"ชาดา" ขอเวลาเดินหน้ากวดขันผู้มีอิทธิพล เป้าหมายแรกกวาด "กำนันผู้ใหญ่บ้าน" หากผิดจัดการทันที ประกาศกร้าวกรณี "กำนันนก" ต้องไม่เกิดขึ้นอีก ใครจะมาใหญ่กว่าอำนาจรัฐไม่ได้ ใหญ่กว่าคุกไม่ได้ เปรยมีแนวคิดมอบโล่ให้ผู้มีอิทธิพลที่กลับใจ
วันที่ 19 ก.ย. 2566 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ถึงภารกิจใหญ่ "ปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ" ว่า ตนยอมรับเคยเป็นผู้มีอิทธิพลเมืองอุทัยธานีมาก่อน ตนก็เคยถูกขึ้นบัญชีและถูกตรวจสอบมาแล้ว แต่ผู้มีอิทธิพลก็มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ตนผ่านจุดนั้นมาแล้ว ทุกคนก็เคยกลิ้งกันมาทั้งนั้นแหละ ดังนั้น การให้ตนเข้ามาตรวจสอบมันก็เหมือนว่า วางคนถูกฝาถูกตัว ตนเคยมีประสบการณ์มาแล้ว จึงรู้เรื่องนี้ดี และถือว่าเป็นผู้รอบรู้ตรงนี้ ที่ผ่านมาตนรู้จักคนเยอะก็เลยเป็นจุดดีที่เอาจุดนี้มาบริการประชาชน
นายชาดา กล่าวต่อด้วยว่า วันนี้ตนเข้ามาตำแหน่งนี้แล้ว ผู้มีอิทธิพลคนเก่าต้องหยุด คนใหม่ต้องไม่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็คืบหน้าไปเยอะแล้ว ทั้งตั้งคณะกรรมการและเก็บข้อมูล
สำหรับจังหวัดอุทัยธานีเสร็จเรียบร้อยแล้ว พื้นที่สีแดงน้อยมากเหลือผู้มีอิทธิพลไม่มาก แต่ตนก็ไม่ได้ลงไปดูเองคัดชื่อเอง เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่เมื่อรายชื่อส่งมาถึงตนก็ดูเพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่า คนนี้หายไป คนนี้เพิ่มเข้ามาอย่างไร เหตุผลเป็นไปได้หรือไม่ ขอใช้เวลาหน่อย เพราะเราไม่อยากให้ไปกระทบกับคนดี และไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้ง
ส่วนกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน เป็นกลุ่มแรกที่เราตรวจสอบ หลังจากเกิดกรณี "กำนันนก" ซึ่งหากพบมีความผิด 1 ใน 16 ฐานความผิด ตนจัดการทันที และต่อไปนี้นายอำเภอต้องรู้พฤติกรรมของกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพราะเราจะเน้นการป้องกัน พร้อมประกาศเลยว่า ในยุคของตนจะต้องไม่เกิดกรณีกำลังนกขึ้นอีก ใครจะมาใหญ่กว่าอำนาจรัฐไม่ได้ ใหญ่กว่าคุกไม่ได้
"ต่อไปนี้นายอำเภอต้องรู้ ต้องรายงาน ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ไปเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้กำกับผู้การ แต่นายอำเภอต้องไปด้วย นายอำเภอจะเป็นตัวจักรสำคัญ ในการสกรีนพื้นที่ก่อน ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เอาข้อมูลมาดู ผมไม่ได้ทำงานแบบไฟไหม้ฟาง หรือตามกระแสผมก็ถูกกดดัน แต่ผมก็มีระบบการทำงานของผมจากประสบการณ์ชีวิต ที่เคยโดนมาแล้ว ผมก็รู้ช่องหนีทีไล่เป็นอย่างไร คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างไร คนดีเราต้องคุ้มครอง คนไม่ดีเราต้องจัดการ"
เมื่อถามถึงกรณีมีความเชื่อมโยงกับนักการเมือง ยกตัวอย่างกรณีของกำนันนก มีนักการเมืองท้องถิ่นหรือกลุ่มบ้านใหญ่เข้าไปสนิทสนมหรือเกี่ยวข้อง นายชาดา กล่าวว่า ตนมองว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับบ้านใหญ่ เพราะเวลางานเลี้ยงเขาเชิญไปเราก็ต้องไป แต่มันไม่ใช่การไปสนับสนุน บ้านใหญ่เขาไม่สนับสนุนคนประเภทนี้หรอก เพราะถ้าบ้านใหญ่โง่ขนาดนั้น ก็คงไม่โตเป็นบ้านใหญ่ถึงวันนี้ และคนที่เป็นนักการเมืองมานาน เขาก็รู้ว่าควรจะแตะใครหรือไม่แตะใคร จะเห็นได้ชัดว่าในงานเลี้ยงบ้าน"กำนันนก" ก็ไม่มีนักการเมืองระดับชาติเข้าไป ก็ต้องให้เกียรติผู้แทนจังหวัดนครปฐมด้วย
เมื่อถามว่า หลายคนมองว่า อายุการดำรงตำแหน่งของกำนันผู้ใหญ่บ้าน เป็นจุดที่ทำให้เขาวางอิทธิพลได้ นายชาดา กล่าวว่า กำนันบางทีต้องมีบารมี เพื่อจัดการปัญหาในพื้นที่ แต่บางคนก็ดูเหมือนว่าจะเกินเลยเกินไป และมันก็เป็นลักษณะของสังคมไทยที่เป็นสังคมอุปถัมภ์ ไม่ใช่กำนันทุกคนไม่ดี และจะให้เลือกทุก 4 ปีมันก็ไม่ใช่ มันจะวุ่นวายมาก ดังนั้น ต้องหาจุดที่มันลงตัวเพื่อป้องกันการอยู่ในอำนาจนานเกินไป อาจจะทบทวนกันทุก 10 ปี ก็ต้องดูความเหมาะสม
นายชาดา ยังกล่าวอีกว่า ตนก็มีแนวคิดว่าจะสร้างแรงจูงใจให้คนที่มีอิทธิพลเลิกพฤติกรรมไม่ดี โดยตั้งใจว่าจะมอบโล่ให้กับคนที่กลับใจแล้ว
นายชาดา ยังกล่าวถึงการถูกโจมตีและถูกปรามาส โดยเฉพาะการตัดต่อภาพในโซเชียลมีเดีย ว่า ไม่รู้สึกน้อยใจหรือไปใส่ใจ เพราะชีวิตถูกโจมตีมาตลอดตั้งแต่เป็นนายกเทศมนตรี จนมาเป็น สส. และรัฐมนตรี ยอมรับเคยท้อแต่ไม่ถอย อย่างภาพครูกายแก้ว ตนก็มองว่าเป็นเรื่องตลก ส่วนที่มีการตัดต่อคลิปว่า พูดคนเดียวบ้างอะไรบ้างตนก็มองเป็นภาพตัดต่อ ยอมรับไม่พอใจ แต่คนที่มีสปอร์ตไลท์ฉายมาที่ตัว ก็ต้องยอมรับสภาพตรงนี้ พร้อมยอมรับว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีรู้สึกกดดัน เพราะเราก็ทำดีมาตลอด แต่ท้อได้ไม่มีถอย
นายชาดา ยังยืนยันได้ว่าส่วนตัวไม่ยุ่งเรื่องของยาเสพติด ส่วนอาการที่เป็นเกิดจากอุบัติเหตุ ล่าสุดเพิ่งไปฉีดยา 4 เข็มเพื่อรักษาอาการนี้ คนที่เอาอาการของคนป่วยมาเป็นเรื่องสนุก พวกนี้ไม่มีมารยาท แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง และวันนี้ ไม่ต้องตรวจหรอกฉี่ตรวจเลือดไปเลย เพราะตนมาถึงตรงนี้แล้ว ไม่มีใครไปคิดทำอะไรแบบนั้นหรอก
"สำหรับคนที่ไม่เชื่อมั่นในตน ก็ขอให้ติดตามตอนต่อไป ให้ความเป็นธรรมกับผม ไม่ใช่ว่าผมทำอะไร มันก็ไม่ดีอย่างเดียว แต่สำหรับผมผมไม่ได้แคร์ตรงนั้นผมไม่ได้แคร์เลย ผมแชร์แต่คนที่เขาอยู่ข้างเราคนที่เขาเชียร์เรา และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่เขาให้ความคาดหวัง ไม่ผิดหวังแน่กับพี่น้องประชาชนครับ ส่วนคนที่มาตำหนิผมผมก็ต้องเสียใจด้วยถ้าวันนึงเขาผิดหวัง" นายชาดา กล่าว