จากคดีสะเทือนขวัญ นายเอ็ม ซึ่งเป็นพ่อฆ่าลูก 5 ศพอำพราง หลัง "กัน จอมพลัง" บุกช่วยเด็กที่ได้รับแจ้งถูกพ่อทำร้าย

ก่อนนำสู่การติดตามจับตัวนายเอ็ม ผู้เป็นพ่อ มาสอบสวน จนพบว่า มีการนำร่างลูกสาววัย 2 ขวบ อำพรางศพโบกปูนใต้พื้นปูน ใกล้ห้องครัวที่บ้าน จ.กำแพงเพชร

และยังสอบสวนพบว่า ตำรวจพบว่าพ่อรายนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตของลูก 4 ศพ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนติดตาม นำหลักฐานมาประกอบคดีลงโทษฆาตกรรมลูกต่อเนื่อง

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เดินทางมายัง สน.บางเขน พร้อมนำทีมงานมาช่วยเจ้าหน้าที่ในการระดมค้นหากระดูกของเด็กผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ที่นางเจษฎา อ้างว่านำไปทิ้งภายในพื้นที่ ซอยพหลโยธิน 50 เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

โดยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองได้นำทีมงานมาช่วยเจ้าหน้าที่ในการค้นหากระดูกร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาค้นหากระดูกได้เพียง 2 ชิ้น วันนี้จึงพาทีมมาค้นหาต่อ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานเป็นแม่งาน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม

หลังจากค้นหากระดูกเสร็จสิ้น ในวันพรุ่งนี้ตนจะนิมนต์พระจากวัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เดินทางไปเชิญดวงวิญญาณของเด็กทั้งสองคนพร้อมกับนำกระดูกที่เจอมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระศรีฯ

และจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ นอกจากจะพบจดหมายของนางเจษฎาแล้วยังพบภาพวาดของเด็ก ลักษณะเป็นภาพครอบครัว แต่ใบหน้ามีลักษณะร้องไห้ ตนจึงได้ฝากให้ทางปลัดกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ไปสอบถามถึงปัญหาสภาพจิตใจและการวาดภาพดังกล่าว ว่าจะส่อถึงความในใจของเด็ก และอาจจะต้องได้รับนักจิตแพทย์ในการเยียวยาต่อไปหรือไม่

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้มีการตรวจพบข้อมูลว่ามีการนำรูปของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ลูกสาวของนางสุนัน ซึ่งมีอาการปากแหว่งเพดานโหว่และตาบอด นำไปโพสต์เปิดรับบริจาคผ่านทางโซเชียลเพื่อช่วยเหลือค่ารักษา ตนจึงได้กำชับให้ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามและตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย

เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้ติดต่อพูดคุยกับครอบครัวของภรรยานายส่องศักดิ์ ที่อยู่จังหวัดตรัง โดยลูกของนายสมศักดิ์ตกใจและไม่คิดว่าพ่อจะก่อเหตุแบบนี้ เพราะเพิ่งเจอกับพ่อเมื่อไม่นาน

ทั้งนี้กัน จอมพลัง ยังกล่าวถึงนางเจษฎาว่า วันที่เจอครั้งแรกทำทีเป็นช่วยเหลือลูก แต่สุดท้ายกลับพบว่าฆ่าลูกถึง 4 คน และยังมีพฤติกรรมปกป้องนายส่องศักดิ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางเจษฎารักผัวมาก จากนี้ตนก็ขอให้ทั้งคู่ไปรักกันที่นรก เพราะคนที่ทำกับเด็กต้องได้รับโทษคือตกนรกเท่านั้น

โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บริเวณกิโลเมตรที่ 25 พื้นที่ความรับผิดชอบของสน. สายไหม จุดที่เป็นป่ากก ตำรวจพร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่พนักงานทำความสะอาดของเขตสายไหม ที่ร่วมกันตรวจสอบ ปรากฏบริเวณจุดนี้หลังใช้รถแบคโฮขุดดินขึ้นมาล่าสุดเจอชิ้นส่วนคล้ายกระดูกมนุษย์เพิ่มอีก 4 ชิ้น สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกท่อนแขนและขา

โดยการค้นหาบริเวณจุดดังกล่าว จะใช้รถแบคโฮขนาดเล็ก ขุดดินบริเวณนี้โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 3 โซน ความยาวประมาณ 39.7 เมตร ความกว้างประมาณ 6 เมตร ขุดลึกลงไปโดยประมาณ 1.5 เมตร โดยจุดที่พบชิ้นส่วนกระดูกคล้ายกระดูกมนุษย์ขุดเจอบริเวณโซนที่ 2 โดยหลังจากที่รถแบคโฮขุดดินขึ้นมาพนักงานทำความสะอาด และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ใช้จอบและคราด เกลี่ยผิวดิน จนพบชิ้นส่วนดังกล่าว

ขณะที่ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ทีมค้นหาได้เปลี่ยนแผนการค้นหาหลังจากที่ขุดดินขึ้นมาทั้งหมดแล้ว ใช้รถน้ำ ฉีดน้ำบริเวณผิวดินเพื่อให้ดินมีความนุ่ม และสิ่งปฏิกูลออก เพื่อเห็นชิ้นส่วนวัตถุพยานได้ง่ายขึ้น

*ชาวบ้านใกล้จุดทิ้งศพยันเป็นป่า
ทีมข่าวช่อง8 พบกับ นางน้อย (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับจุดดังกล่าว เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนได้อาศัยอยู่ใกล้บริเวณจุดนี้มาเกือบ20ปีแล้ว โดยบริเวณจุดนี้เมื่อก่อนเป็นป่ารกร้าง และยังไม่มีปั๊มน้ำมัน ซึ่งกลางคืนจะเปลี่ยวมากและในเมื่อก่อนจะไม่มีไฟส่องสว่างบริเวณถนน จึงทำให้เหมาะแก่การก่อเหตุดังกล่าว

ตนจะต้องเดินผ่านบริเวณจุดนี้ทุกวัน เพื่อเดินทางไปทำงานและกลับบ้าน แต่ในช่วงปี2559 และ 2561 ก็ไม่เคยเห็นว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอทราบข่าวก็ตกใจเพราะต้องใช้เส้นทางตรงนี้ทุกวัน และไม่คิดว่าจะมีคนที่ก่อเหตุฆ่าลูกตัวเองแล้วนำมาทิ้งแบบนี้

*พนง.เขตสายไหมไม่พบพิรุธ
จากนั้นทีมข่าวจึงได้พบกับ น.ส.จงรักษ์ นกสิริ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพนักงานกวาดถนน ของสำนักงานเขตสายไหม และรับผิดชอบบริเวณจุดดังกล่าว โดย น.ส.จงรักษ์ เล่าว่า ตนเองรับผิดชอบกวาดถนนบริเวณนี้มานานแล้ว โดยบริเวณจุดนี้เมื่อก่อนเป็นป่าซึ่งมีหญ้าสูงท่วมหัว และยังไม่มีปั๊มน้ำมัน ซึ่งในเวลากลางคืนจะเปลี่ยวมาก ตนจะต้องกวาดบริเวณนี้ทุกวัน และช่วงเวลาที่ระบุว่าคนร้ายนำลูกมาทิ้งช่วงปี 2559 และ 2561 ตนก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ และเรื่องกลิ่นบริเวณนี้จะมีกลิ่นรากหญ้าเน่าตลอด เพราะบริเวณนี้จะเป็นจุดรับน้ำ พึ่งจะมาถมให้สูงเมื่อเร็วๆนี้เอง

แต่พอทราบข่าวก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะส่วนตัวไม่ได้กลัวเรื่องอะไรพวกนี้ แต่ก็ตกใจในเรื่องที่พ่อแม่ฆ่าลูกและนำมาทิ้งมากกว่า

*เผยผลค้นกระดูก
ขณะที่ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ที่เจอกระดูก 2 ชิ้น หนึ่งในสอง(ชิ้นใหญ่) ได้รับการยืนยันจากแพทย์โรงพยาบาลภูมิพลว่าเป็นกระดูกของมนุษย์จริง ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นกระดูกต้นแขนหรือ ต้นขา ซึ่งชิ้นส่วนกระดูกนี้จะสามารถระบุอายุของเด็กได้แต่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ นอกจากนี้เมื่อวานทางตำรวจก็ได้มีการนำตัวนายเอ็ม และนางสาวเจษฎา ไปตรวจดีเอ็น เพื่อนำมาเทียบเคียงกับศพเด็กนิรนาม 2 ศพ ที่พบในพื้นที่ สน.บางซื่อ ซึ่งคาดว่าผลน่าจะออกภายในวันนี้

ส่วนการค้นหาในวันนี้พบกระดูกมากกว่า 10 ชิ้น ซึ่งแพทย์จะต้องมายืนยันว่ากระดูกชิ้นส่วนไหนเป็นกระดูกของมนุษย์ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยสายตาคาดว่ามีกระดูกมนุษย์อยู่ประมาณ 4 ชิ้น หลังจากนี้จะต้องมีการตรวจอย่างละเอียดแล้วมาเทียบกับดีเอ็นเอของนายเอ็ม และนางสาวเจษฎา ซึ่งคาดว่าการตรวจกระดูกต้องใช้เวลาพิสูจน์ประมาณ 3-5 วัน

หลังจากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานก็ได้มีการเชิญแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพล เข้ามาตรวจสอบชิ้นส่วนกระดูกที่มีการค้นพบในวันนี้ ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจขัดแยกโครงกระดูกออกเป็นสามส่วนหลักๆ ส่วนที่มีขนาดใหญ่สุดขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อจำแนกก่อนที่จะนำส่งตรวจหาดีเอ็นเอของเจ้าของโครงกระดูก

*แบ่งพื้นที่ค้นหา3โซน
การค้นหาในวันนี้ (21ก.ย.66) ใช้รถแบคโฮขนาดเล็ก ขุดดินบริเวณนี้โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 3 โซน ความยาวประมาณ 39.7 เมตร ความกว้างประมาณ 6 เมตร ขุดลึกลงไปโดยประมาณ 1.5 เมตร โดยจุดที่พบชิ้นส่วนกระดูกคล้ายกระดูกมนุษย์ขุดเจอบริเวณโซนที่ 2

*ผบก.น.2รุดคลี่คลายคดี
โดยเมื่อเวลา 18.05 น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เดินทางมาจุดที่รถแบคโฮขุดค้นหาร่างของเด็กน้อยศพที่ 3-4 หลักกิโลเมตรที่ 25 ซึ่งเป็นจุดที่ส่องศักดิ์นำศพทารกมาทิ้งไว้ริมศาลพระภูมิตามคำให้การ

โดยภายหลังตรวจสอบพื้นที่ ทางพล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า การค้นหามาตลอดระยะเวลาสองวัน โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ได้ชิ้นส่วนกระดูกสันนิษฐานว่าเป็นกระดูกเด็กทารก จำนวน 1 ชิ้นเป็นกระดูกบริเวณท่อนแขน วันนี้จึงมีการค้นหาเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทีมค้นหาพบวัตถุลักษณะคล้ายกับกระดูกอีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่ หลังจากนี้จะส่งให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลตรวจสอบขั้นต้นก่อน หากดูแล้วว่ากระดูกชิ้นไหนเป็นกระดูกทารกจริง ทางตำรวจจะส่งตรวจดีเอ็นเออีกครั้งหนึ่ง

นักข่าวถามว่าวันนี้กระดูกที่พบมีหลายชิ้น ทางตำรวจบอกว่าก็อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด ต้องไปตรวจพิสูจน์ก่อน แต่วันนี้ถือว่าทุกฝ่ายทำเต็มที่แล้วในการขุดค้นหาในบริเวณที่เป็นจุดทิ้งร้างเด็กน้อย

จากที่ทีมข่าวปักหลักในจุดค้นหาพบว่า ตั้งแต่ช่วง 17.30 น.ที่ผ่านมา มีเมฆฝนตั้งเค้า มีลมแรง และฟ้าแลบเป็นระยะ นักข่าวถามว่าการค้นหาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ทางผู้การบอกคงได้ประมาณนี้ เพราะเราได้ขุดเปิดหน้าดินตามจุดที่คนก่อเหตุอ้างได้นำเด็กมาทิ้งครบทั้งหมด หากเลยจากจุดนี้ไปจะเป็นร้านค้า ซึ่งไม่เกี่ยวกัน และทางทีมค้นหาได้ตรวจค้นหาชิ้นส่วนจากดินที่ขุดมาทั้งหมดแล้วเท่ากับว่าวันนี้สิ้นสุดภารกิจการค้นหาแล้ว

ส่วนกระดูกที่พบในวันนี้จะมีการตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเร่งรัดให้เร็วที่สุด

*เปิดข้อความในจดหมายเจษฎา
โดยคดีสะเทือนขวัญครั้งนี้ พบว่า ลูกของนางเจษฎา 4 คน ที่เกิดกับนายเอ็ม เสียชีวิต เหลือรอดเพียงคนเดียวเท่านั้น และในการตรวจค้นห้องพักของนายเอ็ม พบจดหมายของเจษฎาเขียนไว้ด้วย

เมื่อย้อนไปปี 2556 ด.ช.ศักดิ์ดา ถูกฆ่ายัดกระเป๋า

ขณะที่ศพที่2 คือ ด.ช.ธีรภาพ เสียชีวิตเมื่อปี 2557 สภาพศพถูกถุงปุ๋ยคลุมร่างเอาไว้

ส่วนลูกคนที่3-4ถูกฝังดิน

ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำมาตรวจพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูกหรือไม่

เมื่อเปิดข้อความในจดหมายของนางสาวเจษฎา ภรรยาคนที่2ของนายเอ็ม เขียนไว้ว่า "เหตุการณ์วันนี้มันทำให้เราเข้าใจแล้วว่า เขาไม่ได้อยากใช้ชีวิตอยู่กับเราเลย เขาถึงทำกับเราได้ขนาดนี้ เราเกือบตาย ตัวชา แขนขาชาเหมือนคนเป็นตะคริวไปทั้งตัว เขาไม่เคยรัก ไม่เคยสงสารเราเลยจริงๆ

ข้าพเจ้านางสาวเจษฎา ขอสาบานนะที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่นี้ และที่อยู่ในมือถือของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอสาบานว่าวันนี้ที่ข้าพเจ้ากดตัดสายโทรศัพท์นายส่องศักดิ์ ส่งแสง โทรหาข้าพเจ้าสายแรก ตอนที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊ปักที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ เป็นเพราะข้าพเจ้าเลื่อนผิด เพราะข้าพเจ้าใช้โทรศัพท์ของลูก ข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งใจตัดสายทิ้งจริง

ถ้าหากข้าพเจ้าพูดโกหก หรือผิดคำสาบาน ขอให้ข้าพเจ้ามีอันเป็นไป ถ้ารอดขอให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วยอย่างทุกข์ทรมาน และขอให้ข้าพเจ้าพลัดพรากจากด.ญ.วิญดา ลูกสาวของข้าพเจ้าตลอดไป และขอให้ข้าพเจ้าต้องมีอันติดคุกตามราง ขอให้คำสาบานที่ออกจากคำพูดของข้าพเจ้าเป็นจริง โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ถ้าหากข้าพเจ้าพูดโกหก หรือผิดคำสาบาน สาธุ สาธุ สาธุ"

ซึ่งด.ญ.วิยดา คือ เด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ยังมีชีวิตอยู่

เปิดจดหมายลับเมียไอ้เอ็ม ลูกตาย 4 ศพท้าสาบานรักลูก ขุดเจอกระดูก 30 ชิ้น