ญาติแฉแม่ใจยักษ์ทำร้ายลูกเปิดรับบริจาค สุดแสบโกงเงินสหกรณ์แม่บ้านชุมชน - ทิ้งภาระผ่อนรถให้ญาติต้องรับผิดชอบ ลั่น ไม่ต้องหนีเข้าคุก ต้องเอาไปประหารชีวิตแทน
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นางสอน ละลี ญาติของน้องโมเดล บอกว่า ตนเองไม่อยากเชื่อว่า นายเอ็มและนางสาวจุ๋มสองผัวเมียจะใจดำอำมหิตทำกับเด็กได้ถึงขนาดนี้ และคดีดังกล่าวไม่อยากให้นายเอ็มและนางสาวจุ๋มติดคุก แต่ควรนำตัวไปประหารชีวิตทิ้งจะดีกว่า
เธอยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมานางสาวจุ๋มและนายเอ็มมีหนี้สินจำนวนมากและเที่ยวยืมเงินญาติและชาวบ้านในชุมชนหลายคน นอกจากนี้ นางสาวจุ๋มยังเคยเป็นประธานกลุ่มสหกรณ์แม่บ้านชุมชน ซึ่งมีหน้าที่เก็บเงินออมของชาวบ้านเข้าสหกรณ์ชุมชน แต่นางสาวจุ๋มกลับนำเงินที่เก็บจากชาวบ้านหนีหายและไม่รับผิดชอบ เงินเงินดังกล่าวเป็นจำนวนเงินหลักหมื่น ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันไปทั่วและสาปแช่งนางสาวจุ๋มจนถึงทุกวันนี้
รวมไปถึงรถเก๋งที่ใช้ขนศพของน้องโมเดลมาทิ้งที่จังหวัดกำแพงเพชร ก็ไม่ใช่รถของนายเอ็มและนางสาวจุ๋ม แต่เป็นรถของนายสังวรลุงของนางสาวจุ๋ม ซึ่งทั้งสองผัวเมียได้อ้อนวอนขอให้ช่วยออกรถเก๋งให้ ด้วยความสงสารนายสังวรจึงหลงเชื่อออกให้ โดยทั้งสองรับปากว่า จะผ่อนรถเองจนหมด ซึ่งขณะนี้รถคันดังกล่าวที่ทั้งสองใช้ มีชื่อเป็นของนายสังวร หลังจากทั้งสองคนต้องถูกจำคุก รถคันดังกล่าว นายสังวรคงต้องเอามาผ่อนต่อ เพราะหากไม่ผ่อนก็ต้องถูกยึดรถทำให้ได้รับผลกระทบกันไปหมด
ลุงน้องโมเดลเผยกังวลออกรถให้จุ๋มขับขนศพหลาน เผยเรื่องลี้ลับวิญญาณน้องโมเดลมาหาลุง หลังเชิญวิญญาณ
นายสังวร หลึ่งเทพ คู่เขยของผู้ก่อเหตุ มีศักดิ์เป็นลุงของน้องโมเดล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 8 ประเด็นรถแจ๊สคันที่ขนร่างน้องโมเดล จากจุดที่น้องเสียชีวิต ไปฝังที่บ้านของสุนันในจังหวัดกำแพงเพชร
ลุงสังวรยอมรับว่ารถคันดังกล่าวเป็นชื่อตนจริง ตนใช้ชื่อออกรถให้นางสุนัน หรือจุ๋ม ที่มาขอร้องให้ช่วยหลายหน ตนเห็นว่าเป็นน้องของเมีย แล้วเมียก็บอกแล้วแต่ตน ตนจึงตัดสินใจออกรถให้เขาปี 2562 แล้วนางจุ๋มก็เอารถคันนี้ขับมาใช้ที่กรุงเทพเลย โดยจุ๋มเป็นผู้ผ่อนรถเองทุกเดือนเดือนละ 5,700 บาท ตอนแรกตกลงผ่อน 72 งวด แต่ตอนหลังมาเปลี่ยนผ่อน 84 งวด ซึ่งตอนนี้รถคันนี้ก็ยังผ่อนไม่หมด และจุ๋มก็โดนฝากขังไปแล้ว
ส่วนตัวเท่าที่จำได้คือจุ๋มขับรถคันนี้กลับมาบ้าน บ่อยๆ โดยลุงสังวรเล่าว่า ช่วงเดือนมีนาคม เห็นรถขับแถวๆ บ้านแต่ลุงไม่ได้สนใจ ซึ่งลุงเล่าว่า มีคนข้างบ้านเล่าว่า ตอนเอ็มกับจุ๋มเอาร่างน้องมาฝังวันนั้น ถอยรถเข้า ขนของลง ทั้งๆ ที่ปกติแล้วสองคนนี้ถ้าเข้ามาบ้าน จะเอาหน้ารถเข้า แถมเปิดเพลงดังเลยดูมีพิรุธ
ส่วนตัวกังวลว่ารถคันนี้เป็นชื่อลุง ดันออกให้คนอื่นไปขับขนศพ แต่ตอนนี้เสียใจเรื่องหลานตายมากกว่า
ลุงสังวรเล่าเรื่องความเชื่อว่าเมื่อคืนนี้น้องโมเดลมาหาที่บ้าน เพราะเมื่อวานทางครอบครัวไปเรียกวิญญาณน้องมาจากหลุม ตกกลางคืนน้องก็มาหามาแบบเหมือนฝันไปเห็นเค้ามาอยู่ข้างข้างใกล้ใกล้ ทำให้คิดถึงมากจริงๆ
ญาติแฉอีกสุนันไม่เคยเปิดกล้องให้ดูน้องโมเดล
นางสงวน หลึ่งเทพ พี่สาวสุนัน ให้สัมภาษณ์ว่านางสุนัน มักจะขอเงินบ่อยครั้งจริง พี่สาวควักให้ได้เท่าที่มี ส่วนใหญ่ขอที่ละไม่กี่ร้อย มากสุดก็เป็นพัน อ้างว่าไม่มีเงินกิน ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ตนก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ พอขอตนไม่ได้ก็ขอหลาน ตนเคยเห็นนางสุนันโพสต์ขอรับบริจาคเงินในเฟซบุ๊กยังบอกเลยว่สอย่าไปโพสต์แบบนั้น แต่ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรทำให้เงินไม่พอใช้
เปิดแชต จุ๋ม หรือ สุนัน ยืมเงินชาวบ้านไปทั่ว เป็นหนี้เพียบ
ทีมข่าวช่อง 8 ได้แชตไลน์ช่วงวันที่ 15 กันยายนที่นางสุนัน ส่งข้อความมายืมเงินหลาน โดยบอกว่า ขอให้ป้ายืมเงินก่อนซัก 1000 บาท ตอนนี้ป้าตกงานไม่มีเงินเลยสักบาท
ก่อนที่ต่อมาทางนางสุนันพยายามบอกให้หลานให้เบิกเงินนายจ้างมาให้ยืมสัก 300 บาทถ้าไม่ได้ก็ขอ 200 บาท ก็ได้ตอนนี้ไม่มีเงินกินข้าวเลย
ต่อมาบอกว่าเวลาไม่มีอย่างนี้ขอยืมใครก็ไม่ได้เวลานั้นมาพากันเสียใจในเมื่อไม่มีใครช่วยเดี๋ยวไปนั่งขอทานเอาเองก็ได้ พร้อมกับบอกว่าคอยดูกันได้เลยแล้วอย่ามาทำเป็นพูดว่าสงสารร้องไห้หรืออายแล้วกันมาขอยืมเงินญาติพี่น้องก็ไม่ให้
ทีมข่าวได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องของปัญหาการเงินของนางสุนันทางญาติ บอกแต่เพียงว่านางสุนันจะชอบทักยืมเงินญาติ บอกว่าไม่มีงาน ลูกไม่มีเงินกินข้าว วันนั้นนางสาวเพ็ญนภา เลยเล่าว่า ป้าขอยืมเงิน แต่เธอไม่มีให้จริงๆ ทุกทีให้ตลอด แต่มาเอะใจตรงที่มาบอกว่าเดี๋ยวไปนั่งเป็นขอทาน ตัวเธอเองไม่ทราบว่าเอาเงินไปไหนหมด เพราะมีงานทำ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเอาเงินไปให้นายเอ็มใช้
ลูกสาวสุนันโต้ แม่ไม่ได้เปิดรับบริจาคลวงโลก
ล่าสุดลูกสาวของสุนัน ออกมาชี้แจงว่า แม่ไม่ได้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดรับบริจาคลวงโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้เชื่อว่านายเอ็มบังคับแม่ตัวเอง เพราะแม่ก็ถูกทำร้ายร่างกายเหมือนกัน
เปิดผังบ้านจุดเกิดเหตุ เพื่อนบ้าน เผย ไม่ได้กลิ่นศพ เห็นความผิดปกติ ช็อกทราบข่าว สองผัวเมียเอาลูกโบกปูนฝังหลังบ้าน แฉพิรุธ วนกลับมาบ้านตอนดึก แต่นอนบนรถ ไม่เข้าไปนอนในบ้าน
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ไปสำรวจบริเวณรอบบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบ้านจุดเกิดเหตุจำนวน 4 หลังด้วยกัน โดยพบว่า 2 ใน 4 หลัง ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีใครอยู่ ส่วนบ้านอีกหลัง คือ บ้านที่แม่ของนางสาวจุ๋ม ที่ย้ายไปอยู่บ้านญาติ ส่วนหลังที่ใกล้ที่สุด มีคนอยู่
และจากการสอบถามบ้านหลังที่ใกล้ที่สุดซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านหลังเกิดเหตุ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันที่สองผัวเมียมีการนำศพของเด็กมาฝังและโบกปูนตนเองได้เห็นว่าทั้งคู่ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงหรือเห็นว่าทั้งคู่กำลังโบกปูน แต่อย่างใด
แต่หลังช่วงเดือนพฤษภาคมไปแล้ว ตนเองเคยเห็นสองผัวเมียขับรถเก๋งมาจอดบริเวณหน้าบ้านอีกครั้งช่วงกลางดึก 1 คืน โดยคืนนั้นผัวเมียได้จอดรถสตาร์ตตลอดคืน คาดว่า น่าจะนอนบนรถ ซึ่งแปลกที่ไม่ยอมเข้าไปนอนในบ้าน แต่ตนเองก็คิดในแง่ดีว่า อาจเป็นเพราะภายในบ้านไม่มีไฟฟ้า ทั้งคู่จึงนอนภายในรถแทน แต่ก็งงว่าจะเดินทางมาจอดรถนอนหน้าบ้านตังเองเพื่ออะไร
ยืนยันที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ยินเสียงหมาหอน หรือ ได้กลิ่นศพ หรือเห็นความผิดปกติใดๆ ภายในบ้านหลังดังกล่าว คาดว่า สองผัวเมียน่าจะฝังศพเด็กไว้ลึกจนกลิ่นไม่โชยออกมา ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวตนเองก็ตกใจมากเพราะที่ผ่านมาน้องโมเดลเด็กที่เสียชีวิตตอนที่น้องยังมีชีวิตอยู่ มักจะแวะมาวิ่งเล่นกับลูกสาวตนเองวัย 5 ขวบอยู่บ่อยๆ และ ตัวเองก็เป็นแม่คน ถือว่าสิ่งที่นางสาวจุ๋มได้ทำกับลูก ถือว่าใจดำอำมหิตมาก สำหรับคนเป็นแม่