2 สามีผู้ต้องหาบัญชีม้า ไม่เชื่อ “มินนี่” ปัดไม่เกี่ยวเว็บพนันออนไลน์
จากกรณีเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) นางสาวมินนี่ ได้แถลงข่าวเปิดใจเป็นครั้งแรก โดยปฏิเสธว่า เธอไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์ และปัดไม่ตอบคำถาม ถึงกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นบัญชีม้าให้กับมินนี่และพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ย้อนกลับไปพูดคุยกับ 2 สามีผู้ต้องหาบัญชีม้าประกอบด้วย 1. นายทองใส แก้วทอง สามีของนางแสงเดือน แก้วทอง และ 2. นายเดชณรงค์ วงษาวิเศษย์ สามีของนางสาวยุพาพร ซึ่งทั้งมองคนคือสามีผู้ต้องหาบัญชีม้าที่ถูกจับเพราะ บัญชีธนาคารมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่
โดยในวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้กลับไปหาทั้ง 2 ครอบครัว พร้อมกับนำข้าวเหนียว ไข่ไก่ และอาหารแห้งจำนวนหนึ่งนำไปช่วย 2 ครอบครัวทั้งสองเบื้องต้น หลังจากเมื่อวานนี้ทีมข่าวเดินทางไปพบว่า 2 ครอบครัวที่เมียติดคุกต้องกินอยู่อย่างลำบาก บางครอบครัวเหลือเงินเพียง 10 บาทเพื่อนำมาซื้อไข่ไก่เพื่อกินประทังชีวิต
ครอบครัวแรก คือ ครอบครัวของนายทองใส แก้วทอง สามีของนางแสงเดือน ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าตัวเหลือเงินเพียง 10 บาท ต้องกินข้าวกับไข่ทอด โดยเจ้าตัวบอกกับข่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้เข้าสู่วันที่ห้าแล้วที่ภรรยาของตนเองถูกตำรวจจับเข้าห้องขัง และยังไม่ทราบชะตากรรมว่าป่านนี้ภรรยาจะเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ตนเองคิดถึงภรรยามาก ลูกทั้งสองคนก็อยากจะพบหน้าแม่ แต่ก็ไม่รู้จะหาเงินจำนวน 150,000 บาทไปประกันตัวภรรยาได้อย่างไร “ตอนนี้ผมอยากไปหาแฟนมากเลยครับ อยากให้แฟนผมกลับบ้าน”
ส่วนที่เมื่อวานนี้ตนเองได้นั่งฟังคำแถลงของมินนี่ โดยมินนี่บอกว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์อย่างที่ตำรวจผู้กล่าวหา ตนเองไม่เชื่อคำพูดของมินนี่ เนื่องจากหากมินนี่ไม่เกี่ยวข้องแล้วจะให้คนมาจ้างภรรยาของตนเองไปเปิดบัญชีและนำสมุดบัญชีไปให้ ครอบครัวมินนี่เขาได้อย่างไร และอยากให้ครอบครัวของมินนี่ช่วยเหลือภรรยาของตนเองให้ออกมาจากคุกด้วย เพราะมินนี่ก็มีโอกาสออกจากคุกมาเจอหน้าลูก ซึ่งผิดกับภรรยาผมที่ต้องติดคุกเนื่องจากจน และไม่มีเงินประกันตัว
“เงินค่าประกันตัวภรรยาผม 150,000 บาท มันมากนักเหลือเกิน มันมากกว่าชีวิตของผมสะอีก ผมไม่รู้จะหาเงินมากมายขนาดนี้มาประกันตัวภรรยาได้จากที่ไหน”
สุดท้ายตัวเองอยากฝากไปถึงภรรยาที่อยู่ในห้องขังว่า “อย่าเพิ่งร้องไห้เยอะนะ ผมรู้ว่าเวลานี้ภรรยาผมกำลังร้องไห้อยู่ เพราะภรรยาผมคิดถึงบ้าน คิดถึงลูก คิดถึงครอบครัว ถ้ายิ่งนานไป ภรรยาคงผมคงรู้สึกแย่ขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ช่วยภรรยาของผมด้วย”
สามี “ยุพาพร” น้ำตาตก ห่วงภรรยาผู้ต้องหาถูกจับบัญชีม้า ป่วยโรคหัวใจกลัวทรุดหนัก วอน ขอแลกเอาตัวเองเข้าคุกแทนภรรยา
ขณะเดียวกันอีกหนึ่งครอบครัว ที่ต้องลำบากเนื่องจากพยายามต้องติดคุกคือครอบครัวของนางสาวยุพาพร โดยในวันนี้ทีมข่าว 8 ได้นำไข่ไก่ ข้าวเหนียว และอาหาร ไปมอบให้กับครอบครัวของนางสาวยุพาพรอีกหนึ่งครอบครัว โดยครอบครัวนี้ก็ลำบากเช่นกัน โดยเราได้พูดคุยกับนายเดชณรงค์ วงษาวิเศษย์ สามีของนางสาวยุพาพร บอกกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ตนเองเป็นห่วงภรรยามาก เป็นทุกข์มาก ไม่รู้ว่าภรรยาอยู่ภายในเรือนจำจะเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวทั้งคิดถึงและเป็นห่วง เนื่องจากภรรยาป่วยเป็นโรคหัวใจพองโต หากได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจจะหายใจไม่ทัน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ซึ่งตนเองกลัวว่าภรรยาจะทรุดหนักอยู่ภายในเรือนจำ
ซึ่งหากเป็นไปได้ตนเอง “ผมอยากจะไปติดคุกแทนภรรยาผมด้วยซ้ำ ผมยังพอแข็งแรง ผมอยู่ในนั้นได้ แต่ภรรยาผมป่วย ผมอยากให้เขาออกมารักษา ผมขอติดคุกแทนเขา ผมยอม”
ส่วนเมื่อวานนี้ที่มินนี่บอกว่า ตนเองไม่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ตนเองไม่ขอตอบแต่เชื่อว่า “กรรมเท่ากับการกระทำ มันหนีไม่พ้น หากเขาทำผิด อีกไม่นานกรรมจะต้องตามสนองเขาเอง“
ซึ่งตนเองยืนยันคำเดิมว่า ภรรยาของตนเองถูกคนงานของครอบครัวมินนี่ติดต่อว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีให้จริง ภรรยาของตนเองไม่เคยคิดเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ออนไลน์ได้ด้วยซ้ำ แต่ต้องกลับถูกจับติดคุกไม่มีสิทธิออกมาสู้คดีใดๆ ซึ่งคำพูดที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” นั้นใช้ได้ตลอด
ต่อมาสามีผู้ต้องหาทั้งสองคนได้เดินทางไปที่วัดบ้านโป่งพัฒนาราม เพื่อเข้าไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน โดยทั้งสองคนได้เข้าไป
จุดธูปจำนวน 3 ดอก ไหว้ขอพรหน้าพระประธาน ซึ่งทั้งสอง ได้ขอพรขอให้องค์หลวงพ่อช่วยดลบันดาลให้ ภรรยาของพวกตนเองทั้งสองอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีภัยอันตรายใดๆเข้ามาทำร้ายได้ และขอให้ช่วยให้มีผู้ใจบุญ ช่วยทำเรื่องประกันตัวให้ภรรยาของพวกตนเองทั้งสองด้วยได้กลับบ้านมาอยู่กับครอบครัวด้วย ซึ่งหลังจากกราบไหว้ขอพรเสร็จทั้งสองบอกว่ารู้สึกสบายสบายใจขึ้น และมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ช่อง 8 พาสามีผู้ต้องหาบัญชีม้า พบ สนง.ยุติธรรมจังหวัดเลย ปรึกษาช่วยเหลือเรื่องประกันตัว
นอกจากนี้ช่วงเย็นที่ผ่านมาทีมข่าวช่อง 8 ยังพาสามีของผู้ต้องหาเดินทางไปขอความช่วยเหลือกับ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเลย เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือประกันตัวภรรยาของทั้ง 2 คนออกมาโดยได้เข้าไปพบกับ นางบุญเรือง กาฬเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเลย
นางบุญเรืองให้ข้อมูลว่า ในนามของสำนักงานยุติธรรมจังหวัด ได้มีกองทุนยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ตนเองได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และแจ้งให้ทางสามีของผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังอยู่ทำนำเอกสารมาทำเรื่องขอยื่นขอเงินจากกองทุน ซึ่งจากที่ตนเองดูความผิดแล้ว คาดว่า น่าจะทำเรื่องขอเงินจากกองทุนได้ แต่จะต้องให้คณะกรรมพิจารณาอีกที
เปิดใจ ลูกชาย ”แสงเดือด“ นักมวยยอดกตัญญูหาเลี้ยงพ่อแม่ เผยน้ำตาตกเห็นแม่ถูกจับต่อหน้าแต่ช่วยไม่ได้
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายภานุวัฒน์ หรือ น้องโฟม อายุ 18 ปี ลูกชายคนโตของนางแสงเดือนผู้ต้องหาบัญชีม้า เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองนั้นอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่แม่ถูกจับ ซึ่งตำรวจเอาตัวแม่ของผมไปต่อหน้าต่อตา โดยบอกว่า แม่เป็นบัญชีม้าพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ตอนนั้นตนเองตกใจมาก วินาทีที่เห็นตำรวจพาแม่ขึ้นรถออกจากบ้านไป ตนเองเสียใจมาก ร้องไห้คิดถึงแม่ทุกคืน เพราะที่ผ่านมาชีวิตของแม่ รับจ้างเก็บขี้ยาง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการพนันมาก่อน
ส่วนตนเองนั้น ทางบ้านยากจน ไม่มีเงินเรียนหนังสือ และต้องเสียสละให้น้องเรียน จึงอาศัยฝึกมวย และไปเป็นนักมวย ชกมวยหาเลี้ยงชีพส่งเงินให้พ่อแม่ ซึ่งแต่ละแมตซ์ หากตนเองชนะจะได้เงินรางวัลจำนวน 3,000 บาท มีชนะบ้างแพ้บ้าง ฉายาในวงการคือ “ชนะเพชร ศิษย์ครูกล้า”
ซึ่งทุกครั้งที่ตนเองชกชนะ ก็จะนำเงินทั้งหมดมอบให้แม่ เพราะน้องสาวยังต้องไปโรงเรียน ครอบครัวต้องหาเงินซื้อข้าวกินประทังชีวิต
นอกจากนี้เจ้าตัวยังส่งคลิปที่ตัวเองรับจ้างขึ้นชกมวยหาเงินให้ทีมข่าวดู คลิป 1 เป็นคลิปที่ตนเองขึ้นชก และแพ้น็อคคู่ต่อสู้ ร่วงไปนอนกองกับพื้น เพราะตนเองต้องการไต่น้ำหนักขึ้นไปชกกับรุ่นพี่ เพราะหากชนะก็จะได้เงินรางวัลมาก แต่สุดท้ายก็แพ้น็อค
ทั้งนี้ เจ้าตัวได้บอกทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ผมอยากให้แม่ผมกลับมาอยู่กับผมมาก และผมคงไม่มีปัญญาหาเงินจำนวนมากมาประกันตัวแม่ออกมาได้ ซึ่งตนเองก็ได้แต่ขอความเป็นธรรมใครก็ได้ช่วยประกันตัวแม่ผม อย่างน้อยก็ได้ออกมาสู้คดีก็ยังดี
เปิดใจ “เรไร” แม่บ้านครอบครัวมินนี่ สภาพทั้งหมดจิตใจย้ำแย่ ยืนยันครอบครัวมินนี่ให้เปิดบัญชี อ้างเพื่อจ่ายเงินเดือน ไม่คิดนำไปใช้พัวพันเว็บพนันออนไลน์
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเรไร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาพลเรือนที่ถูกจับกุมเนื่องจากเป็นบัญชีม้าที่พัวพันเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ และเธอคือแม่บ้านคนสนิทของครอบครัวมินนี่ที่รับใช้ครอบครัวมินนี่มากว่า 10 ปี
เธอยอมรับว่า ตนเองก่อนหน้านี้ถูกครอบครัวของมินนี่ใช้ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร อ้างว่าจะโอนเงินผ่านบัญชีดังกล่าว แต่หลังจากไปเปิดสมุดบัญชีธนาคารมาแล้ว คนใช้อีกคนได้นำสมุดบัญชีของตนเองไปมอบให้กับครอบครัวมินนี่ยึดไปและไม่ได้คืนอีก จากนั้นครอบครัวมินนี่ได้บอกให้ตนเองไปเปิดบัญชีธนาคารอีกบัญชี เป็นบัญชีที่ 2 และได้โอนเงินเดือนละ 9000 บาท ค่าแม่บ้านผ่านบัญชีที่ 2 ส่วนบัญชีแรก หลังจากถูกยึดบัญชีไปก็ไม่มีใครพูดถึง ตัวเองจึงคิดว่าไม่มีอะไร
กระทั่งวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมามีตำรวจบุกจับที่บ้านพร้อมกับบอกว่าบัญชีของตนเองเป็นบัญชีม้าที่ผูกพันกับเครือข่ายพนันออนไลน์ของมินนี่ ตอนนั้นตนเองตกใจมาก ไม่คิดว่าบัญชีธนาคารของตนเองจะถูกนำไปใช้ผิดกฎหมาย
เธอยังบอกกับทีมข่าวพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยว่า เธอเสียใจมากที่ต้องถูกเข้าไปอยู่ในเรือนจำพร้อมกับเพื่อนอีก 3-4 คน แต่ตนเองยังโชคดีที่มีคนประกันตัวออกมาให้ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนประกันตัวให้ แต่เพื่อนอีก 2 คน คือ นางแสงเดือน และนางยุพาพร ซึ่งอยู่ห้องขังเดียวกับตนเอง ตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก เนื่องจากไม่มีใครวางหลักทรัพย์ประกันตัวให้ โดยก่อนที่ตนเองจะออกมาทั้ง 2 คน ร้องไห้และฝากตนเองช่วยบอกให้คนช่วยประกันตัวเขา 2 คนออกไปด้วย เพราะ 2 คนก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เพียงแค่ถูกจ้างให้ไปเปิดบัญชี คนละ 1,000 บาท แต่กลับต้องมาโดนติดคุก
ส่วนที่ตนเองเป็นแม่บ้านของครอบครัวมินนี่ ตนเองยังยืนยันว่าที่ผ่านมาครอบครัวมินนี่ใจดีและมีบุญคุณกับตนเองมาก และไม่เคยรู้เรื่องเลยว่ามินนี่ทำธุรกิจพนันออนไลน์ และครอบครัวมินนี่รวยอยู่แล้วไม่ใช่เพิ่งจะมารวยก้าวกระโดดอย่างที่ชาวบ้านบอก และยังไม่ค่อยเชื่อว่ามินนี่คือเจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่อย่างที่ตกเป็นข่าว
แต่หลังจากตนเองถูกตำรวจจับยอมรับว่ายังไม่ได้พูดคุยกับครอบครัวของมินนี่ และรู้สึกผิดหวังที่เวลาตัวเองลำบากครอบครัวมินนี่ไม่มีใครแม้แต่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งๆที่พวกเขาเป็นคนทำให้ตนเองเดือดร้อน