*ทนายอนันต์ชัยฝากถึงทนายเดชา
ส่วนกรณีที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการทำคดีบิ๊กโจ๊กของทนายอนันต์ชัยนั้น

ทนายอนันต์ชัย เปิดบทเพลง ไอ้สันขวาน ขึ้นมา มีเนื้อร้องว่า “มึงก็เดินตามทางของมึง ไอ้กูก็เดินตามทางของกู งานของมึงกูก็ไม่รู้แต่งานของกูมึงคงไม่เข้าใจนี้ “

พร้อมเปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่เคยยุ่งกับทนายเดชาและไม่เคยวิจารณ์เกี่ยวกับคดีที่ทนายเดชาทำ แต่ทนายเดชามักจะมายุ่งเกี่ยวกับคดีของตัวเองตลอดจนล่าสุดที่ตัวเองฟาดกลับคือเรื่องของแพรรี่ แต่หลังจากนั้นมีความบังเอิญต้องไปเจอกันในศาลแต่ทั้งคู่ก็ต่างพูดจากันด้วยดีไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่มาถึงตอนนี้อยากจะฝากบอกทนายเดชาว่าทางใครทางมัน ทางหมาเดินก็เดินตาม ทางคนเดินก็เดินตาม อย่ามายุ่งกับผมเลยอย่ามาวิจารณ์คดีผมเลย เพราะว่าสิ่งที่คุณรู้ มันไม่ทำผมรู้หรอก ทนายเดชามีแต่มโนมีแต่ภาพมามโน แต่สำหรับทนายอนันต์ชัยมันเป็นภาพเหตุการณ์จริง เพราะฉะนั้นทนายเดชาอย่ามโน

*เผยหลังบิ๊กโจ๊กถ่ายรูปคู่บิ๊กต่อ
ขณะเดียวกัน ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวถึงมีรูปคู่ระหว่างบิ๊กโจ๊กกับบิ๊กต่อ โอบกอดเอวกันเรื่องนี้ทนายอนันต์ชัยบอกว่าได้ถามบิ๊กโจ๊ก ในฐานะที่เป็นทนายความให้ บิ๊กโจ๊กตอบกลับตัวเองมาบอกว่าบิ๊กโจ๊กไปแสดงความยินดีกับบิ๊กต่อ ที่เข้ารับตำแหน่งผบ.ตร. แล้วก็มีการถ่ายภาพกัน แต่ตัวบิ๊กโจ๊กเองไม่ได้เป็นคนนำรูปดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อ เป็นทางทีมงานของบิ๊กต่อ ที่เป็นคนนำไปเผยแพร่

สวนปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเพราะเรื่องการแย่งชิงตำแหน่งผบ.ตร. ระหว่างบิ๊กโจ๊กกับบิ๊กต่อตามที่หลายคนเข้าใจผิดอย่างแน่นอน เพราะด้วยอายุราชการของบิ๊กโจ๊กยังเหลืออีก 8 ปี

*ขอไม่เดินหน้าคดี?
หลังจากนั้นทนายอนันต์ชัย ก็พูดถึงเรื่องเกาทัณฑ์ ที่ตัวเองโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ขึ้นมาบอกว่า ตอนนี้ตัวเองเปรียบเสมือนเป็นแม่ทัพที่กำลังไปออกรบ ส่วนบิ๊กโจ๊กเป็นฮ่องเต้ และในขณะที่ตัวเองกำลังรบอยู่ แล้วมีฮ่องเต้มาบอกให้ตัวเองหยุดก่อนในขณะที่แม่ทัพกำลังได้เปรียบอยู่ตัวเองก็คงจะไม่สามารถหยุดทัพตามคำสั่งของฮ่องเต้ได้

แม้ว่ากลับมาจากศึกแล้ว จะยอมโดนตัดหัวก็ตาม ก็เหมือนกับตอนนี้ที่ทำคดีอยู่ถึงแม้ว่าจะมีการขอร้องไม่ให้เดินหน้าต่อ ทนายอนันต์ชัยบอกว่าไม่สามารถขอร้องตัวเองเองได้ มีสิ่งเดียวที่จะทำให้ถึงหยุดได้ก็คือบิ๊กโจ๊กต้องปลดตัวเองออกจากการเป็นทนาย