เปิดบ้าน บอสตาล บ้านหรูที่เชียงใหม่

ทีมข่าวช่อง8 เดินทางไปยังบ้านของบอสตาล ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลฟ้าฮ้าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยบ้านเป็นบ้านสองชั้น ขนาดไม่ใหญ่ ปลูกติดๆกัน จากการสำรวจไม่พบใครอยู่ ภายในบ้าน แต่ประตูรั้วได้เปิดทิ้งไว้

จากการสอบถาม คุณมานี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กัน บอกว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ บอสตาล กับพี่ชายอาศัยอยู่กับแม่ แต่พอโตมาก็ไม่ค่อยเห็น พอแม่เกษียณแม่ก็ย้ายไปอยู่ที่ลำพูน โดยก่อนหน้านี้ก็มีกำลังตำรวจเข้ามาตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ก็พอจะรู้ว่าบอสตาลนั้นมีบ้านหรูอีกหนึ่งหลังที่เชียงใหม่ ซึ่งพักหลังๆมาก็ไม่ค่อยเห็นบอสตาลเข้ามา แต่ก็เคยเห็นอยู่บ้างขับรถแลมโบกินีเข้ามา แต่ก็ไม่รุ้ว่าจะใช่บอสตาลหรือป่าวที่เป็นคนขับมา

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านที่บอสตาลได้ซื้อไว้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ในโครงการเป็นบ้านที่มีราคา 40-50 ล้านบาท โดยทางเข้าหมู่บ้านจะมี รปภ.ดูแลอย่างเข้มงวด

ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางไปยังบ้านของแม่บอสตาล ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำพูน จากการสำรวจและเรียกหา คนภายในบ้านก็ไม่มี ใครขานรับออมมา แต่พบเพียงรถยนต์จอดอยู่ภายในบ้านหนึ่งคัน

จากการสอบถามป้าชูใจ เพื่อนบ้านใกล้เคียง บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองก็พึ่งจะรู้ข่าวว่าบอสตาลถูกตำรวจจับไม่คิดว่าบอสตาลจะทำอะไรแบบนี้ โดยนานๆจะเห็นบอสตาลมาที่บ้านหลังนี้ เพราะว่าส่วนใหญ่แม่บอสตาลจะเป็นคนไปหาที่เชียงใหม่มากกว่า เวลาบอสตาลมาก็จะขับรถมาจอดบริเวณใกล้ๆบ้านตน

เพื่อนบ้าน โบ้ พุฒิพงษ์ บัญชีม้าลูกน้องบิ๊กโจ๊ก เผย ไม่เจอนานแล้ว ไม่คิดว่าโบ้จะเกี่ยวเรื่องนี้

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังห้องพักของนายพุฒิพงษ์ พูนศรี หรือโบ้ หนึ่งในบัญชีม้าขบวนการมินนี่ ที่โยงลูกน้องบิ๊กโจ๊ก พบเป็นหอพักไม่มีชื่อ จำนวน 4 ชั้น ทีมข่าวเข้าไปในหอพักไม่พบใครอยู่ มีเพียงรถจักรยานยนต์จอดอยู่หน้าหอพัก 3-4 คัน

สอบถามแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวแถวนั้นทราบว่า นายโบ้ไม่ได้อยู่ที่นี่หลายปีแล้ว ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังอีกที่นึง ซึ่งเป็นบ้านของแม่ นายโบ้

พอไปถึงเห็นบ้านปิดเงียบไม่พบใคร สอบถามชาวบ้านใกล้เคียง พบนางนิตยา อายุ 51 ปี เล่าให้ฟังว่า แม่ของนายโบ้มาเช่าบ้านหลังนี้อยู่หลายปีแล้ว ส่วนนายโบ้ไปเป็นทหาร ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา บ้านนี้เป็นคนเงียบๆ ไม่ได้สุงสิงกับใครมากนัก ไม่เคยเห็นใครมาที่บ้าน จะมีก็แต่เพียงลูกค้าของแม่นายโบ้ที่นำผ้ามาให้เย็บเท่านั้น ส่วนตำรวจก็ไม่เคยเห็นมาเช่นกัน

ส่วนตัวนายโบ้ ตอนอยู่บ้านก็อยู่เงียบๆ ไม่ค่อยออกไปไหน จะเห็นแต่ตอนนายโบ้ออกไปซื้อข้าวเท่านั้น เวลาเจอนายโบ้ก็จะยกมือไหว้ทักทายตนตลอด ยืนยันว่านายโบ้เป็นคนนิสัยดีมาก

ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ตนก็ไม่คิดว่าจะเกี่ยวข้องกับนายโบ้ ตนก็ไม่ได้ถามแม่นายโบ้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่อยากยุ่ง และตนก็ไม่เจอแม่นายโบ้เลย เจอครั้งล่าสุดเมื่อ 2 วันที่แล้ว แม่นายโบ้บอกว่าจะไปเที่ยว แล้วหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เจออีกเลยจนถึงตอนนี้

บิ๊กโจ๊ก เผยมีมรดกพันล้าน ไม่เกี่ยวเว็บพนัน ใช้เงินส่วนตัวให้ลูกน้องทำคดี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบคำถามกรณีที่ให้เงินดูแลลูกน้องด้วยว่า เงินทั้งหมดที่ใช้จ่ายเป็นเงินของตน หากไปคำนวณให้ดีๆ เงินของตนจะมากกว่าเงินของเว็บพนันเยอะ วันนี้ต้องพูดเรื่องจริงกันว่าตนไม่ได้ใช้เงินจากเว็บพนัน หากตนไม่เอาเงินส่วนตัวมาใช้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาเงินที่ไหนมาให้ใช้ แต่คนอื่นอาจจะไม่มีความพร้อมหรือความบ้าแบบตนที่เอาเงินส่วนตัวมาทำงาน เพราะตนไม่มีลูกก็เอาเงินส่วนนี้มาใช้ในการทำงาน แล้วที่มาของเงินก็ตอบได้ทั้งหมด ซึ่งเฉพาะแม่ยายเป็นผู้จัดการมรดกก็เกือบพันล้านแล้ว

รู้จัก มาดามกุ๊บกิ๊บ ภรรยาบิ๊กโจ๊ก เจ้าของมรดกพันล้าน เปิดเส้นทางรัก 30 ปี

ประวัติ ดร.ศิรินัดดา หักพาล หรือ มาดามกุ๊บกิ๊บ วัยเด็กเข้าศึกษาโรงเรียนวรนารีเฉลิม ก่อนไปต่อปริญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม มหาลัยมหิดล ปริญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

จากนั้น มาดามกุ๊บกิ๊บ ได้เป็นอาจารย์สอนอาชญวิทยาประจำหลักสูตรรัฐประศาสตร์ มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ อาจารย์ประจำวิชาทฤษฏีรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยพิษณุโลก และควบคุมการทำสารนิพนธ์และวิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยพิษณุโลก และมหาวิทยาลัยต่างประเทศ 2 แห่ง คือ llC University พนมเปญ ประเทศกัมพูชา และ International University of Morality (IUM) เป็นประธานอาจารย์พิเศษ คุมวิทยานิพนธ์ คณะศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

มาดามกุ๊บกิ๊บ เป็นบุตรสาวของนายบัญชา พานิชพงศ์ นักธุรกิจชื่อดังในภาคใต้ โดยบิ๊กโจ๊กรู้จัก ดร.กุ๊บกิ๊บ ตั้งแต่สมัยกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา ขณะตอนนั้น ดร.กุ๊บกิ๊บกำลังศึกษาชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนวรนารีเฉลิม จ.สงขลา

เส้นทางรักของ บิ๊กโจ๊ก และ ดร.กุ๊บกิ๊บ รู้จักกันจากการเป็นเพื่อนของเพื่อน โดยทั้งคู่พบหน้ากันบ่อยที่สนามเทนนิส เนื่องจากตอนนั้นบิ๊กโจ๊กเป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติ และมาสอนเทนนิสให้ แต่ในขณะเรียนอยู่ต้องมาเจออุปสรรคแรก เนื่องจากบิ๊กโจ๊กสอบติดและต้องไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนดร.กุ๊บกิ๊บ เรียนอยู่โรงเรียนมัธยม

แม้ระยะทางจะดูเป็นอุปสรรครัก แต่ทั้งบิ๊กโจ๊กและดร.กุ๊บกิ๊บ ยังติดต่อกันผ่านทางจดหมาย กระทั่งดร.กุ๊บกิ๊บ เรียนจบม.6 เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพฯ ก่อนจะไปศึกษาต่อประเทศออสเตรเลีย แต่ทั้งบิ๊กโจ๊กและดร.กุ๊บกิ๊บ ยังมีติดต่อกันอยู่ กระทั่งบิ๊กโจ๊กเข้ารับราชการตำรวจโดยเส้นทางรักของบิ๊กโจ๊กและ ดร.กุ๊บกิ๊บ ยาวนานถึง 30 ปีเลยทีเดียว

ปัจจุบัน ดร.กุ๊บกิ๊บ เป็นกรรมการบริษัท ระโนดเดินรถ จำกัด เป็นกิจการสถานีรถโดยสาร ธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ส่วนกิจการผลิตและจำหน่าย นำเข้า ส่งออก เครื่องสำอาง เวชสำอาง อาหารเสริม อุปกรณ์ความงาม

เช็กราคาชุดนอน “บิ๊กโจ๊ก” เจาะแฟชั่นเรียบหรูมินิมอล

เสื้อทีเชิ้ต Zara ราคาตัวละ 650 บาท, กางเกงบ๊อกเซอร์ผ้าป๊อปลิน เอวยืด สีฟ้าอ่อนลายทางของแบรนด์ Zara ราคา 1,490, ถุงเท้าทำจากผ้าริบถักปลายแต่งผ้าริบยืด ราคา 650 บาทบาท

เผยมุมน่ารักของ “บิ๊กโจ๊ก” เมื่ออยู่กับคุณพ่อ

เผยอีกมุมของ “บิ๊กโจ๊ก” ที่หลายคนไม่เคยเห็น โมเมนต์น่ารัก เมื่ออยู่กับคุณพ่อ ครอบครัวสุดอบอุ่น เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความกตัญญู

นอกจากนี้ยังมีคลิป บิ๊กโจ๊ก กราบเท้าคุณพ่อหลังจากประดับดาวให้ และยังคลิปที่ซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้กับคุณพ่ออีกด้วย