เปิดรายชื่อ 15พลเรือน เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์
เปิดวงจรปิด “พิมพิลาส” ก่อนหลบหนี พบ 3 วันก่อน ถอยรถป้ายแดงขับเข้าหมู่บ้าน ช่อง 8 พบพิรุธ ไม่ขอเช่าป้ายแดงจากโชว์รูม - วางดาวน์นับล้าน
จากกรณีที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้ข้อมูลเกี่ยวกับนางสาวพิมพิลาส แก่นมั่น 1 ในผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และบัญชีม้าของมินนี่ ซึ่งเธอ คือ 1 ใน 6 ผู้ต้องยังอยู่ระหว่างการหลบหนี และเมื่อวานนี้ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า ก่อนที่เธอจะถูกตำรวจการจับกุม เมื่อวันที่ 22 กันยายน หรือ 3 วันก่อนที่จะถูกตามจับ โดยในวันนั้น เธอได้เดินทางไปกับแฟนหนุ่ม ทราบว่า คือ นายบัณฑิต หล้าก่ำ (ผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้) เพื่อไปถอยรถยนต์ ฟอร์ดเอเวอเรสต์ สีดำป้ายแดง มูลค่า 1.8 ล้าน จากโชว์รูมรถแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นออกมาหมาดๆ โดยวางเงินดาวน์รถถึง 1 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่บ้านของนางสาวพิมพิลาสอีกครั้ง ภายหลังจากตำรวจได้เดินทาง เข้าตรวจคนบ้านดังกล่าวช่วง 1 ทุ่มคืนเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) แต่ไม่พบตัวนางสาวพิมพิลาส โดยพบเพียงรถยนต์ฟอร์ดเอเวอเรสต์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกจอดทิ้งอยู่บริเวณหน้าบ้าน
วันนี้ (26 ก.ย.) ทีมข่าวช่อง 8 ย้อนกลับไปที่บ้านอีกครั้งพบว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน ประตูหน้าบ้านถูกปิด ไฟในบ้านเปิดทิ้งไว้
ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้าน ในวันที่นางสาวพิมพิลาสและแฟนหนุ่ม หลังจากเดินทางไปเอารถยนต์ฟอร์ดเอเวอเรสต์ สีดำ ออกจากโชว์รูมแล้ว พบว่า เวลาประมาณ 17.56 น. ของวันที่ 22 กันยายน ทั้งสองคนได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวกลับมาบ้าน โดยมีพิรุธ คือ ไม่มีการติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับเข้ามาในหมู่บ้านและนำไปจอดทิ้งไว้หน้าบ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะหลบหนี และวงจรปิด เมื่อวานนี้ หลังตำรวจบุกค้น ได้นำรถยนต์ของนาวสาวพิมพิลาส นำไปตรวจสอบ โดยขับออกจากหมู่บ้านไปในเวลา 20.53 น.
ทีมข่าวช่อง 8 ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง คุณตุ้ม เซลล์ขายรถยนต์ที่นางสาวพิมพิลาสและแฟนหนุ่มเดินทางไปซื้อในวันนั้น ให้ข้อมูลว่า ช่วงเย็นวันที่ 22 กันยายน นางสาวพิมพิลาส ได้เข้ามาทำสัญญาซื้อรถ โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้จองรถไว้กับตัวแทนขายอีกที่ แต่รถยังไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาที่โชว์รูมของตนเอง ซึ่งมีรถอยู่ โดยมีการทำสัญญาซื้อรถยนต์ฟอร์ดเอเวอเรสต์ สีดำ ราคา 1.89 ล้าน โดยขอวางเงินดาวน์ 1 ล้านบาท ตอนนั้นตนเองก็ตกใจเล็กน้อยเพราะวางเงินดาวน์เยอะแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
จากนั้น ตนเองได้เสนอหากถอยรถใหม่ ต้องใส่ป้ายแดงไว้ก่อน โดยคิดราคาเช่าป้ายเพียง 1,000 บาทเท่านั้น ส่วนค่ามัดจำ 4,000 บาท แต่นางสาวพิมพิลาสปฎิเสธขอไม่เอาป้ายแดงที่โชว์รูมเสนอให้ใส่ โดยอ้างว่า ที่บ้านมีป้ายแดงเปล่าที่ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว จะนำไปใส่เอง ตนเองก็ไม่ได้ติดขัดอะไร จากนั้นนาวสาวพิมพิลาสและแฟนหนุ่ม ก็ให้ตนเองถ่ายรูปส่งมอบรถ และขับรถแบบไม่มีป้ายทะเบียนออกจากโชว์รูมไป
ย่าเลี้ยง พลทหาร เผย ช่วง 2 ปี ไปเป็นทหารอยู่ในกรมจึงไม่รู้ความเคลื่อนไหว รู้จักกับรองผู้กำกับสืบพื้นที่ไม่แปลกเพราะเป็นเด็กที่โตในชุมชน
ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังสำโรงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันกับที่มีรองผู้กำกับสืบสวนของโรงพักสำโรงเหนือถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ และยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวดังกล่าวมีพลเรือน1คน และทหารเกณฑ์1นาย เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าและเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทราบชื่อคือ นายพุฒิพงษ์ พูนศรี หรือ ”พลทหารพุฒิพงษ์“
ด้าน นางศรีมา (นามสมมติ) เจ้าของบ้านที่พลทหารพุฒิพงษ์ เคยอาศัยอยู่ก่อนที่จะไปเป็นทหาร ในฐานะย่าเลี้ยง เผยว่า ก่อนหน้านี้ตัวของนายพุฒิพงศ์หรือโบ้ ก็อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านของตนเอง ก่อนที่จะเติบโตแล้วย้ายไปอยู่บ้านเดียวกันกับแม่ และช่วง2ปีที่ผ่านมา มีการเข้ารับเกณฑ์ทหารกองเกินจับได้ใบแดง จึงไปเป็นทหารอยู่ในกรมทหารราบ ซึ่งตอนที่ถูกจับก็คาดว่ามีการไปคุมตัวได้ที่ค่ายทหารไม่ได้มาจับแถวละแวกบ้าน เนื่องจากไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าตอนที่ถูกจับน่าจะมีการจับกุมกันที่ค่าย
และหลังเกิดเหตุยอมรับว่าตกใจที่ไปเกี่ยวข้องและพัวพันกับเว็บไซต์ออนไลน์และรวมถึงไปถูกเชื่อมโยงว่าเป็นการเปิดบัญชีม้า แต่ส่วนตัวไม่รู้ว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ เพราะตอนที่ไปอยู่ค่ายทหารก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ประกอบกับมีนิสัยด้วยความเป็นวัยรุ่นรู้จักกับคนเยอะจึงอาจมีความเป็นไปได้สูงที่อาจไปพัวพันและรู้จักกับกลุ่มเว็บไซต์พนันออนไลน์ หรือไม่
ส่วนกรณีการสนิทสนมกับรองผู้กำกับสืบสวนพื้นที่โรงพักสำโรงเหนือนั้น ส่วนตัวมองว่าอาจเป็นเรื่องปกติเพราะเนื่องจากตัวของนายโบ้ก็เป็นเด็กที่โตมามาจากชุมชน แล้วไปรู้จักกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพักดังกล่าว จึงอาจมีการชักชวนหรือสนิทสนมกันเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ (ข้อมูล ไม่มีในเสียง เป็นสายตำรวจที่โรงพักสำโรงเหนือและรู้จักกับรองผู้กำกับสืบสวน จึงอาจถูกชักชวนหรือพากันไปเปิดบัญชีเพื่อรับเงินเสือกินนอน) แต่สำหรับตัวของนายโบ้อาจจะรู้จักเพียงแค่รองผู้กำกับโรงพักพื้นที่ แต่คงไม่ถึงขั้นไปรู้จักกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างบิ๊กโจ๊กแน่นอน
ช่อง 8 เปิดใจที่แรก สามีผู้ต้องหาบัญชีม้า แฉ สจ.แม่มินนี่ ขอสมุดบัญชีเมีย ซึ่งเป็นแม่บ้านคนสนิท ไปใช้ สุดงง
ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไป 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหมายและถูกจับกุมไปแล้วนั้น คือ บ้านของนางสาวเรไร หรือ ต๋อม ซึ่งเธอนั้นทำงานเป็นแม่บ้าน อยู่ภายในบ้านของ สจ.ชัช ผู้เป็นแม่ของนางสาวมินนี่
ทีมข่าวได้พูด นายโย (นามสมมติ) สามีของนางสาวเรไร ผู้ต้องหา ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) ช่วงเวลาประมาณตี 5 มีตำรวจจากส่วนกลางกรุงเทพ เดินทางบุกเข้ามาจับกุมภรรยาที่บ้าน ตอนนั้น ตนเอง ลูก และภรรยาตกใจมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นและเข้าไปรื้อค้นข้าวของภายในบ้าน โดยบอกว่า ภรรยาของตนเองมีส่วนพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ เนื่องจากบัญชีธนาคารของภรรยาตนเอง มีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะค้นบ้านเพื่อตรวจสอบหาคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เปิดเว็บพนัน ซึ่งตอนนั้นตนเองงงมาก เพราะที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์เลย
ส่วนเหตุผลที่ภรรยาถูกตำรวจจับกุม ตนเองคาดว่าน่าจะเกิดจากก่อนหน้านี้ ภรรยาของตนเองทำงานเป็นแม่บ้านภายในบ้านของ สจ.ชัช ซึ่งเป็นแม่ของนางสาวมินนี่ โดยแม่ของมินนี่ ได้ ใช้ให้ภรรยาของตนเองไปเปิดบัญชีโดยอ้างว่าจะโอนเงินผ่านบัญชีดังกล่าวให้เป็นเงินเดือนค่าจ้างทำงานบ้าน เดือนละ 9000 บาท แต่เมื่อภรรยาของตนเองไปเปิดสมุดบัญชีมาได้ สจ.ชัช กลับนำสมุดบัญชีของภรรยาไปเลย และได้โอนเงินเดือนให้กับภรรยาอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละบัญชีกับที่ สจ.ชัช ให้ภรรยาไปเปิด
จากนั้น ภรรยาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่า สจ.ชัช คงเก็บไว้เฉยๆ กระทั่งเมื่อวานนี้ ตำรวจบุกมาจับภรรยาที่บ้าน และบอกว่า บัญชีของภรรยาไปเชื่อมโยงเป็นบัญชีม้า ของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งตนเองและภรรยาไม่รู้เลยว่า สจ.ชัช นำบัญชีของภรรยาไปทำอะไรหรือไม่
สำหรับภรรยาของตนเองทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านของ สจ.ชัช มาเกือบ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ สจ.ชัช และมินนี่ ยังไม่ได้ร่ำรวยแบบนี้ ซึ่งนายโย จะเดินทางไปส่งภรรยาไปทำงานเป็นแม่บ้านบ้านแม่มินนี่ทุกวัน โดยเจ้าตัวได้ชี้ให้ทีมข่าวดู ว่า ภาพมุมสูงภายในไร่ของครอบครัวมีมินนี่นั้น มีบ้านทั้งหมด 2 หลัง โดย หลังซ้ายของภาพ เป็นบ้านแม่ของมินนี่อาศัย และภรรยาเป็นแม่อยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนอีกหลังที่ใหญ่ระดับคฤหาสถ์นั้น เป็นบ้านของมินนี่คนเดียว ซึ่งกำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จ
นอกจากนี้ ยังมีบ้านอีก 1 หลัง ที่มินนี่และ สจ.ชัช ได้สร้างไว้ ซึ่งก็ใหญ่โตอลังการไม่แพ้กัน โดยตนเองเสียใจมาก ที่ภรรยาของตนเองถูกตำรวจจับกุมทั้งทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ซึ่งอยากขอความยุติธรรมให้กับภรรยาด้วยเพราะบ้านของตัวเองไม่ได้ร่ำรวยเงินทองอะไร ให้ทีมเขาดูจากสภาพบ้านก็คงน่าจะพอรู้