จากคดีสะเทือนขวัญ นายเอ็ม ซึ่งเป็นพ่อฆ่าลูก 5 ศพอำพราง หลัง "กัน จอมพลัง" บุกช่วยเด็กที่ได้รับแจ้งถูกพ่อทำร้าย
ก่อนนำสู่การติดตามจับตัวพ่อ มาสอบสวน จนพบว่า มีการนำร่างลูกสาววัย 2 ขวบ อำพรางศพโบกปูนใต้พื้นปูน ใกล้ห้องครัวที่บ้าน จ.กำแพงเพชร
และยังสอบสวนพบว่า ตำรวจพบว่าพ่อรายนี้เคยฆ่าลูกมาแล้ว 4 ศพ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนติดตาม นำหลักฐานมาประกอบคดีลงโทษฆาตกรรมลูกต่อเนื่อง
ต่อมาทีมข่าวช่อง8 เดินทางมายังบ้านของนางสาวภา นามสมมติ อดีตภรรยาคนหนึ่งของนายเอ็ม
นางสาวภาให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วตัวเองเคยคบหากับนายเอ็มมาก่อน
ตอนนั้นตัวเองคบหากับนายเอ็มได้ประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งตัวเองได้ตั้งท้องลูกของเขาได้8เดือน ก็ได้เลิกรากันเนื่องจากฝ่ายชายขี้เกียจทำงาน จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับฝ่ายชายอีกเลย
จนกระทั่งลูกชายตัวเองอายุสามเดือน นายเอ็มได้มาเยี่ยมลูกชายที่บ้านเป็นครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นเขามาในสถานะเป็นพระสงฆ์
ต่อมาลูกชายตัวเองอายุได้ 12 ขวบ นายเอ็มได้มามาเยี่ยมลูกชายเป็นครั้งที่สอง
และตอนลูกชายอายุได้ 18 ปี นายส่องศักดิ์ได้มามาเยี่ยมลูกชายเป็นครั้งที่สาม ซึ่งตอนนั้นเขาก็พูดคุยกับลูกชายถึงเรื่องทุกข์สุขทั่วไป
แล้วลูกชายก็ติดต่อกับนายเอ็ม ทางไลน์ ส่วนตัวเองนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับอดีตสามีอีกเลย จึงไม่รู้ว่าเขาไปมีภรรยากี่คนมีลูกกี่คน
กระทั่งเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว นายเอ็มได้แชตไลน์ มาคุยกับลูกชายว่าจะไปเยี่ยมที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา
กระทั่งวันนี้ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่า นายเอ็มได้ไปก่อเหตุฆ่าอำพรางลูกน้อยวัยสองขวบ ยอมรับว่าตัวเองก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เนื่องจากตอนที่อดีตสามีใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง ถึงเขาจะเป็นคนขี้หงุดหงิดก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายตัวเอง ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับเด็ก
หากจะถามว่าอดีตสามี มีโรคประจำตัวหรือเป็นจิตเวชหรือไม่นั้น ตัวเองก็ไม่เคยเห็นเค้ามีอาการดังกล่าวแต่อย่างใด
ส่วนสิ่งของบูชาที่กินข้าวไปพบในบ้านเกิดของอดีตสามี ตัวเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร และตอนที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง เขาก็ไม่เคยเล่นของหรือพึ่งเรื่องไสยศาสตร์
เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองก็ไม่มีคำพูดไหนอยากจะฝากถึงอดีต สามีเนื่องจากตัวเองและเขาได้เลิกรากันไปแล้ว
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้รับแชต ที่นายเอ็ม คุยกับลูกชายคนแรก แชตหน้าที่ 1 เมื่อ 26 เมษายน นายเอ็ม ได้ทักมาหาลูกชายว่า “ใช่ลูกพ่อไหม พ่อสืบหาเฟชลูกตั้งนาน” จากนั้นนายเอ็มก็บอกว่า “เดี๋ยวพ่อไปหา”
แชตหน้าที่ 2 นายเอ็มได้บอกลูกชายคนโตว่า “พ่อคิดถึงลูกมาก แต่พ่อไปหาไม่ได้ เพราะพ่อมีน้องหลายคน เดี๋ยวพ่อไปหาลูกนะ พ่อจะเอาตังค์ไปให้ลูกด้วย“
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง บ้านเกิดของนายเอ็ม ที่อำเภอห้วยยอด จ.ตรัง
โดยน้องชายของนายเอ็ม ได้พาทีมข่าวไปดูบริเวณหิ้งพระ ซึ่งเป็นสิ่งของที่นายเอ็ม บูชาตั้งแต่เขายังเด็ก พบว่าที่หิ้งพระ มีผ้ายันต์สีแดงวางไว้อยู่ในพาน และบนเพดาน มีห่อผ้าสีขาวห้อยเอาไว้ ซึ่งน้องชายของผู้ต้องหาบอกกับทีมข่าวว่า พี่ชายของเขาเลี้ยงพระเสือเอาไว้ ซึ่งห่อผ้าสีขาวจะมีพระเสืออยู่ด้านในนั้น แต่ทางน้องชายก็ไม่รู้ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรเพราะไม่มีใครกล้าเปิดดู และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเปิดดูด้านในห่อผ้า เนื่องจากกลัวครอบครัวจะมีอันเป็นไป
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพ่อของนายเอ็ม ผู้ต้องหา ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เหตุที่เกิดขึ้น ตัวเองคิดว่าลูกชายเป็นโรคจิต เพราะว่าตัวเองได้คุยโทรศัพท์ กับลูกชายก่อนที่ลูกชายจะโดนจับกุม ว่าให้เขาไปมอบตัว
นายเอ็ม ลูกชายได้เล่าความในใจให้ตัวเองฟังว่า “เขาเห็นเด็กร้องไห้ไม่ได้ หากเห็นเด็กร้องไห้ทีไรก็อยากจะเข้าไปทำร้ายทุกที”
ถามว่า ที่ผ่านมานายเอ็ม ลูกชายของตัวเองมีภรรยากี่คน หรือมีลูกกี่คนนั้นตัวเองก็ไม่รับทราบในเรื่องนี้เนื่องจากลูกชายย้ายออกจากบ้านไปกว่า 20 ปีแล้ว และตัวเองก็ไม่เคยเห็นหน้าหลานแม้แต่คนเดียว
ทีมข่าวช่อง 8 ถามพ่อของผู้ต้องหาต่อว่า ตอนนี้ทราบหรือยังว่าลูกชายทำร้ายร่างกายลูกเสียชีวิตรวม 5 คน พ่อของผู้ก่อเหตุก็ตอบว่า “ไม่รู้” ตัวเองรู้แค่ว่า ลูกชายทำร้ายลูกคนล่าสุดตายแค่ 1 คนเท่านั้น
"เนื่องจากว่า เมื่อคืนนี้ ตัวเอง ได้สอบถามเรื่องราวทั้งหมดกับลูกชายทางโทรศัพท์ เขาเปิดปากให้ตัวเองฟังว่า ตอนแรกเขาเห็นลูกสาววัย 2 ขวบร้องไห้ เขาเลยรำคาญ แล้วใช้กำปั้นทุบตีเด็กหญิงวัย 2 ขวบ พร้อมกับใช้มือบีบคอเด็ก โดยตอนนั้นลูกชายอยากจะทำร้ายเด็กหญิงให้ตาย แต่เด็กไม่ตาย จากนั้นลูกชายจึงไปซื้อยาที่ร้านขายยาซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าเป็นยาอะไรมาให้กับเด็กหญิงวัย 2 ขวบทาน ตอนนั้น เด็กหญิงวัย 2 ขวบยังไม่เสียชีวิต แต่รู้สึกว่ามีอุจจาระและปัสสาวะออกค่อนข้างหนัก กระทั่งผ่านไปสองเดือนเด็กเหมือนจะพิการ และเสียชีวิตต่อมา ลูกชายและลูกสะใภ้จึงเอาเด็ก หญิงวัยสองขวบ ขึ้นรถ แล้วพาไปอำพรางที่ จ.กำแพงเพชร กระทั่งมาปรากฏเป็นข่าว ส่วนหลานอีก 4 คน ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ตัวเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าลูกชายทำร้ายหลานทั้ง 4 คนจนเสียชีวิตแล้วเอาไปทิ้ง จริงหรือไม่ เพราะเขาไม่เคยเล่าอะไรให้ตัวเองฟังเลย" พ่อของนายเอ็ม กล่าว
พ่อของนายเอ็ม เล่าอีกว่า ส่วนชีวิตในวัยเด็กของนายเอ็ม ตัวเองก็ยอมรับว่าตอนเด็กๆ นายเอ็ม ลูกชายนิสัยเกเร และมีนิสัยเลือดเย็น
ถ้าหากหลานตัวเองอีก 4 คน (ก่อนหน้านี้) เสียชีวิตแล้วจริงๆ ตัวเองก็อยากให้วิญญาณหลานทั้งหมดทุกคนไปสู่สุคติ ส่วนลูกชายก็อยากให้เขารับกรรมในสิ่งที่ทำ ใครทำอะไรไว้ก็ย่อมได้อย่างนั้น
ขณะที่นายหนุ่ย น้องของนายเอ็ม เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวเองก็พึ่งทราบช่าวเกี่ยวกับเรื่องของพี่ชาย ยอมรับว่าตกใจมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายจะไปก่อเหตุฆ่าลูกถึง 5 คนได้
สำหรับตัวเองได้พูดคุยกับพี่ชายล่าสุดเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นพี่ชายก็ถามเรื่องทุกข์สุขในบ้านทั่วไป ไม่เคยคุยเรื่องลูกให้ตัวเองฟัง ตัวเองจึงไม่รู้ว่าพี่ชาย มีเมียกี่คนมีลูกกี่คน
ส่วนเรื่องยาเสพติดพี่ชายไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย แต่พี่ชายจะมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ตอนที่เขาอยู่ที่บ้านหลังนี้ (ที่ จ.ตรัง) กับตัวเอง พี่ชายเขาจะเล่นของ เรียกว่าบูชาพ่อแก่แม่แก่ และเลี้ยงพระเสือ แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่า เขาเพิ่งไสยศาสตร์เพื่ออะไร ส่วนข้อความตัวหนังสือสีแดงที่เขียนไว้ข้างฝา ตามที่ปรากฏในข่าว ตัวเองก็เชื่อว่าเป็นลายมือของนายเอ็มพี่ชาย เพราะเขาชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว และพี่ชายก็ชอบท่องคาถาแปลกๆอยู่เรื่อยๆ
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนายเลิศ นามสมมติ ชาวบ้าน ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถามถึงเรื่องของพระเสือ ที่พบห้อยในบ้านของนายเอ็ม นายเลิศก็ตอบว่า ตัวเองรู้จักคือพระเสือ จะมีที่มาจากการเข้าทรง และอยู่ตามศาลเจ้า ซึ่งพระเสือจะไม่ได้มีไว้เลี้ยง แต่มีไว้บูชาเท่านั้น หากใครบูชา พระเสือก็จะช่วยคุ้มครองป้องกันอันตราย
แต่ถ้าใครเลี้ยงพระเสือ ก็จะกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน โกรธง่าย อาทิ เห็นใครก็อยากจะเข้าไปต่อย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม
ขณะที่ความคืบหน้าการค้นหาร่างเด็กทั้ง 2 คน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้ออกมาเปิดเผยว่า เบื้องต้นจะนำหลักฐานส่งไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดว่าโครงกระดูกที่เจอนั้นตรงกับผลดีเอ็นเอของนายเอ็มหรือไม่
ซึ่งจากการสันนิษฐานเบื้องต้นของแพทย์นิติเวชคาดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกเด็ก ที่มีอายุประมาณ 2-3 ขวบ เป็นกระดูกต้นแขน แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่นำมาทิ้งได้
ซึ่งกระดูกทั้ง 2 ชิ้น เจอขุดเจอใต้ดินโคลน และอยู่ในถุงดำ แต่ตามคำให้การของนายเอ็มสารภาพว่าได้นำมาเพียงโยนทิ้งเท่านั้น ประการที่ขุดพบภายในควรดินอาจจะเป็นเพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับสภาพหน้าดินเนื่องจากผ่านเวลามาเนิ่นนานแล้ว
อย่างไรก็ตามวันนี้จะยุติการค้นหาไปก่อนและจะเริ่มการขุดอีกทีในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้
การค้นหาหลักฐานในคดีดังกล่าวนี้ใช้เวลาค้นหาไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เจอโครงกระดูกต้องสงสัยซึ่งตำรวจที่มาร่วมทำการค้นหาบอกว่าเป็นที่น่าแปลกใจ เพราะไม่น่าจะเจอเร็วขนาดนี้เนื่องจากตั้งแต่ปี 2559 มาจนถึงขณะนี้ผ่านมานานกว่า7ปี
ทีมข่าวของเราไปคุยกับตำรวจนายหนึ่งซึ่งเป็นทีมค้นหาบอกว่าตามคำให้การของนางสาวเจษฎาแม่ ระบุว่า นำมาฝากศาลตายายที่อยู่บริเวณริมถนนแห่งนี้เอาไว้ก่อนทำการค้นหาจึงได้มีการบนบานศาลกล่าวรวมถึงบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าให้หาเจอโดยเร็วและได้บอกกับน้องผู้เสียชีวิตว่าพี่มารับกลับบ้านให้รีบหาให้เจอ หลังจากนั้นไม่นานก็เจอกับฝ้ากระดูกต้องสงสัย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ลงพื้นที่มายังจุดที่ค้นหา เพื่อติดตามคดี เบื้องต้นผู้ต้องหายังไม่รับสารภาพ ซึ่งตำรวจไม่เชื่อคำให้การอยู่แล้ว ส่วนผู้เป็นแม่รู้เห็นในการก่อเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า ขอเวลาในการตรวจสอบก่อนระยะหนึ่ง