"อนุสรณ์" ชี้การขับสมาชิกออกจากพรรค ไม่ใช่เรื่องเล็ก อย่าสมคบคิดทำนิติกรรมอำพราง เพื่อรักษาอำนาจ ขาดความสง่างาม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พรรคก้าวไกลมีมติขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคฯ ว่า ก่อนหน้านี้ตนระมัดระวังการให้ความเห็นในเรื่องนี้เพราะไม่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะกล้ามีมติขับนายปดิพัทธ์พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคฯจริง การขับสมาชิกพรรคที่เป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ควรเป็นเรื่องกระทำความผิดอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคได้ จึงเกิดคำถามว่า นายปดิพัทธ์ ทำความผิดอะไร จากนี้ไปถนนทุกสายจะมีผู้ไปยื่นทั้งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง ตีความการขับสมาชิกออกจากพรรคชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่า การกระทำเช่นนี้ขัดจริยธรรมและคุณธรรมทางการเมืองหรือไม่ นี่ไม่ใช่การเมืองใหม่ที่โฆษณาไว้ แต่เป็นการเมืองโบราณย้อนยุค ถอยหลังลงคลอง เพื่อต้องการรักษาตำแหน่งและผลประโยชน์ มากกว่ารักษาความถูกต้องหรือไม่ การที่นายปดิพัทธ์ท่องคาถา ต้องอยู่ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพื่อให้สภาฯโปร่งใสนั้น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่สบายใจ เป็นข้ออ้างที่พูดเอาดีใส่ตัว แต่ด้อยค่าสภาฯ การใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อให้ตัวเองกอดเก้าอี้ต่อไป จะเหลือความสง่างามตรงไหน ฝืนขึ้นไปนั่งทำหน้าที่ทั้งๆที่ถูกพรรคขับออก จะไปกล้าสู้หน้าใครได้ พฤติกรรมที่ทำนี้ถือเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ สังคมรุมตำหนิว่า ก้าวไกลการละคร จึงอาจเป็นละครตกยุคน้ำเน่าไม่สร้างสรรค์ เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้รับความสนใจมีคนเข้าติดตามมากขึ้น มีคนออกมาแฉมากขึ้น เป็นการแลกทุกอย่างเพื่อรักษาเก้าอี้ที่ได้ไม่คุ้มเสีย
“ตำแหน่งรองประธานสภา ไม่ใช่สมบัติของพรรคใด ถ้าไม่สามารถเป็นต่อได้ ก็แค่ลงมาทำหน้าที่อื่น ให้คนที่มีความเหมาะสมสง่างามทำหน้าที่ เพื่อดำรงเกียรติยศและศักดิ์ศรีของสภาไว้” นายอนุสรณ์ กล่าว