จากกรณีเปิดปฏิบัติการ “Big Cleaning Day กวาดบ้านตำรวจ” ปูพรม ตรวจค้น 30 จุด 6 จังหวัด ออกหมายจับ 23 ผู้ต้องหาเกี่ยวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์ แต่บ้าน 4 หลังในซอยวิภาวดีรังสิต 60 กลายเป็นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

*อ.ปริญญาชี้ศึกกรมปทุมวัน ชี้ขอหมายศาล

โดยทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับกฎหมายถึงกรณีที่เกิดขึ้น บอกว่า ย้อนกลับไปในอดีตตำรวจเป็นหน่วยงานที่ออกหมายจับเอง แต่ปรากฏว่าการออกหมายจับเป็นการไปละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น ทำให้ต่อมาต้องปรับกฎเกณฑ์ศาลเป็นผู้พิจารณาออกหมายจับและออกหมายค้น เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิบุคคลคนอื่น

แต่ถ้าถามว่าทำไมไปออกหมายศาลแล้วยังมีปัญหาอยู่ เพราะก่อนศาลออกหมายค้นหรือออกหมายจับก็จะฟังความแต่ตำรวจฝ่ายเดียว จึงมีแนวโน้มที่จะเชื่อตำรวจก่อนออกหมาย ตามหลักออกหมายจับมีแค่หลักการเดียวที่ว่า หากมีความผิดเกินสามปีขึ้นไปก็สามารถออกหมายจับได้เลย แต่ปัญหาต่อมาเวลาตำรวจจะยื่นขอหมายจากศาลชอบตั้งข้อหาหลักไว้ก่อน ทำให้การออกหมายจับมีเกณฑ์ออกง่ายและยังไม่ได้พิสูจน์ว่าคนที่ถูกออกหมายจับทำผิดจริงหรือไม่

ในส่วนกรณีบิ๊กโจ๊กและลูกน้อง ก็ถือว่าบางส่วนที่ถูกออกหมายจับ ศาลอนุมัติหมายจับโดยอาจยังไม่ได้รับข้อมูลที่เท็จจริง ซึ่งตนก็ตั้งข้อสงสัยว่าขนาดตำรวจด้วยกันยังถูกกระทำลักษณะนี้แล้วประชาชนอย่างเราจะมีความหวังได้อย่างไร ตามจริงแล้วควรออกหมายเรียกเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก่อน ถึงออกหมายจับ จึงคิดว่าเหตุที่เกิดเหตุคนตนมองว่าไม่โปร่งใส

"ถึงแม้ทางตำรวจที่ยื่นศาลขอหมายจับจะอ้างว่าพบเส้นทางบัญชีม้าซึ่งเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ แต่ตนก็บอกอีกว่าในส่วนคนที่ถูกออกหมายจับก็เป็นตำรวจ และไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี การกระทำลักษณะดังกล่าวถือว่าทำโดยรวดเร็วผิดปกติ สะท้อนถึงการออกหมายจับปัจจุบันนี้ออกหมายจับได้อย่างรวดเร็วและออกหมายจับอย่างพร่ำเพรื่อมากเกินไป" ผศ.ดร.ปริญญา ระบุ

ผศ.ดร.ปริญญา ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนที่ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก เป็นบ้านที่แม้บิ๊กโจ๊กจะเช่าแต่ทางตำรวจก็ทราบข้อมูลโดยทั่วไปว่าเป็นบ้านของบิ๊กโจ๊ก จึง จำเป็นอย่างยิ่งที่ตำรวจที่ไปขอหมายค้นจะต้องให้ข้อมูลต่อศาลว่าบ้านหลังนี้รองผบ.ตร. พักอาศัยอยู่ เพื่อให้ศาลพิจารณาออกหมายจับได้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งในวันที่ตรวจค้น ก็จะเห็นได้ว่าตำรวจถือหมายค้นไปที่บ้านบิ๊กโจ๊กพร้อมกับตำรวจคอมมานโด ตนก็มองว่าบิ๊กโจ๊กยังไม่ถูกแจ้งข้อหาและยังไม่มีหมายจับการกระทำดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เกินไป

*อดีตบิ๊กทางหลวงติงค้นบ้านบิ๊กโจ๊กไม่ให้เกียรติ
ขณะที่ พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท อดีตผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า คุณต้องยอมรับว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็น 1 ใน 4 แคนดิเดต ผบ.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นอันดับอาวุโสท้ายสุด โดยหลักจะต้องเป็นอันดับ 1 แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะบางครั้งอันดับ 3 อันดับ 4 ก็กระโดดขึ้นมาได้ เพราะมันมีเรื่องอาวุโส เปอร์เซ็นต์ กับความสามารถ แล้วแต่ว่าในที่ประชุมเขาจะเลือกอย่างไร

ส่วนการเจ้าตรวจค้นบ้านของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่วนตัวมองว่า เป็นการไม่ให้เกียรติ และเคยกล่าวฝากเตือนไปยังพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไว้ด้วย

*เตือนระวังมือที่ใช้ทำงาน
"ฝากเตือนบิ๊กโจ๊กให้ระวังมือที่ใช้ทำงาน มือดีระดับนายพลผู้กำกับ แต่ไปพลาดให้โดนจับ ซึ่งตำรวจที่ไปจับเขาก็มีหลักฐานว่าโยงพนันออนไลน์ที่ได้เงินทีเป็น 100 ล้าน คนที่ทำงานแบบนี้ อยากจะฝากลูกน้องว่ามันต้องจิตใจเข้มแข็ง มองเงินให้เป็นเศษกระดาษ ไม่รับก็จบ แต่ใจแข็งพอหรือไม่ ลูกน้องบิ๊กโจ๊กเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด" พล.ต.ต.อังกูร ระบุ

ปริญญา ชี้ศึกล้างบางบิ๊กโจ๊กทำคนสิ้นหวังตำรวจ "อังกูร" นายเก่าลั่นทำเกินไปแล้ว