อัจฉริยะ เปิดหลักฐานชี้บ้านไม่ใช่ของบิ๊กโจ๊ก มีนอมินีของ "มินนี่" เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดเป็นคนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุถึงเรื่องกรณีที่มีการตรวจค้นบ้านพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเบื้องต้น การที่บิ๊กโจ๊กออกมาพูดที่สโมสรตำรวจ ว่าบ้านทั้งห้าหลังเป็นบ้านของตนเองและการเข้าค้นของชุดทำงาน อาจเป็นการเข้าค้นที่ไม่ชอบ ตนเองมีข้อมูลที่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ว่าบ้านทั้งห้าหลังไม่ใช่บ้านของบิ๊กโจ๊กหรือคนในครอบครัวตามที่มีการอ้างถึง

ขณะที่การแถลงข่าวที่สโมสรตำรวจเพราะจากข้อมูลยืนยันพบว่าบ้านจำนวนสามหลังได้แก่บ้านเลขที่ 9/146 9/157 และ 9/158 มีชื่อ ผู้ครอบครองตามโฉนดคือนายชินรัตน หรือ เสี่ยแต๋ม อุดร เจ้าของธุรกิจขนส่งยักษ์ใหญ่ในภาคอีสาน ส่วนบ้านอีกสองหลังคือบ้านเลขที่ 9/147 และ 9/148 ซึ่งเป็นบ้านที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ พักอาศัยอาศัยอยู่มีชื่อปรากฎตามโฉนดเจ้าของบ้านคือ นายชินรัตนฯ และ นางสิริกาญจนฯ ซึ่งจะยืนยันได้ว่าไม่มีชื่อของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หรือบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวตามที่มีการกล่าวอ้าง

รวมถึงในเรื่องของการจ่ายค่าไฟตามที่มีการอ้างว่าเป็นการโอนเงินให้ลูกน้องไปดำเนินการจ่ายค่าไฟก็ปรากฏว่าบัญชีที่ใช้ในการจ่ายค่าไฟเป็นบัญชีม้าที่ชื่อนายครรชิต สองสมาน ซึ่งเป็นบัญชีม้าในเครือข่ายของมินนี่ ผู้ต้องหาเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ในการจ่ายเงิน

ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวตนเองอาจจะมีการเดินทางเข้าไปพบกับทาง ปปช. เพื่อยื่นตรวจสอบในประเด็นนี้ว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เข้าข่ายว่ามีการรับทรัพย์มากกว่า 3,000 บาท หรือไม่

ส่วนเรื่องที่มีการออกมาปฏิเสธว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ไม่รู้จักกับทางตัวนางสาวมินนี่ ตนเองจึงอยากให้ทางตำรวจชุดทำงานไปสอบถามกับทางคุณเอ ศุภชัย ผู้จัดการดาราชื่อดังที่ปรากฏภาพร่วมงานเลี้ยงว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทกันในประเด็นไหนบ้างซึ่งเชื่อว่าตัว คุณเอ ศุภชัย จะให้ข้อมูลในประเด็นนี้ได้ในฐานะพยานที่อยู่ร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว

นอกจากนี้อยากให้ตรวจสอบตัวลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คือ พันตำรวจเอกเขมรินทร์ พิสมัย ที่ตนเองมีข้อมูลว่ามีการประมูลพระสูงนับ 10 ล้านบาทโดยมีการโอนเงินผ่านบัญชี ต้อม นครสวรรค์ ซึ่งในส่วนของตัวนายต้อม นครสวรรค์รายนี้ มีความเกี่ยวข้องกับคดีเป้ รักผู้การมากเท่าไร จำนวน 140,000,000 บาท แต่ต่อมานายต้อม นครสวรรค์กลับถูกกันเป็นพยานในคดีดังกล่าว เนื่องจากนายตำรวจคนสนิท ใช้บัญชีของนายต้อม ในการฟอกเงิน ที่ได้จากการกระทำความผิดหรือไม่เป็นคำถามที่เค้าทำงานต้องตรวจสอบ เพราะข้าราชการตำรวจนำเงินจำนวนกว่าหลัก 10,000,000 มาใช้ในการประมูลพระได้อย่างไร