*สอบลูกน้องบิ๊กโจ๊กเพิ่ม
วันนี้ช่วงบ่าย (13.00น.) ทีมสอบสวน ในคดีเว็บพนันออนไลน์ เรียกตำรวจทั้ง 8 นาย ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก ให้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม
ทีมข่าวช่อง8 ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. ภายหลังมีการประกันตัวสู้คดี และกำลังจะเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม ตามที่พนักงานสอบสวนเรียก โดย พล.ต.ต.นำเกียรติ ตอบสั้นๆทางโทรศัพท์ว่า ผมกำลังมารายงานตัว เช็นต์ชื่อที่ สตช. ไม่สะดวกตอบ เมื่อคืนตนตอบไปครบถ้วนแล้ว หากจะทราบเพิ่มให้คุยกับทนายอนันตชัย ครับ ก่อนวางสาย
*นายกฯคารวะสมเด็จฯฮุนเซน
วันนี้ (28 กันยายน 2566) เวลา 17.00 น. (เวลาที่กรุงพนมเปญเท่ากับเวลาที่กรุงเทพฯ) ณ วิมาน 7 มกราคม (ที่ทำการพรรคประชาชนกัมพูชา) กรุงพนมเปญ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน (Samdech Akka Moha Sena Padei Techo Hun Sen) ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานคณะองคมนตรีกัมพูชาในวันนี้ พร้อมชื่นชมว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยการเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเยือนต่างประเทศในระดับทวิภาคีครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาต่างได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันเดียวกัน รวมทั้ง สมเด็จฯ ฮุน มาแนต ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงมิตรภาพและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของไทยกัมพูชา
*นายกฯปัดตอบผบ.ตร.
โดยก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีเมื่อวานนี้พลเอกต่อศักดิ์ได้ขึ้นเป็นผบ.ตร.แล้ว ถือว่าจบหรือยังปรากฏนายกฯ ตอบว่ารอคอยการโปรดเกล้าฯก่อน ภารกิจทุกอย่างเสร็จสิ้นไปแล้วด้วยความสบายใจ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การแต่งตั้งผบ.ตร.ไม่รอผลสอบของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก่อนหรือ เพราะพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เป็นอาวุโสอันดับ 2 นายกฯ บอกว่าอันนี้ต้องรอโปรดเกล้าฯหากจบเดี๋ยวจะมีทีมโฆษกฯเป็นผู้แถลง นักข่าวก็ถามดูข้อกฎหมายแล้วใช่ไหมจะไม่มีปัญหาเรื่องฟ้องร้องมันมีข่าวว่าบรรดารองผบ.ตร.ซึ่งอาวุโสกว่าพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ 3 คนมีคนนึงจะฟ้อง นายกฯ บอกว่า ทุกอย่างเรียบร้อย
*มินนี่ แจงเส้นทางการเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มินนี่ เดินทางกลับจากประเทศ และแจ้งจะชี้เแจงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งเส้นทางการเงิน หลังพบปรากฏรูปคู่พ.ต.อ.ภาคภูมิ และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องเว็บพนันหรือไม่
*เปิด9เสียงเห็นชอบ"ต่อศักดิ์"ผงาด ผบ.ตร.
ทั้งนี้ เมื่อเปิดชื่อ 9 เสียง เห็นชอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ คือ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผบ.ตร.
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก อดีตรอง ผบ.ตร.
พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร.
พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ
ศ.ศุภชัย ยาวะประภาษ นายกสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ
1 เสียง ไม่เห็นชอบ คือ
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2 เสียง งดออกเสียง คือ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
รศ.ประทิต สันติประภพ อดีตรองอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.อัสสัมชัญ
*เปิดโพสต์พล.ต.อ.เอก
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. และอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เมื่อวาน(27 ก.ย.2566)เป็นการประชุม ก.ตร.ครั้งสำคัญที่ต้องบันทึกไว้
การประชุมมีวาระการแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยนายกรัฐมนตรีเสนอชื่อ ผบ.ตร.ให้ ก.ตร.พิจารณาให้ความเห็นชอบ เป็นครั้งแรก
ผลการประชุม ก.ตร.มีมติเสียงข้างมาก(9 ต่อ1 งดออกเสียง 2)เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนต่อไป
ผมได้ทำหน้าที่ ด้วยการอภิปรายแสดงความคิดเห็นถึง บริบทกฏหมายการแต่งตั้งตำรวจ
เริ่มตั้งแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ปรับปรุงกฎหมายบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อิสสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด
พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 (ฉบับปฎิรูปตำรวจ)ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยระบุเหตุผลและความจำเป็นเพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตราการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ การแต่งตั้งคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถ ให้ความสำคัญของอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับ
กฏหมายตำรวจฉบับนี้มีบทบัญญัติในหลายมาตรา ( ม.60 ม.87 ม.88 ม.150 )ที่ทำให้เห็นเจตนารมณ์ของกฎหมาย มุ่งเน้นในเรื่องระบบคุณธรรม และการคุ้มครองระบบคุณธรรม ตลอดจนกำหนดโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา
ผมได้โหวตไม่เห็นด้วยเป็นเสียงข้างน้อย ด้วยเหตุผลที่ได้ขอบันทึกไว้ในรายงานการประชุมว่า
“การคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่เป็นหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้”
ผมขอยืนยัน ได้แสดงความคิดเห็นด้วยบริสุทธิ์ใจ ใช้วิจารณญาณและดุลพินิจ ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด เพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจและประเทศชาติบ้านเมือง
ขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ผมเคารพอย่างยิ่ง ที่ได้กรุณาเข้าใจในการโหวตของผม ขอบพระคุณอดีตผู้บังคับบัญชา และทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนและให้กำลังใจ
ผมจะทำหน้าที่ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้”ปกป้องศักดิ์ศรี ตำรวจดีของประชาชน”ต่อไปครับ
*ทนายเดชาแนะนายพลฟ้องเอาผิด
ขณะที่นายเดชา กิติวิทยานันท์ ทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเพจทนายคลายทุกข์ ระบุว่า ข่าวลือวงในหลังจากเลือกผบ.ตร. ต่อศักดิ์แล้วรองผบ.ตร. ที่อกหักอาจถูกย้ายไปอยู่สำนักงานปปส.และสำนักนายกต่อไป จบข่าว ส่วนการฟ้องร้องจะมีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง
ทีมข่าวช่อง8 สอบถามเรื่องนี้ กับนายเดชา โดยกล่าวว่า หากกางกฎหมายตำรวจออกมาดู ก็ได้มีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าจะต้องเลือก ผบ.ตร.ที่มีลำดับอาวุโสลำดับที่ 1 เพราะฉะนั้นคนที่ควรได้รับการแต่งตั้ง ควรจะเป็น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ หรือ บิ๊กรอย ยิ่งถ้าวัดจากความรู้ความสามารถก็คิดว่าบิ๊กรอยก็มีดีไม่แพ้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์
ทนายเดชา ยังบอกอีกว่า เรื่องนี้สามารถฟ้องร้องได้ หากผู้ที่อาวุโสลำดับที่ 1-3 มองว่าไม่เป็นธรรม โดยจะสามารถไปฟ้องได้ที่นายกรัฐมนตรีหรือศาลปกครองกลาง ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการฟ้องร้องในลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้ว และมีหลายคดีที่การแต่งตั้งไม่เป็นธรรมและมีการกลั่นแกล้ง หรือจะสามารถฟ้องรายบุคคลก็ย่อมได้ เช่น ฟ้องคนที่ยกมือเห็นชอบกับการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งผลจะแพ้หรือจะชนะก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในการฟ้อง ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มีพยานปากเอก คือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ซึ่งเป็น ก.ตร. คนเดียวที่ไม่เห็นชอบ และ พล.ต.เอก ก็ได้มีการลงบันทึกข้อโต้แย้งเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็หน้านี้ท่านก็เคยอกหักจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ทั้ง ๆ ที่ พล.ต.เอก นั้นได้อยู่ในผู้อาวุโสลำดับที่ 1 จนมาวันนี้ที่ได้เป็น ก.ตร. แน่นอนว่าท่านเองก็คงจะไม่ยอมปล่อยผ่าน
ส่วนประเด็นบัญชีม้าที่มีรายชื่อของลูกน้องทั้ง 8 คนของ "บิ๊กโจ๊ก - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล" เข้าไปเอี่ยว ทนายเดชามองว่า ตอนนี้บิ๊กโจ๊กยังบริสุทธิ์ เพราะพยานหลักฐานที่จะโยงไปถึงบิ๊กโจ๊กยังไม่มี และยังไม่พบเส้นทางการเงินที่เข้าไปพัวพันกับบัญชีม้า เพียงแต่ทุกวันนี้ที่บิ๊กโจ๊กมัวหมอง ก็เป็นเหตุมาจากคนใกล้ตัวหรือลูกน้องคนสนิท ที่ถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ ก็เป็นธรรมดาที่ผู้บังคับบัญชาจะต้องมัวหมองหากมีลูกน้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องอย่างว่า ส่วนตอนนี้ที่นายตำรวจ 8 คนได้รับการประกันตัวชั่วคราว ทนายเดชามองว่า ต่อไปอาจจะต้องออกมาชี้แจงเพื่อหักล้างพยานหลักฐาน หากสามารถชี้แจงได้ก็จบ หากหักล้างไม่ได้ก็ต้องติดคุกตามกฎหมาย และถูกถอดยศออกจากราชการ ต่อไปก็คงต้องรอดูว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะทนายเดชาได้กระซิบมาว่า ได้ยินมาจากวงใน ว่าเร็ว ๆ นี้ บิ๊กโจ๊กจะหมดอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คงจะไม่ได้เห็นภาพที่บิ๊กโจ๊กออกมาช่วยคดีนั้นคดีนี้ และบิ๊กโจ๊กคงจะถูกโยกย้ายให้ไปอยู่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ต่อไปหลาย ๆ คนที่หวังพึ่งพาบิ๊กโจ๊ก ก็คงต้องหันไปพึ่งบิ๊กต่อแทน เพราะว่าตอนนี้ฟ้าเริ่มสีแล้ว