผิดข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ
และเมื่อไล่เรียงภาพวงจรปิดหลังเกิดเหตุ พบว่าขบวนรถกำนันนก มาเลี้ยวรถที่ปั๊มน้ำมัน เพื่อกลับบ้านพัก
โดยมีข้อสงสัยว่ารถที่ร่วมขบวน เป็นรถของตำรวจนายไหน ที่นำกำนันนกหนี ซึ่งตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ มีการหลุดชื่อ สงสัยว่าจะเป็นร.ต.ท.มนัตเป็นคนขับหรือไม่
ล่าสุดทีมข่าวช่อง8 สอบถามร.ต.ท.มนัต เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยร.ต.ท.มนัส ระบุว่า หลังเกิดเหตุมีความหนักใจ โดยให้การกับทีมพนีกงานสอบสวนหมดแล้ว ยอมรับว่าไปร่วมงานกำนันนกด้วย เพราะรู้จักกันนานแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่คนที่ขับรถนำขบวนรถของกำนันนก ตามที่มีการรายงานข่าว
"ตำรวจทุกคนที่อยู่ในเหตุก็กังวลใจหมดแหละครับ ผมให้การไปหมดแล้ว ในวันเกิดเหตุกำนันเขาโทรเชิญไป อันนี้ผมให้การไปแล้ว ช่วยแก้ข่าวให้หน่อยได้ไหมครับ
รถคันที่ว่านำเบิกทาง คันนั้นไม่ใช่รถผมนะครับ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นคนใคร เพราะไม่รู้จัก ยืนยันว่าไม่ใช่รถผม" ร.ต.ท.มนัต ระบุ
นอกจากนี้ ร.ต.ท.มนัต กล่าวอีกว่า รู้จักกับกำนันนก เพราะเป็นคนภูมิลำเนาเดียวกัน บ้านเกิดบ้านเดียวกัน
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. กล่าวภายหลังเสร็จพิธีว่าตนดูแลในส่วนหน้างานป้องกันปราบปราม ก็ได้ทำหน้าที่ในช่วงแรก ในเรื่องของการติดตามมือปืน ในส่วนของคดี ท่าน ผบ.ตร. ท่านได้แบ่งเป็น2คดี คือคดีที่เกี่ยวกับกำนันนก กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยพลตำรวจโทจิรภพ ได้รับไปดำเนินการ ในส่วนที่รองโจ๊ก ควบคุมกำกับดูแลในเรื่องงานสืบสวน ในคดีที่เกิดขึ้นในภาค7 ส่วนคดี ตนไม่ได้ดูแล
โดยจะมีการแบ่งการทำคดี 3 หน่วย คือ คดีกำนันนก และหน่อง ฆ่าสารวัตรศิวกร โดยกองปราบดูแลคดี , ส่วนคดี 6 ตำรวจที่ถูกดำเนินคดีพาหลบหนี กองปราบทำงานร่วมกับป.ป.ช. , ส่วนอีกคดีบริษัทของกำนันนกฮั้วประมูลหรือไม่ ซึ่งกองปราบฯจะทำงานร่วมกับดีเอสไอ
"ก็ยอมรับว่าก็มีบางจังหวัดก็มีกต.ตร. เครือข่ายผู้มีอำนาจทางการเงิน และผู้มีอิทธิพลต่างๆ ผมเชื่อว่ามี เมื่อมีแล้วถือโอกาสทบทวน ต่อไปยังมีอีกผู้การฯต้องเป็นผู้รับผิดชอบแล้ว ที่ผ่านมาผมไปอยู่มาหลายภาค ที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ไม่เห็นมีเลยผู้มีอิทธิพล" ผบ.ตร. ระบุ