กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวว่า “ใครเข้าใจคำว่าลูกไม่สบายมั้ง...พวกเค้าทำอะไร..ทำไมลูกน้องเรย์ถึงไม่หายใจก่อนที่ไปถึงโรงพยาบาล..????????
#ช่วยแชร์ให้หน่อยเพราะเขาไม่รับผิดชอบอะไรเลย#มีเบี้ยแล้วคิดว่าตัวเองจะจ้างทนายกี่คนกะได้#ฆ่าเด็กคนนึงแล้วบอกว่าตั้งใจจะเลี้ยงอย่างดี#กัปตันต้องไม่ตายฟรีแน่ลูก..ใครทำให้น้องจากมะม๊าไปมันต้องไปนอนคิดในหรางว่ามันผิด”
ทีมข่าวช่องแปดเดินทางมายัง สำนักสงฆ์ บ้านแหลมขวัญ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโลงศพของน้องกัปตัน หรือเด็กชายตุลากรณ์ มาแปะ อายุ 5 เดือน โดยครอบครัวได้นำโรงเย็นมาใส่ร่างของน้องกัปตันเอาไว้ และจะยังไม่เผาจนกว่าคดีจะคลี่คลาย
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นางสาวจิตสุภา อายุ 31 ปี แม่ของน้องกัปตันเด็กชายที่เสียชีวิต เธอให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองมีธุระที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จึงเอาน้องกัปตัน ไปฝากเลี้ยงกับนางสาวฟิว เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 17 กันยายน นายทอง นามสมมติ ได้ทักแชตมาบอกตัวเองว่า “ทำไมตัวเองต้องให้นางสาวฟิวเลี้ยงลูกด้วย รู้ไหมตอนนี้ลูกตัวเองร้องไห้ทั้งวัน”จากนั้นนายทองก็บอกว่าเขาจะขอไปรับน้องกัปตันมาเลี้ยงเอง ตัวเองก็ตอบว่า "ค่ะ"
กระทั่งเวลา 20.00 น. ของวันที่ 17 นายทอง นามสมมติ และนายเงิน นามสมมติ ก็ไปรับน้องกัปตันมาเลี้ยง ตั้งแต่คืนวันที่ 17 กันยายน เป็นต้นมา ถามว่าทำไมตัวเองไปทำธุระนาน แล้วไม่รีบกลับมาเอาลูกกลับไปนั้น เพราะตลอดเวลาที่ที่ผ่านมา นายเงินและนายทอง เขาก็ถ่ายรูปภาพความเป็นอยู่ ของน้องกัปตันมาให้ตัวเองดูตลอด ว่าลูกชายอยู่สบายดี ตัวเองจึงไว้ใจให้เขาเลี้ยง ส่วนตัวเองก็ทั้งทำงานทั้งติดธุระ
เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 20 กันยายน 2566 นายทอง ได้ส่งข้อความไลน์ มาบอกตัวเองว่า “ตอนนี้น้องกัปตัน และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล” แต่ตอนนั้นตัวเองยังนอนหลับอยู่จึงไม่ได้ตื่นมาอ่าน กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ตัวเองเห็นข้อความดังกล่าวจึงได้ตอบนายทองกลับไป ว่าตอนนี้อาการลูกชายตัวเองเป็นยังไงบ้าง เขาก็บอกว่าเขากลับบ้านแล้ว ส่วนลูกอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาล
กระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 20 กันยายน ที่โรงพยาบาลได้โทรศัพท์หาตัวเองว่า ลูกชายตัวเองไม่หายใจมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้านแล้ว ซึ่งแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตน้องกัปตัน ขณะที่ตัวเองก็กำลังนั่งรถเพื่อจะไปที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันซึ่งน้องกัปตันก็ได้เสียชีวิตฃ
ซึ่งแพทย์ได้ระบุสาเหตุการตายว่า “เลือดออกในสมองส่วนใน,ในปริมาณที่ทำให้เสียชีวิต หมอสันนิษฐานว่า เด็กคอไม่แข็งแรง เลือดอาจออกมาได้ จากการถูกเขย่าอย่างแรง
ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่านายเงินและนายทอง เขาจะเขย่าลูกตัวเองให้หยุดร้องหรือไม่ แต่อาจเขย่าแรงเกินไป
หลังจากลูกชายเสียชีวิต ตัวเองก็ได้ติดต่อหานายเงินและนายทอง ซึ่งเป็นสองคนที่เลี้ยงลูกชายตัวเอง และอยู่กับลูกชายลูกชายเป็นคนสุดท้ายก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต เพื่อมาถามว่าก่อนที่ลูกจะตาย เกิดอะไรขึ้นบ้าง นายเงิน และนายทอง เขาก็บอกว่า พวกเขาเลี้ยงลูกตัวเองอย่างดี แต่ก่อนจะพามาโรงพยาบาล น้องกัปตันร้องอยากดื่มนม เขาก็บอกว่าเขาพาไปอาบน้ำ และใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้เด็ก จากนั้นเขาก็บอกว่าน้องกัปตันมีอาการมือเกร็ง เขาเลยเอาน้องไปวางไว้ แล้วเค้าก็ไปชงนมให้น้องกัปตัน พอเขากลับมาดูเด็กอีกทีก็พบว่าน้องกัปตันหลับไปแล้ว กระทั่งพบว่าลูกชายนอนแน่นิ่ง นายเงินและนายทอง จึงพาลูกชายส่งที่โรงพยาบาล ตัวเองจึงถามเขาตรงๆว่า พวกพี่ได้ทำให้ลูกหนูตายไหม “นายเงินก็ตอบตัวเองมาว่า เขายอมรับว่าเป็นคนทำให้เด็กตาย” แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าทำอะไรกับเด็ก
ตอนแรกตัวเองก็ไม่อยากเอาเรื่องนายเงินและนายทอง จึงพูดคุย ไกล่เกลี่ยกับเขา อยากให้เขาช่วยจัดงานศพให้ลูกชายแค่นั้น เพราะฐานะทางครอบครัวตัวเองก็ไม่ดี แต่พอถึงวันที่ตั้งโลงศพลูก คู่กรณีเขาก็โอนเงินให้ตัวเองแค่ 1,000 บาท ตัวเองขอยืนยันว่าไม่ได้เห็นแก่เงิน แต่เงิน 1,000 บาทจะทำอะไรได้
ตอนนี้ตัวเองก็ได้ไปลงบันทึกประจำวัน และดำเนินคดีตามกฎหมาย กับคู่กรณี ส่วนทางนั้นเขาจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา และตัวเองก็ขอชี้แจงว่า ตัวเองไม่ได้เห็นแก่เงินแต่อย่างใด แค่อยากให้ทางนั้นมาช่วยจัดงานศพให้กับลูกชายให้เสร็จเท่านั้น
ทีมข่าว ยังได้รับแชตไลน์ ที่นายทองนามสมมติ ได้ส่งข้อความมาบอก นางสาวจิตสุภา ว่าน้องกัปตันเป็นไข้
จากนั้น แม่เด็กก็ตอบกลับ ไปว่า ใช่เหรอ ลูกไม่หายใจแล้ว พาไปโรงพยาบาล เรียกว่าเป็นไข้หรอ
ทีมข่าวช่อง8 ยังได้คลิปของน้องกัปตัน ก่อนที่น้องจะเสียชีวิตมาอีกด้วย ซึ่งเป็นคลิปที่แม่ของน้องกัปตัน อัปลงเฟซบุ๊กในไม่กี่วันก่อนที่น้องจะเสียชีวิต
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังบ้านของนายเงิน นามสมมติ ซึ่งเป็นบ้านหลังที่ นายเงินและนายทอง ใช้เลี้ยงน้องกัปตันก่อนจะเสียชีวิต
เมื่อทีมข่าวมาถึง บ้านหลังดังกล่าว พบว่านายเงิน ไม่อยู่บ้าน พบแต่ญาติ ของนายเงิน ชื่อนายเลิศ ซึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้นายเงินได้รับน้องกัปตันมาเลี้ยงที่บ้าน ซึ่งตัวเองก็เห็นเขาเลี้ยงดูเด็กเป็นอย่างดี ไม่เคยทำร้ายเด็กหรือแม้แต่เขย่าตัวเด็กแต่อย่าง
ส่วนก่อนจะนำตัวน้องกัปตันส่งโรงพยาบาลนั้น น้องกัปตันได้ร้องไห้ และมีอาการมือเกร็ง นายเงิน และนายทอง จึงพาไปส่งโรงพยาบาล
ส่วนสาเหตุที่นายเงินไปรับน้องกัปตันมาเลี้ยงก็เพราะว่า ก่อนหน้านี้ นางสาวฟิวได้เลี้ยงน้องกัปตัน แล้วน้องกัปตันร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน ได้เงินจึงสงสารเด็ก และด้วยความที่เป็นคนรักเด็ก จึงรับน้องกัปตันมาเลี้ยงด้วยตัวเอง ซึ่งก็มีนายทองมาช่วยเลี้ยง
ส่วนนายเงินตอนนี้ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเขาออกจากบ้านไปที่ไหน คาดว่าน่าจะไปธุระนอกบ้าน
สำหรับความคืบหน้าทางคดีในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองสงขลา จะเรียกตัวนายเงินและนายทอง รวมทั้งแม่เด็กไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกต่อไป