"เศรษฐา" ไม่กังวล เหตุงดออกเสียงโหวต "ต่อศักดิ์" นั่ง ผบ.ตร. ชี้ทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์-ไม่ลุด้วยอำนาจ มั่นใจดูกฎหมายเรียบร้อยแล้ว เผยเหตุส่งต่อเงินเดือน เบี้ยประชุมให้มูลนิธิฯ เป็นความตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง ไม่กดดันให้ รมต.ทำตาม

วันที่ 28 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ / นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม / พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ถือเป็นประเทศการเดินทางเยือนประเทศในอาเซียนครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เพื่อแนะนำตัวโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และเจรจาส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงของสองประเทศ โดยจะมีการพบกับ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึง สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

โดยก่อนออกเดินทาง นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งต่อเงินเดือนและเบี้ยประชุมให้กับมูลนิธิฯต่างๆ ว่า การดำเนินการต่างๆเมื่อตนรับเงินมาและภายหลังจ่ายภาษีก็จะนำไปบริจาค ซึ่งไม่มีอะไร พร้อมยืนยันว่าเป็นความประสงค์ของตนที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนเข้ามาดำรงตำแหน่ง

เมื่อถามว่าการส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมดังกล่าวจะเป็นตัวอย่างให้กับรัฐมนตรีท่านอื่นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่าไม่ใช่หรอก มันเป็นความประสงค์ส่วนตัวอย่ากดดันท่านอื่นเลย เพราะทุกคนใีความจำเป็นส่วนตัว

ส่วนได้มีการปรึกษาข้อกฎหมายแล้วหรือไม่ว่าหากบริจาคเกิน 3,000 บาท จะผิดข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนให้แผนกกฎหมายพิจารณาดูอยู่ทั้งหมด ซึ่งทุกอย่างก็จะบริจาคตามมูลนิธิที่มีการตรวจสอบแล้ว เพราะเป็นเจตนารมณ์ที่ต้องการช่วยเหลือทุกภาคส่วน ซึ่งทำมาก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่ได้คิดอะไรมาก พร้อมเผยว่า จะทำต่อๆไป ซึ่งตนไม่อยากพูดเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อถามว่าสบายใจขึ้นหรือไม่หลังการแต่งตั้งผบ.ตร.เมื่อวานนี้จบลงแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้คอยการโปรดเกล้าฯก่อน เพราะภารกิจทุกอย่างถ้าเสร็จสิ้นไปแล้วก็มีความสบายใจ

เมื่อถามย้ำว่าทำไมจึงไม่รอผลการสอบสวนคดีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และผู้ใต้บังคับบัญชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อันนี้ตนขอให้มีการโปรดเกล้าฯมา และหากจบแล้วจะมีคณะกรรมการและโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลง

ส่วนข้อกฎหมายดูเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องตามมา นายเศรษฐา กล่าวว่า เรียบร้อยครับ

ส่วนเสียงของพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร.ในฐานะกรรมการก.ตร.ที่ไม่เห็นด้วยนั้น ตนมองว่า คงไม่เหมาะสมที่จะนำเรื่องในที่ประชุมมาพูด

เมื่อถามย้ำว่าการที่นายกรัฐมนตรีงดออกเสียงกังวลในข้อกฎหมายด้วยใช่หรือไม่นายศรษฐา กล่าวว่า ไม่ครับ ไม่มีความกังวล เพราะทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์ และไม่ลุด้วยอำนาจ เพราะมีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในที่ประชุม ซึ่งในที่ประชุมมีการพูดและให้ความเป็นธรรมกับแคนดิเดตผบ.ตร.ทุกคน