กรณีที่มีการยิงถล่มเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 02.17 น. สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด และไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ขับขี่และโดยสารรถยนต์กระบะ สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนยิงมาทางบ้านพักที่เกิดเหตุ ที่มีกลุ่มผู้เสียหายพักอยู่ จำนวนหลายนัด ในพื้นที่ ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
จากนั้นในการสืบสวน ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ตำรวจได้ไปจับกุมตัว นายอำนวย ได้ที่โรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งจากการสอบตกเป็นผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางตำรวจจึงได้แจ้งข้อหากับนายอำนวย “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจำเป็น เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ , ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน และ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่
โดยคดีดังกล่าว จะเกี่ยวกับกำนันนกหรือไม่ ไม่ขอยืนยัน เพียงแต่ชนะการประมูลก่อสร้างถนนมาแล้ว ถูกยิงถล่มดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินไปบ้านของนายอำนวย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน โดยมีนางอวยพร (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยาของนายอำนวย ออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตอนนี้นายอำนวย ได้ประกันตัวออกมาแล้ว แต่ตอนนี้นายอำนวย ไปทำงานนอกพื้นที่ ส่วนประเด็นที่นายอำนวย ไปถูกตำรวจนำหมายจับเข้าไปจับกุมตัวที่โรงพยาบาล ยอมรับว่าตอนนั้นตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งนายอำนวย ก็ยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนขับรถกระบะที่ไปก่อเหตุ แต่คืนนั้นที่รถของนายอำนวย ไปโผล่ในที่เกิดเหตุ เป็นเพราะว่านายอำนวย ให้เพื่อนยืมรถไป ซึ่งเพื่อนคนนั้นตอนนี้ก็เสียชีวิตไปแล้ว
ยืนยันส่วนตัวไม่รู้ว่านายอำนวย สามี สนิทสนมกับเพื่อนที่ยืมรถไปยังไง เนื่องจาก ตนเองอยู่กินกับนายอำนวย มาแค่ 3 ปี ยอมรับตอนนี้เครียด เพราะนายอำนวย ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ไหนต้องมาเจอคดีที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอีก ยืนยันคืนเกิดเหตุนายอำนวย นอนอยู่กับตนเองที่บ้าน ส่วนเรื่องคดีก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบะของกฎหมาย
ส่วนประเด็นเรื่องการแต่งตั้งกำนันนก เป็นกต.ตร.นั้น นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวถึงกรณีมีคำสั่งปลด นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ออกจากคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ หรือ กต.ตร. ด้านการศาสนาหรือวัฒนธรรม ว่า เนื่องจากกำนันนก ถูกดำเนินคดีฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น จึงทำให้ขาดคุณสมบัติ จึงต้องมีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งตั้งแต่เกิดเหตุ ส่วนการดำรงตำแหน่งใน คณะกรรมการ กต.ตร. นั้น ตำรวจเป็นผู้คัดเลือก และเสนอชื่อผ่านฝ่ายเลขาธิการขึ้นมา ตอนมีหน้าที่แค่เซ็นแต่งตั้ง ส่วนรายละเอียดยังคงต้องรอตรวจสอบ เพราะว่ากรรมการ กต.ตร. มีทั้งเป็นโดยตำแหน่งและผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละด้าน ที่ผ่านก็มีการตรวจสอบคุณสมบัติมาเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะมาถึงตน ตนจึงไม่ได้ตรวจสอบซ้ำ
เมื่อถามว่า กำนันนก มีรายชื่อเป็นกรรมการชุดอื่นหรือไม่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี และที่ผ่านมาก็ไม่เคยถูกร้องเรียนหรือตรวจสอบพฤติกรรมมาก่อน เพิ่งจะเรื่องครั้งนี้ครั้งแรก ซึ่งพ่อของกำนันนก ที่เป็นอดีตกำนัน ก็ไม่เคยมีเรื่องถูกร้องเรียนมาก่อนเช่นกัน แต่ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกำนันนกมาก่อน ตอนไปประชุมอำเภอ อาจจะเคยพบ แต่จำไม่ได้ ส่วนการเข้าสู่ตำแหน่งกำนันของกำนันนกนั้น ได้รับการยืนยันจากนายอำเภอ ว่า กำนันนก ผ่านขั้นตอนการเลือกตั้งเป็นกำนันอย่างถูกต้อง
เมื่อถามถึงการฮั้วประมูลโครงการรัฐ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เข้าไปตรวจสอบโครงการที่บริษัทของ"กำนันนก"ชนะการประมูลตามขั้นตอนแล้ว ส่วนจะมีการฮั้วการประมูลหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เมื่อถามต่อว่า มีการตั้งกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบหรือไม่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า บางหน่วยงานมีโครงการจำนวนมาก แต่เบื้องต้นจะมีการสรุปว่ามีหน่วยงานใดบ้าง หลังจากนั้นจะมีการตรวจสอบรายละเอียด เป็นรายหน่วยงานไป ยืนยันจะเร่งให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ จะเกิดการฮั้วประมูล นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ยังตอบชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบร่วมกันหลายหน่วย แต่ยืนยันว่า หากพบมีเจ้าหน้าที่ของจังหวัดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะลงโทษทางวินัยแน่นอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ยังเปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้จังหวัดนครปฐมจะเรียก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้านทุกตำบลมาพูดคุย ทำความเข้าใจถึงการทำหน้าที่ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยจะมีการพูดคุยถึงกรอบอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน การวางตัว และการประกอบอาชีพที่สุจริต และที่สำคัญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกบ้าน
ส่วนหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านย้อนหลังหรือไม่ นายสุรศักดิ์กล่าวว่า รอรับนโยบายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในวันนี้ก่อน
ทั้งนี้ เมื่อถามถึงความคิดเห็น กรณีที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำรงตำแหน่งนานเกินไป จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า มีทั้งคุณและโทษอยู่ที่ตัวบุคคล หลายคนที่ ดำรงตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี ก็เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของกฎหมายหรือตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลมากกว่า พร้อมยืนยันว่าไม่หนักใจที่ต้องเข้าไปกำกับดูแล เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้เต็มที่สุดความสามารถอยู่แล้ว
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ ว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการมาแล้วให้ตั้งคณะกรรมการ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและตนเป็นรองประธาน มีปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศก่อน และตรวจสอบดู ว่า ยังมีอิทธิพลอยู่หรือไม่ มีผู้มีอิทธิพลรายใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นสีแดง และ สีเหลือง เพื่อทำข้อมูลใหม่ โดยจะเน้นย้ำถึงความเป็นธรรม กับผู้ที่ไม่ได้มีอิทธิพลแล้ว ขณะนี้ ที่เกิดคดีของกำนันนก จะต้องตรวจสอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนักการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศก่อน
นายชาดา ยังกล่าวว่าผู้มีอิทธิพลที่พฤติกรรมไม่ดี มีหลายรูปแบบบางคนไม่ได้มีตำแหน่ง แต่มีอิทธิพล แต่บางคนมีอิทธิพลมากถึงขั้นแต่งตั้งนักการเมืองได้ ก็จะต้องตรวจสอบไปตามขั้นตอน ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ
เมื่อถามว่าการตรวจสอบผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี เป็นอย่างไร นายชาดา กล่าวว่า จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการแบ่งพื้นที่เป็นสีแดงและสีเหลืองเรียบร้อยแล้ว โดยสีแดงนั้นมีน้อยมาก เมื่อถามต่อว่า ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมต่อไปจะเป็นจุดต่อไปที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่นายชาดากล่าวว่า ตรวจพร้อมกันทั่วประเทศทั้งหมด
ส่วนจะมีการเปิดรายชื่อผู้มีธิพลหรือไม่นายชาดา กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เหมือนสมัยก่อน เพราะมีกฎหมายป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมย้ำว่าการทำงานปัจจุบัน หากมีรายชื่อหลุดไปอาจจะถูกฟ้องร้องได้
เมื่อถามว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่มีชื่อปรากฏ จะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตนเองมีความเป็นธรรมอยู่แล้ว และไม่สามารถปิดบังตนเองได้
เมื่อถามถึงการตั้งกรอบระยะเวลาการทำบัญชีสีแดงและสีเหลือง นายชาดา กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เสร็จเรียบร้อยแล้ว และในหลายจังหวัดก็จบแล้ว ในการทำงานไม่ได้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยอย่างเดียว แต่มีกระทรวงอื่นมาร่วมทำงานด้วย แต่เบื้องต้นสามารถรวบรวมข้อมูลได้ 20-30 % แล้ว ซึ่งตนเองจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขออย่าไปบีบเจ้าหน้าที่ให้เร่งทำงาน
เมื่อถามว่ากังวลไหมว่าผู้มีอิทธิพล จะเข้ามาแทรกแซงการขึ้นบัญชีครั้งนี้ นายชาดา ย้อนถามกลับว่า"ใครจะมาใหญ่กว่าผม" พร้อมหัวเราะแล้วบอกว่า"ผมตัวใหญ่"
ล่าสุดทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่มายัง ต.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พบกับ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือ สารวัตรแรมโบ้ อดีตตำรวจมือปราบน้ำดี เพื่อพูดคุยเรื่องของทัศนะในคดีกำนันนก โดยสารวัตรแรมโบ้ได้เปิดใจพร้อม แสดงความคิดเกี่ยวกับคดีนี้ โดยเฉพาะประเด็น มองไหมว่าหากมีตำรวจที่ตงฉินเกินไปทำให้ผู้มีอิทธิพลหรือตำรวจที่รับเงินส่วย มองว่าจะทำอะไรก็ยากไปหมด ส่วนตัวมองว่าอยู่ที่ความไม่พอของมนุษย์ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีทั้งเบี้ยเลี้ยงและบำนาญแล้ว และถ้าเป็นตน เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิด