อัจฉริยะ รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสวัดบางคลาน หารือตำรวจ ปปป. ดำเนินคดีกับบุคคลต่าง ๆ ละเมิดกฎหมายภายในวัด พร้อมเปิดเจรจา สว. คนดัง หาข้อยุติความบาดหมาง เตือนถ้าไม่ฟังเจอแจ้งข้อหาบุกรุก หากตำรวจในพื้นที่ไม่รับฟ้องเจอแจ้ง ม.157
วันที่ 29 กันยายน 2566 มีรายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) หลังจากได้รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จ.พิจิตร และคณะเข้าปรึกษาการบังคับใช้กฏหมายตามคำสั่งศาล
นายอัจฉริยะ เผยว่า ตนได้รับอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายจากเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ในการดำเนินคดีกับบุคคลต่าง ๆ ที่ละเมิดกฎหมายภายในวัด ซึ่งในวันที่ 2 ตุลาคม นี้ ตนจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกคน ที่อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งภายในบางคลาน โดยจะพยายามขอเจรจากันก่อน แต่ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ตนก็จะขอบังคับใช้ข้อกฎหมายจับคนที่บุกรุกวัดทั้งหมด และถ้าหากตำรวจไม่ดำเนินการตนก็จะฟ้อง มาตรา 157 กับตำรวจทั้งหมด
ส่วนภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียลที่มี สว. คนดัง ทำตัวกร่างไล่เจ้าอาวาสวัดตนก็จะขอเจรจา ถึงแม้ สว. คนดังกล่าวจะอ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแค่มาทำบุญเท่านั้น นายอัจฉริยะบอกว่า ถ้ามาทำบุญจริงก็ต้องกลับออกไป ไม่ใช่มาห้ามให้เจ้าอาวาสเข้าไปภายในวัด หากยังไม่ปฏิบัติตามตนก็จะฟ้อง หากตำรวจในพื้นที่ไม่รับฟ้องตนก็จะแจ้งมาตรา 157 กับตำรวจในพื้นที่ โดยให้ บก.ปปป. เป็นผู้ดำเนินการ ถ้าถึงเวลานั้นก็อย่ามาโวยวาย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนทราบหมดแล้วสำหรับนายทุนทุกคนที่อยู่เบื้องหลัง ตนแนะนำให้ออกไปแต่โดยดี อย่านำวัดมาเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มทุนจีนเทา พร้อมแนะนำว่า ถ้าหากฝั่งตรงข้ามคิดว่าตนไม่มีความโปร่งใสก็ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้งสองฝ่ายและเอามาเจรจากัน หาข้อยุติความบาดหมาง เพื่อส่งวัดคืนสู่ความสงบสุข และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวบ้าน
ส่วนเรื่องที่มีการเสนอให้มีการเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสนั้น ไม่มีใครปลดเจ้าอาวาสได้ ถ้าจะปลดจะต้องมีกระทำการผิดกฎหมายก่อน แต่นี่เจ้าอาวาสยังไม่ได้ทำอะไรผิด นอกจากนี้ตนยังได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นกับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อปรึกษาหารือแนวทางต่าง ๆ ระหว่างกัน ซึ่งหลังจากนี้จะมีความชัดเจนเรื่องแนวทางมากขึ้น