ตำรวจทางหลวง รวบมิจฉาชีพอ้างเป็น รอง ผบ.เรือนจำนครปฐม หลอกเงินญาติ 6 ตำรวจ ผู้ต้องหาคดีกำนันนก บอกเป็นค่าแรกเข้า ค่าอาหารในเรือนจำ โอนเข้าบัญชีม้าคนละ 7,000 รวม 42,000 บาท

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 มีรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี, พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.8 บก.ทล. และ พ.ต.ท.ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. สั่งการให้ ร.ต.อ.จรัญ ทองอินทร์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.8 บก., ด.ต.เปรมวิศุทธ์ พัฒนอติพงศ์ และ จ.ส.ต.จตุพร บุญสม ผบ.หมู่ ส.ทล.2. กก.8 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายกิตติเมธี อายุ 52 ปี บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.501/2566 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด



สืบเนื่องจากกรณีลูกน้อง "กำนันนก" ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ "สาวัตรศิว" เสียชีวิต ระหว่างงานเลี้ยงภายในบ้านพัก จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา และมีหลักฐานว่ามีนายตำรวจ 6 นาย ให้ความช่วยเหลือกำนันนก และถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยปัจจุบันตำรวจ 6 นาย ถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน และทางญาติของตำรวจทั้ง 6 นาย ได้มีการร้องเรียนผ่าน ภ.จว.นครปฐม รวมถึงสื่อมวลชนว่า มีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนครปฐม ระดับรองผู้บัญชาการเรือนจำ ติดต่อมายังญาติตำรวจเพื่อเรียกเงินคนละ 7,000 บาท

โอยอ้างว่าเป็นค่าแรกเข้า ค่าอาหาร ตลอดจนเสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัวภายในเรือนจำ ซึ่งญาติของตำรวจทั้ง 6 นาย หลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปคนละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 42,000 บาท จนกระทั่งทราบว่าถูกหลอกเนื่องจากตำรวจทั้ง 6 นาย ไม่ได้มีการไปควบคุมที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อไปยังหมายเลขของนายกิตติเมธีได้อีก จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อขอให้ช่วยติดตามนายกิตติเมธีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย



จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ที่ทำการหลอกลวงอ้างเป็น รอง ผบ.เรือนจำ คือ นายกิตติเมธี อายุ 52 ปี พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับนายกิตติเมธี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.) สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ อ.เมืองลพบุรี

ตรวจสอบประวัตินายกิตติเมธี ตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน พบว่าเคยถูกแจ้งความดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ฉ้อโกง ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ลักทรัพย์ มากกว่า 30 คดี ส่วนมากเป็นในเขตพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ จ.ลพบุรี, สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, เพชรบูรณ์ ฯลฯ หลังจากจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น นายกิตติเมธี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ทาง บก.สส.ภ.1 ได้จับกุมตัว นางทัศนัย อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.501/2566 ในข้อหาเดียวกันกับนายกิตติเมธี โดยนางทัศนัยเป็นเจ้าของบัญชีม้าที่ทางญาติตำรวจได้โอนเงินเข้าไป ส่วนนายกิตติเมธีเป็นคนโทร. หาญาติและทำการหลอกลวงจนญาติตำรวจหลงเชื่อ โดยทางกองบังคับการตำรวจทางหลวง และตำรวจภูธรภาค 7 อยู่ระหว่างการขยายผลเพราะเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก