เปิดใจเมียคนที่ 5 เผยถูก “ไอ้เอ็ม” ซ้อม-ขู่ฆ่าประจำ
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนางสาวจิตรตรา สามเมือง ภรรยาอีกคนของนายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม แต่ไม่เจอตัวนางสาวจิตราเนื่องจาก เจ้าตัวไปมีสามีใหม่อยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทีมข่าวจึงได้วีดีโอคอลพูดคุยกับนางสาวจิตรตรา อดีตภรรยาอีกคนของนายเอ็มผู้ก่อเหตุ เธอให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อปี 2552 ตัวเองรู้จักกับนายส่องศักดิ์ เนื่องจากตอนนั้นเค้าบวชเป็นพระสงฆ์ อยู่ที่วัดคลองพล จังหวัดกระบี่ จากนั้นนายเอ็มได้ลาสิขา และมาคบหากับตัวเอง โดย คบหาได้ประมาณ หนึ่งสัปดาห์
ยอมรับว่าตอนคบกันกับนายเอ็มช่วงแรกๆ เค้านิสัยดี แต่ระยะหลังเค้าชอบทำร้ายร่างกายตัวเอง อาทิ ตบ ตี บีบคอ และ ขู่ตัวเองให้จดทะเบียนสมรสกับเขา หากตัวเองไม่ทำตาม เขาก็จะฆ่าตัวเอง ซึ่งตอนที่เขาขู่ตัวเองนั้น ก็บีบคอตัวเองจนเดือดรอย พร้อมกับเอามีดมาจี้ ตัวเองจึงยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่หย่ากัน
ด้วยพฤติกรรมที่นายเอ็มทำร้ายร่างกายตนเองไปตาม ตัวเองจึงตัดสินใจเลิกกับเขา ส่วนเค้าก็บอกว่าจะไปอาศัยอยู่กับน้องสาวที่กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นตัวเองก็ไม่ได้ติดต่อเค้าอีกเลย กระทั่งมาทราบว่าเค้าเป็นข่าวฆ่าโบกปูนลูก ยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่เด็กแค่คนเดียว แต่เป็น 5 คน โดยตัวเองก็เชื่อว่านายเอ็มทำร้ายเด็กจนเสียชีวิตเหมือนที่เขานำเสนอจริง เพราะพฤติกรรมที่เค้าทำกับตัวเองก็เป็นเหมือนเด็กๆเหล่านั้น
ส่วนประเด็นที่นายเอ็มชอบทำร้ายเด็กให้พิการและมีบาดแผล แล้วถ่ายรูปเด็กเปิดรับบริจาคนั้น ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นก็รู้สึกสงสารเด็กๆ
สำหรับตอนที่คบหากับนายเอ็ม เค้าก็ไม่เคยบอกกับตัวเองว่ามีเมียมาแล้วกี่คน หรือมีลูกมาแล้วกี่คน และนายเอ็มก็ไม่เคยพูดโอ้อวดทำนองว่า เขาเคยไปฆ่าพระสงฆ์ ให้ตัวเองฟังแต่ยังไง มีแต่ขู่จะฆ่าตัวเองเท่านั้น
อดีตแม่ยายแฉ ตอนนายเอ็มอยู่กินกับลูกสาวตบตีและขู่ฆ่าลูกสาวเป็นประจำ
ด้านนางประดับ อายุ 72 ปี แม่ของจิตรตรา และเป็นอดีตแม่ยายของนายเอ็ม ให้สัมภาษณ์กับทีมผ่านช่อง 8 ว่า สำหรับนายเอ็มรู้จักกับลูกสาวได้ประมาณสามเดือน ก่อนที่ลูกสาวจะตกลงคบหากับนายเอ็ม แล้วนายเอ็มก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านตัวเองได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์
ยอมรับว่าตอนที่นายเอ็มอยู่กินกับลูกสาวที่บ้านนั้น เค้าชอบทำร้ายร่างกายลูกสาวเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งตัวเองสังเกตว่าที่คอของลูกสาวมีรอยแดง จึงสอบถามลูก ว่าไปโดนอะไรมา ลูกสาวก็บอกว่าเขาถูกนายเอ็มทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอ เนื่องจากนายเอ็มขู่ให้ลูกสาวจดทะเบียนสมรสด้วย ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมนายเอ็มเค้าถึงอยากจดทะเบียนกับลูกสาวตัวเองนักหนา
หลังจากลูกสาวและนายเอ็มจดทะเบียนสมรส ด้วยกันได้ประมาณหนึ่งวัน ตัวเองก็บอกให้เอ็มออกจากบ้าน เพราะเขาทำร้ายร่างกายตัวเองรับไม่ได้ จากนั้นตัวเองก็ไม่ได้ติดต่อกับนายเอ็มอีกเลย มาทราบข่าวอีกทีเพราะตอนที่เขาเป็นข่าวฆ่าโบกปูนลูกแล้ว และตัวเองก็รู้สึกตกใจมาก
สำหรับนายเอ็มไม่ได้มีลูกกับนางสาวจิตรตราลูกสาวตัวเองแม้แต่คนเดียว ซึ่งตอนนี้ลูกสาวก็ไปมีสามีใหม่อยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว
เปิดใจเมียคนที่ 4 “ไอ้เอ็ม” ลั่น คือความผิดพลาดของชีวิต ที่ได้รู้จักเอ็ม
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาพูดคุยกับ นางสาวศรินญา หรือหญิง ภรรยาคนที่ 4 ของนายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ตัวเองได้รู้จักกับนายส่องศักดิ์ เพราะว่า ตอนนั้นตัวเองทำงานเป็นพนักงานเสริฟ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดภูเก็ต ส่วนนายส่องศักดิ์ ก็เป็นลูกค้าที่มาเที่ยวร้านอาหาร แล้วมีโอกาสได้รู้จักกับตัวเอง หลังจากนั้นก็นัดเจอกันในวันที่ต้องการเจอ แต่ไม่ได้คบหาเป็นแฟนแต่อย่างใด จนกระทั่งตัวเองได้ตั้งท้องลูกชาย ตัวเองก็โทรศัพท์ไปบอกนายเอ็ม เพราะตอนนั้นเขาไปอยู่ที่อื่นแล้ว
กระทั่งวันที่ตัวเองคลอดลูกชาย 16 มีนาคม 2556 นายเอ็ม ได้มาเซ็นต์รับรองบุตรเป็นพ่อเด็กให้ที่โรงพยาบาล แต่นายเอ็มก็ไม่ได้เจอหน้าลูก จากนั้นเค้าก็เดินทางกลับแล้วตัวเองก็ไม่ได้เจอกับเขาอีกเลย
กระทั่งวันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ผ่านมาตำรวจชุดสืบสวนได้มาที่บ้านของตัวเองแล้วสอบถาม ว่าตัวเองเคยเป็นภรรยาของนายเอ็มหรือไม่ ตัวเองก็ตอบตำรวจไปว่าเคยมีลูกด้วยกันหนึ่งคนตอนนี้ลูกชายอายุ 10 ขวบแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าที่ต้องเจอกับตัวเองนั้นเนื่องจากนายส่องศักดิ์หรือเอ็มได้ไปก่อเหตุฆ่าโบกปูนลูกสาววัยสองขวบที่จังหวัดกำแพงเพชรมา ยอมรับว่าตอนนั้นตัวเองรู้สึกตกใจมาก และไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะตอนที่ตัวเองรู้จักกับเขาเขาไม่เคยทำร้ายตัวเองหรือทำร้ายเด็กมาก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็มีการถกเสื้อผ้าดูบาดแผลตามร่างกายของลูกชายวัย 10 ขวบ ที่ตัวเองได้มีกับนายเอ็ม แต่ก็ไม่มีบาดแผลแต่อย่าง
นางสาวหญิงบอกอีกว่า ตัวเองก็ดูในข่าวกรณีที่ว่านายเอ็มทำร้ายเด็กพิการปากแหว่งเพื่อเปิดรับบริจาค ตัวเองยิ่งรู้สึกรับไม่ได้ ถ้า เค้าจะทำร้ายลูกตัวเอง แบบนั้น
ตัวเองรู้สึกโชคดีที่ได้เอาตัวลูกชายออกมาจากนายเอ็ม ไม่อย่างนั้นลูกชายตัวเองก็จบอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับเด็กคนอื่นๆ
ตัวเองขอพูดเลยว่าถ้าตัวเองไม่ตาย ตัวเองไม่มีทางยอมให้นายเอ็มทำร้ายลูกเหมือนคนอื่นๆแน่นอน
พอมาทบทวนดูแล้วการที่ตัวเองได้รู้จักสนิทสนมกับนายเอ็ม ถือเป็นความผิดพลาดของชีวิต
ตำรวจเค้นสอบ "เจษฎา" โยงฆ่า 5 ศพ
เมื่อเวลา 21.40 น. ตำรวจชุดสืบสวนนำตัวนางเจษฎา ผู้ต้องในคดีห้องสืบสวนหลังจากสอบปากคำเสร็จ ซึ่งเจ้าตัวมีท่าทีเครียดอย่างเห็นได้ชัด มีท่าทีตื่นตระหนกเมื่อเจอตื่นจากหลายสำนักที่ปักหลักทำข่าว โดยทางตำรวจคุมตัวนางเจษฎาจากห้องสืบสวนเพื่อไปคุมขังชั่วคราวบนห้องขังบนโรงพัก ระหว่างที่มีการคุมตัวทีมข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นางเจษฎาตอบเพียงว่า “ ไม่ขอชี้แจงใดๆทั้งสิ้น ซึ่งได้ให้ปากคำกับตำรวจไปทั้งหมดแล้ว” ทีมข่าวพยายามจี้ถามเหตุผลที่ก่อเหตุร่วมกับสามี แต่เจ้าตัวไม่ปริปากบอก และย้ำว่า “ ขอสื่อ อย่าซ้ำเติม” ก่อนปิดปากเงียบตลอดการเข้าห้องขังบนโรงพัก