จากกรณีที่นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำตำรวจเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ปี และ 4 ปี ที่ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะตรวจสอบพบว่า มีลูกวัย 2 ขวบหายตัวไปด้วย จึงได้จับกุมพ่อแม่เด็กที่หน้าห้างสรรพสินค้าย่านรังสิต ทั้งคู่ให้การสารภาพว่า เป็นคนร่วมกันทุบตีบุตรสาววัย 2 ขวบจนเสียชีวิต จากนั้นก็นำศพใส่รถยนต์ไปที่บ้านของแม่เด็กที่ จ.กำแพงเพชร ฝังไว้ที่พื้นห้องครัวหลังบ้าน แล้วโบกปูนซีเมนต์ทับไว้
คุมตัวสอบ เอ็ม ส่องศักดิ์ สอบเครียดฆ่าลูกโบกปูน พบสะอึกสะอื้นก่อนอ้างป่วย
คุมตัวนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาเมื่อวานนี้ ทีมข่าวไปได้คลิป ซึ่งคลิปดังกล่าวไม่ใช่การจับกุมตัว แต่เป็นการเชิญตัวมาสอบปากคำ โดยภาพในคลิป ก็คือ พ.ต.ท.ไชยา ภูละมุล ซึ่งเป็นรองผู้กำกับสืบสวนของ สน.บางเขน ได้ไปเจอตัวนายส่องศักดิ์ในขณะที่กำลังไปจอดรถกดเงินที่หน้าห้างบิ๊กซีใกล้กับห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อเจอตัวแล้ว ทางรองผู้กำกับได้เดินสอบถามกับนายส่องศักดิ์ว่า ตอนนี้ศพอยู่ไหน ซึ่งนายส่องศักดิ์ก็รับสารภาพว่าศพอยู่กำแพงเพชร เอาไปฝั่งที่บ้านเมียได้ประมาณ 3 - 4 เดือนแล้ว จากนั้นรองผู้กำกับก็บอกว่า มีไรค่อยๆแก้ไขกันนะ แล้วก็คุมตัวนายส่องศักดิ์ไปที่ สน.บางเขน
จากนั้นเวลา 20.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนางสุนัน กลับจากห้องสืบสวนมายังห้องควบคุมตัว ระหว่างทางสื่อมวลชนได้พยายามสอบถาม นางสุนัน ถึงเรื่องการก่อเหตุ และ มีอะไรตะพูดกับลูกที่เสียชีวิตมั้ย โดยนางสุนั้นไม่ตอบใดๆกับสื่อมวลชน แต่ในช่วงที่สื่อมวลชนได้ถามว่ามีอาการเครียดไหม นางสุนัน ได้พยักหน้าตอบรับและมีอาการสะอื้นออกมาช่วงหนึ่ง และพยายามหลบกล้องที่สื่อมวลชนถ่ายจนถึงห้องควบคุมตัว
พ่อเลี้ยงโหดร่วมแม่ฆ่าโบกปูนลูกฝังครัวเค้นสอบเพิ่ม สะอื้นไห้อ้างป่วยจิต
ความคืบหน้ากรณีตำรวจ สน.บางเขน รวบตัวพ่อเลี้ยงและแม่ใจโหด ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นทำลายศพ ชี้จุดที่ร่วมกันฆ่าโบกปูนลูกสาววัย 2 ขวบ โดยฝังไว้ในพื้นห้องครัวที่บ้านใน จ.กำแพงเพชร ก่อนคุมตัวกลับมาเค้นสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 20 ก.ย.ที่ สน.บางเขน ตำรวจคุมตัวนายส่องศักดิ์ ส่งแสง อายุ 47 ปี พ่อเลี้ยงมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งที่ห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน โดยนายส่องศักดิ์ สะอื้นไห้ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าลูกจริง และอ้างว่าสาเหตุที่ทำลงไปเป็นเพราะมีอาการป่วยและต้องทานยาจิตเวชมาหลายปี ส่วนตัวรู้สึกสำนึกผิด ต้องการขอโทษสังคมกับสิ่งที่ทำลงไป
อย่างไรก็ตาม นายส่องศักดิ์ ปฏิเสธไม่ตอบคำถามว่าตนเองมีภรรยาและลูกรวมทั้งหมดกี่คน
แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีภรรยา 4 คน มีลูกรวมทั้งหมด 10 คน อายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 22 ปี ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อหาความเชื่อมโยงกับลูกที่เสียชีวิตไปและสืบหาว่ามีลูกคนใดถูกฆาตกรรมอีกหรือไม่กี่ราย
เวลา 11.00น. ทางตำรวจได้นำรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีเทา ทะเบียน กท5042 กำแพงเพชร ที่ตรวจยึดได้ขณะผู้ต้องหาทั้งคู่กำลังกดเงินสดในห้างบิ๊กซี ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต มาเก็บรักษาที่ สน.บางเขน ซึ่งเป็นรถคันนี้เป็นรถที่ใช้ขนร่างของลูกวัย 2 ขวบ กลับไปฝังที่บ้านนางสุนัน ใน จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับคดีนี้ นายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม มีภรรยามาแล้ว 4 คน ลูก 10 คน รายละเอียดดังนี้
ภรรยาคนที่ 1 นางสาวศิรินันท์
- มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ นายพลกร ลูกอายุ 20 ปี ซึ่ง น.ส.ศิรินันท์ เป็นชาวจังหวัดตรัง ลูกอยู่ที่ จ.ตรัง ตอนนี่ตำรวจระหว่างนำตัวมาจาก จ.ตรัง เพื่อมาสอบ
ภรรยาคนที่ 2 นางสาวเจษฎา (ยังไม่ได้แจ้งข้อหา อยู่ระหว่างสืบสวนหาความเชื่อมโยงร่วมกระทำความผิด)
- มีลูกด้วยกัน 5 คน (ตาย4 มีชีวิต1)
1.ด.ญ.วิญาดา อายุ 12 ปี (อยู่สถานสงเคราะห์ ที่ กัน จอมพลัง ไปช่วย)
2.ด.ช.ศักดา เสียชีวิตปี 2556 ตอนอายุประมาณ 10 เดือนเสียชีวิตที่พักแห่งหนึ่งระหว่างซอยพหลโยธิน50 และพหลโยธิน52 เดินทางโดยรถตู้นำศพไปทิ้งที่บริเวณหลังสวนจตุจักร พื้นที่ สน.บางซื่อ
3. ด.ช.ธีรภาพ เสียชีวิตปี 2557 ตอนอายุประมาณ 1 เดือน ที่อพาร์ทเม้นท์ ไม่ทราบชื่อหลังตลาดสี่มุมเมือง เดินทางนำศพไปทิ้งโดยรถจักรยานยนต์ ทิ้งที่บริเวณที่รกร้างถนนพหลโยธินขาเข้า ใกล้ปั้มเอสโซ่ พื้นที่ สน.สายไหม
4. ด.ช.ธนาทรัพย์ อายุประมาณ 2 เดือน เสียชีวิตปี 2559 ที่พักแห่งหนึ่ง ระหว่างซอยพหลโยธิน50 และพหลโยธิน52 เดินทางโดยรถตู้นำศพไปทิ้งที่บริเวณหลังสวนจตุจักร เขต สน.บางซื่อ
5.ด.ช.ณัฐพงศ์ อายุ 5 เดือน เสียชีวิตปี 2561 ที่พักแห่งหนึ่งระหว่างซอยพหลโยธิน50 และพหลโยธิน52 เดินทางนำศพไปทิ้งโดยรถจักรยานยนต์ ทิ้งที่บริเวณที่รกร้างถนนพหลโยธินขาเข้า ใกล้ปั้มเอสโซ่ เขตสน.สายไหม
ภรรยาคนที่ 3 นางสาวศรินญา
มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ ด.ช.ธีวัฒน์ อายุ 10 ปี (ศรินญา เป็นชาว จ.ตรัง อยู่ระหว่างนำตัวมาจาก จ.ตรัง เพื่อมาสอบลูกอยู่กับแม่)
ภรรยาคนที่ 4 นางสุนัน อายุ 46 ปี (ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา )
มีลูกด้วยกัน 3 คน (มีชีวิตอยู่ 2 คน ตาย1คน)
1.ด.ญ.ปริฉัตรดา อายุ 3 ขวบ (ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือจากกัน จอมพลัง ไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์)
2. ด.ญ.เนตรขวัญสุดา หรือ น้องโมเดล วัย 2 ขวบ ฆ่าแล้วนำไปฝังโบกปูนไว้ที่บ้านจ.กำแพงเพชร (21 พ.ค.ปี 66)
3. ด.ช.อนันตชัย อายุ 6เดือน ฝากญาติเลี้ยง ที่ จ.กำแพงเพชร
เปิดวงจรปิด เอ็ม - จุ๋ม พลอดรักในห้องขังหลังถูกรวบ
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พบภาพกล้องวงจรปิดเห็น เอ็ม และ จุ๋ม นำมือมาจับกันตลอดเวลาหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้วนำตัวไปห้องขัง โดยกล้องจับภาพได้ทั้งคู่อยากสัมผัสซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา
จดหมายบรรยายความรู้สึกของนางสาวเจษฎา ภรรยาอีกคนของนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ระบุว่า เจอจดหมาย ที่เขียนบรรยายความรู้สึกอัดอั้นตันใจและความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ระบายความรู้สึกที่มีต่อนายส่องศักดิ์ ว่าไม่รักเราเลย บังคับจิตใจเราอย่างแสนสาหัส โดยข้อความทั้งหมดถูกเขียนลงบนกระดาษ 1 แผ่น วางไว้บนโต๊ะ ภายในห้องพัก ซึ่งไม่ได้มีความยาวมากนัก และยังมีการพบมีด 3 เล่ม มีร่องรอยถูกลนไฟ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของนางสาวเจษฎาที่ระบุว่าถูกสามีบังคับให้ทำร้ายลูกและตัวเอง ก่อนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนประด็นของน้องโมเดลที่เสียชีวิตใน จ.กำแพงเพชร รอง ผบช.น. ระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรงกับเหตุการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเตรียมเข้าสอบปากคำนางสาวเจษฎาเพิ่มเติมในประเด็นที่อยู่ในจดหมาย และอาวุธมีดที่พบร่องรอยลนไฟ ตลอดจนประเด็นอื่นที่ยังสงสัยให้เกิดความกระจ่าง
คุมตัว จุ๋ม สุนัน สอบปากคำ แต่ไม่ตอบคำถามสื่อ
เวลา 19.25 น. ตำรวจได้นำตัวนางสุนัน นาหัวนิล อายุ 40 ปี ออกจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยผู้สื่อข่าวได้ถามว่าได้ลงมือฆ่าน้องโมเดลไหม นางสุนันได้ส่ายหน้า
(กล้องไม่ทัน) จากนั้นตำรวจได้พาตัวนางสุนันเดินฝ่ากลุ่มสื่อมวลชนไปที่ห้องสืบสวน โดยในระยะเวลา 4 นาที นางสุนันไม่ปริปากตอบคำถามกับสื่อมวลชนเลย (คำถามท้ายๆค่อยข้างแรง)
จากนั้นเวลา 20.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนางสุนัน กลับจากห้องสืบสวนมายังห้องควบคุมตัว ระหว่างทางสื่อมวลชนได้พยายามสอบถาม นางสุนัน ถึงเรื่องการก่อเหตุ และ มีอะไรตะพูดกับลูกที่เสียชีวิตไหม โดยนางสุนั้นไม่ตอบใดๆกับสื่อมวลชน แต่ในช่วงที่สื่อมวลชนได้ถามว่ามีอาการเครียดไหม นางสุนัน ได้พยักหน้าตอบรับและมีอาการสะอื้นออกมาช่วงหนึ่ง และพยายามหลบกล้องที่สื่อมวลชนถ่ายจนถึงห้องควบคุมตัว