ที่จังหวัดศรีสะเกษ ชาย อายุ 41 ปี ไปปรึกษาญาติ ซึ่งเป็นเด็กอาชีวะว่าอยากซื้อปืน แต่ญาติเกิดหลอนกัญชา เข้าใจว่าตั้งใจจะซื้อปืนเพิ่งมายิงตัวเอง กลับบ้านไปเอาปืนมากระหน่ำยิง 6 นัด อาการสาหัส
ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุชายถูกยิงอาการสาหัส ภายในบ้านพัก ตำบลโพนค้อ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบตัวผู้บาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ ภายในบ้าน ตำรวจพบกองเลือดขนาดใหญ่ และพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ตกอยู่ 6 ปลอก สอบถาม นางสายทอง แก้วมณีย์ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านให้การว่า ผู้บาดเจ็บชื่อ นายสุทิน นุชานาถ อายุ 41 ปี ลูกเขย ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายวีระภาพ สาระผล หรือ ทีม อายุ 19 ปี หลานของเจ้าของบ้าน ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน
โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุ ได้นั่งคุยกันบริเวณม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจับกลับบ้านไปครู่หนึ่ง และกลับมาอีกครั้ง ในสภาพมึนเมากัญชาอย่างหนัก พร้อมอาวุธปืน โดยได้ตะโกนเรียกผู้บาดเจ็บให้ออกมานอกบ้าน แต่ผู้บาดเจ็บไม่ออก ผู้ก่อเหตุจึงเดินเข้ามาในบ้าน และกระหน่ำยิง 6 นัด กระสุนถูกผู้บาดเจ็บ 3 นัด บริเวณหลังขวา ไหล่ขวา และแขนขวา ก่อนญาติที่เห็นเหตุการณ์ต้องเข้าห้าม เพื่อให้ผู้ก่อเหตุสงบสติอารมณ์ลง
จากนั้น ตำรวจได้ไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ก่อเหตุ คือ นายวีระภาพ นักศึกษา ปวส.ปี 1 ของสถาบันอาชีวะศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ พบของกลางอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งนายวีระภาพ อยู่ในสภาพตาเยิ้ม เมากัญชาอย่างหนัก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บ ได้มาปรึกษาว่าอยากซื้อปืน ขนาด .22 ไว้ป้องกันตัว ซึ่งตนได้ตอบว่า ปืนขนาดไหนก็ยิงคนตายได้หมด และเกิดคิดว่า ผู้บาดเจ็บอาจซื้อปืนมายิงตนเอง จึงตัดสินใจกลับบ้านไปเอาปืน ขนาด .38 ที่ซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต ในราคาหมื่นเศษ กลับไปยิงใส่ผู้บาดเจ็บทันที พร้อมกล่าวว่า ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับผู้บาดเจ็บมาก่อน แต่ที่ลงมือ น่าจะมาจากอาการหลอน เนื่องจากตนเองสูบกัญชาอย่างหนัก
เบื้องต้น ตำรวจได้คุมตัวตัว นายวีระภาพ ไปสงบสติอารมณ์ และให้สร่างเมาก่อน เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะรอปากคำพยานในเหตุการณ์เพิ่มเติมด้วย และเตรียมแจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ นายวีระภาพ พบว่า ญาติเคยพาเข้าบำบัดรักษา อาการติดเสพติด ที่จังหวัดอุบลราชธานี แต่เมื่อพ้นการบำบัดรักษา ก็กลับมาติดกัญชาอย่างหนัก จนเกิดอาการหลอน และก่อเหตุรุนแรงขึ้น