โซเชียลแชร์ว่อน คลิปหมอพรทิพย์ ถูกชายคนไทยไล่ออกจากร้านอาหาร ขณะเที่ยวที่ไอซ์แลนด์
30 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อมีการแชร์คลิปของชายคนไทยคนหนึ่ง ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะเดินทางไปที่ร้านอาหารในประเทศไอซ์แลนด์ หลังจากทราบว่า จะมีนักการเมือง พร้อมคณะ สส. เดินทางมารับประทานอาหารที่ตนเองเป็นเจ้าของ
ทันทีที่ชายคนดังกล่าวเดินทางไปถึงร้าน ก็ตรงปรี่เข้าไปหาคณะนักการเมือง พบว่าหนึ่งในนั้น คือ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา จึงได้ชี้นิ้วสั่ง พร้อมขับไล่ออกจากร้าน โดยบอกว่าตนเองเป็นเจ้าของร้าน ไม่ต้อนรับหมอพรทิพย์ ให้ออกไป แม้ทางหมอพรทิพย์จะยืนนิ่งไม่โต้ตอบ จนมีคนที่มาด้วยกันช่วยพูด และคอยห้ามชายคนดังกล่าวให้ใจเย็นๆ และพูดกันดีๆ
แต่ชายคนดังกล่าว ก็ยังยืนกรานบอกให้หมอพรทิพย์ ออกจากร้านไปเพียงคนเดียว เพราะไม่ต้อนรับ ทั้งยังบอกอีกว่า ตนเองเคยชอบมาก และไม่ว่าคนอื่น ว่าหมอพรทิพย์คนเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังขอให้พนักงานมาช่วยไล่ จนสุดท้ายทั้งกลุ่มคนที่มากับหมอพรทิพย์ก็พากันออกจากร้านไป
หมอพรทิพย์ ตอบแล้ว ปมถูกไล่ออกจากร้านที่ไอซ์แลนด์
ล่าสุด พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Porntip Rojanasunan” นำภาพท่องเที่ยวไปชมแสงเหนือ ที่ไอซ์แลนด์ มาให้ชม โดยว่า “ที่สุดท้าย วันสุดท้ายที่แดดดีวันแรก ไม่มีฝนพรำ คือทะเลสาป Kleifarvatn ที่มีชายหาดสีดำสนิท #เที่ยวกับหมอพรทิพย์ #เที่ยวไอซ์แลนด์ #แก๊งค์สุมหัว #ตามล่าแสงเหนือ”
โดยในโพสต์ดังกล่าว ได้มีคนเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เข้าไปคอมเมนต์ว่า
“คุณหมอคะ มาเบลเยียมได้มั้ยคะ? ร้านเล็กๆของหนู ยินดีต้อนรับคุณหมอด้วยใจค่ะ หนูเห็นคลิปแล้ว แทบอยากร้องไห้เลยค่ะ หนูเป็นอีกหนึ่งเสียง ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยใจจริง ถึงหนูจะมีไม่มาก แต่หนูจะต้อนรับคุณหมอด้วยใจทั้งหมดที่หนูมีเลยค่ะ”
ซึ่ง หมอพรทิพย์ก็เข้าไปคอมเมนต์ว่า “ขอบคุณค่ะ ไม่รับมันมา ทุกสิ่งที่ทำก็กลับเข้าตัวค่ะ”
หมอพรทิพย์ เที่ยวทุ่งลาวามอส แชะภาพนอนทับ เจอวิจารณ์ยับ ไม่ควรทำ
หมอพรทิพย์ได้โพสต์อินสตาแกรมเผยแพร่ภาพขณะไปเที่ยว Lava Moss โดยว่า “สิ่งมหัศจรรย์สวยงามทางธรรมชาติของไอซ์แลนด์ คือ Lava Moss บางคนเรียก Lava Field ที่วันนี้แดดดีเลยได้ถ่ายรูปด้วย มองเหมือนพรมกำมะหยี่นุ่ม เป็นก้อนๆ ตามลักษณะของลาวาจากภูเขาไฟ” อย่างไรก็ตาม ต่อมาหมอพรทิพย์ได้ลบภาพดังกล่าวออกไปจากอินสตาแกรม
ทั้งนี้ โลกออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวจำนวนมาก เนื่องจากมอสที่โตในไอซ์แลนด์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่เปราะบาง มอสมีมากกว่า 600 ชนิดในไอซ์แลนด์ หลายชนิดนั้นอยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการฟื้นตัว ให้ปฏิบัติตามเส้นทางการเดิน เพื่อป้องกันความเสียหาย การเดินบนทุ่งลาวา จะเก็บเอารอยและความเสียหายไว้เป็นเวลานาน หลายคนจึงได้แสดงความเห็นในเชิงลบ
สส. โตโต้” เผย “คุณหญิงหมอพรทิพย์ – สส. เปิ้ล” เป็นบุคคลสาธารณะ สามารถโดนด่าได้
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ “โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ” ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล อดีตหัวหน้ากลุ่มการ์ด WeVo ถึงการคอมเมนท์ดังกล่าวว่า ซึ่งได้เล่าว่า เหตุการณ์ที่ตนโพสต์ เกิดเมื่อ ตอนเข้าประชุมวันที่ 20 ที่ผ่านมา ณ ห้องอาหาร ด้วยตนกับเพื่อนๆ ในพรรคกำลังทานอาหารอยู่ และ สส. เปิ้ล เดินผ่านมา เพื่อนในพรรรคก็ยกมือไหว้ ปกติ
ต่อมาก็เห็น สส. เปิ้ล เดินกลับมาที่ตน และถามด้วยประโยคนั้น แต่ตนก็ตอบกลับว่า ทำไมจะนับไม่ได้ แต่เขาบอกว่า ไม่มีใครเขาทำกัน และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ก็เหมือนเขาจะโกรธ และพูดกับตนว่า ถ้าพรรคก้าวไกลยังมีความคิดเห็นที่ จะนับ ก็คงทำงานกับพรรคอื่นลำบาก เพราะด้วยการทำงานเขาสามารถพูดคุยกับมากกว่า มาทำการนับองค์ประชุม ซึ่งตนมองว่า การลาประชุม เป็นเรื่องที่ สส หรือ สว ทำได้ เมื่อมีเหตุที่ควร และจำเป็นจริงๆ ในเรื่องดังกล่าว ตนไม่ได้ติดใจ เพราะถือว่าคุยจบแล้วจบ แต่ สส. เปิ้ล โกรธตน
และพอวันนี้ เห็นเรื่องของ การที่คุณหญิงหมอพรทิพย์ โดนล่า ตนก็เลยรู้สึกว่าส่วนตัวว่า เพราะแบบนี้หรือเปล่า ที่ทำให้ สส. เปิ้ล ไม่อยากให้นับองค์ประชุมหรือเปล่า เพราะเขาไปต่างประเทศเยอะ หรือไปศึกษางานบ่อย แบบนี้หรือเปล่า
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ตนมองว่า ทุกคนมีโอกาสเจอแบบนี้ ตอนตนหาเสียง หรือ พรรคตนหาเสียง ก็เคยโดนเอาน้ำสาดเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่เคย เมื่อเป็นคนของประชาชน ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนประชาชนว่ากล่าวได้และเชื่อว่า ก่อนที่จะมีคลิปว่า ขนาดนี้ คงมีการพูดคุยกับดีๆ ก่อนแล้ว แต่ทางด้าน คุณหญิงหมอ และ สส. เปิ้ล อาจจะไม่ได้เดินออกจากร้านตามที่เขาต้องการ เลยทำให้มีอารมณ์หรือไม่
ขุดประวัติคนด่าหมอพรทิพย์พบว่าเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่ใช่เจ้าของร้านตามที่อ้าง
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นายนพดล อายุ 60 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคนที่ชื่นชอบในตัวหมอพรทิพย์เป็นอย่างมาก วันนี้นายนพดลได้เผยความรู้สึดกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนนั้นได้เห็นคลิปดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. โดยมีรุ่นน้องส่งมาให้ดูและบอกว่า ให้ดูเฉย ๆ อย่านำไปเผยแพร่ เพราะเกรงว่าหมอพรทิพย์จะได้รับความอับอาย แต่ตอนที่เห็นคลิปนั้นก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง จึงอยากนำคลิปดังกล่าวไปแพร่ขยายให้สาธารณชนได้รับรู้ร่วมกัน ไม่อยากให้ปิดเรื่องนี้แล้วยัดกลับไปอยู่ใต้พรม อยากให้ทุกคนช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ว่าพฤติกรรมดังกล่าวมันถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
ซึ่งในคลิปดังกล่าวก็แสดงให้เห็นพฤติกรรมและความตั้งใจอย่างชัดเจนว่าชายคนดังกล่าวจงใจจะมาหาเรื่องหมอพรทิพย์ ซ้ำยังมีการพูดจาข่มขู่ผ่านการถ่ายทอดสดว่าจะขับรถชน ขนกระทั่งไปถึงร้านอาหารก็ได้มีการหมิ่นประมาท มีการเหยียดให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่นายนพดลก็ต้องขอชื่นชมหมอพรทิพย์ว่าสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และมองว่าสิ่งที่นายสิทธิชัยทำ ก็คงจะทำเพื่อความสะใจ คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ หลังจากที่เห็นคลิป ทางด้านนายนพดลก็ได้มีการขุดคุ้ยหาความเป็นไปเป็นมาของนายสิทธิชัย จนพบว่านายสิทธิชัยไม่ได้เป็นเจ้าของร้านอาหารตามที่กล่าวอ้าง แต่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพ่อครัวเท่านั้น จากนั้นนายนพดลกับชาวเน็ตบางส่วนได้มีการรวบรวมหลักฐานและเขียนอีเมลแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นไปยัง CEO ของร้านอาหารดังกล่าว เพื่อให้ทางร้านออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
นายนพดลยังบอกอีกว่า หากตนเป็นหมอพรทิพย์ ตนคงจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะทำการรวบรวมหลักฐานไปยื่นให้กับสถานฑูตและเจ้าของร้าน เพื่อออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็น สว. ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นคุณหญิง ทั้งยังบอกอีกว่า แม้ตนจะเป็นคนเสื้อเหลือง แต่หากลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารในร้านของตนเป็นคนฝั่งตรงข้าม ตนก็ยังจะต้อนรับและให้บริการตามปกติ เพราะมองว่าเรื่องแบบนี้ต้องแยกแยะให้ได้ และต้องมีความเป็นมืออาชีพ
ตั๊ก มยุรา ชี้ เจ้าของร้านอาหารที่ไล่ 'หมอพรทิพย์' หัดแยกแยะ-เก็บอารมณ์บ้าง
ล่าสุด ตั๊ก มยุรา นักแสดงและพิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย ได้แสดงความเห็นในอินสตาแกรมต่อประเด็นดังกล่าวดังนี้
“ไม่ดีเลย เป็นการกระทำที่แย่มาก ลูกค้าทุกคนต้องเท่าเทียมกันหมด หมอมาเป็นลูกค้าคุณไล่ลูกค้าแบบนี้เหรอ หัดรู้จักแยกแยะ และเก็บอารมณ์บ้าง คุณจะเจริญขึ้น (ขอโทษไม่ใช่พวกใครทั้งนั้น แต่รักความถูกต้อง) เป็นกำลังใจให้คุณหมอค่ะ แผ่เมตตานะคะ”
นอกจากนี้ยังได้ตอบกลับความเห็นของผู้ใช้รายหนึ่งที่ระบุว่า “การที่เราจะไม่ให้บริการใครน่าจะเป็นสิทธิ์ของเราหรือเปล่า พลาดตรงที่เค้าขึ้นกูเท่านั้นเอง” ไว้ด้วยว่า “ไม่นะคะ พี่มองว่าเราทำงานบริการ เราควรบริการทุกคนที่มาอุดหนุนเรา พี่ยืนยันว่าไม่ใช่พวกใคร พอดีพี่เป็นเจ้าของธุรกิจก็เลยดูว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ แล้วด่าน่ากลัวมากกก”
เปิดใจ “ตั๊ก มยุรา” โกรธแทน “คุณหญิงหมอพรทิพย์” เป็นพฤติกรรม ที่คนทำงานบริการไม่ควรทำ
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ คุณมยุรา เศวตศิลา นักแสดงสาวที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว โดยได้เผยว่า เมื่อได้เห็นคลิป ยอมรับว่าโกรธแทน คุณหญิงหมอพรทิพย์ เพราะมองว่ามนุษย์ไม่ควรทำกันถึงขนาดนี้ ตนเคยได้สัมภาษณ์ คุณหญิงหมอพรทิพย์ รู้สึกให้ความเคารพ เพราะท่านมีความเป็นผู้ใหญ่
และสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ตนแอนตี้ และไม่ชอบกับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ มันคือการไม่ให้เกียรติกัน ตนเห็นก็รู้สึกจี๊ดขึ้นมา เห็นก็ทนไม่ได้ จึงขอแสดงความเห็น พร้อมทั้งนี้ ขณะก่อนที่จะมีการไปไล่คุณหญิงหมอออกจากร้าน ยังมีการไลฟ์สดบนรถ ด้วยคำพูด ตนต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ ไม่ควรทำ และตนก็ไม่เอนเอียงฝ่ายใด ตนเป็นกลาง แต่จะรักใคร ตนก็จะเก็บไว้ในใจ ไม่แสดงออกมา จากสิ่งที่เกิดขึ้น ตนมองว่า คนไม่เคารพกัน และไม่ให้เกียรติในความเป็นผู้ใหญ่กว่า รุ่นพี่รุ่นน้องมันไม่มี
สำหรับการบริการ ทุกคนไม่มีสิทธิ์ในการเลือก ว่าจะบริการใครหรือไม่บริการ จนก็ทำงานบริการ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ ก็ต้องง้อลูกค้า เป็นดาราก็ต้องง้อคนดู เป็นคนหยิ่งไม่ได้ ทุกอย่างต้องเก็บไว้ในใจ แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบ แต่การแสดงการกระทำแบบนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่มันดี หรือน่ารัก มันบ่งบอก ถึงวัฒนธรรม ถึงนิสัยในตัวของเขา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตนทนไม่ได้ คือ ทำงานบริการ มีสิทธิ์หรือเปล่า ในการเลือก ขายหรือไม่ขาย จากคลิป ตนรู้สึก สงสารคุณหญิงหมอมาก อย่างแรก ต้องรู้สึกเสียหน้า แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
“ทนายเดชา” เตือน สว. ควรทำตัวให้เหมาะสม และหุบปาก หยุดวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล
ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีการพูดคุยกับ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ถึงมุมมองส่วน ในประเด็นนี้ว่า ตนได้เห็นข่าวเมื่อเช้า ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้น ในตอนที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ และเข้าร้านอาหาร พร้อมมีบุคคลคนไทย ที่อ้างว่า เป็นเจ้าของร้าน ไล่ออกจากร้านอาหาร ด้วยคำพูดที่รุนแรงและดูไม่มีมารยาท พร้อมติดเทรนด์ทวิตอันดับ 1 ด้วยสาเหตุของการไล่ออกจากร้านอาหารนั้น เพียงเพราะไม่พอใจ กับการทำงานของ สว. บางท่าน ที่มาจากการแต่งตั้ง โดยพลเอกประยุทธ กับ พลเอกประวิทย์ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ออกมาจากการรัฐประหาร และก็มีการแต่งตั้ง สว จำนวน 250 คน ไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง
ซึ่งมองว่า การกระทำที่เผด็จการ และประชาชนก็มองว่า รัฐธรรมนูญ ปี 60 เกิดจากความเผด็จการ พฤติกรรมของ สว ต่างๆ คือ การไม่ยกมือให้กับ พิธา หัวหน้า พรรคก้าวไกล พร้อม สว หลายคนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พรรคก้าวไกลและตัวพิธา พร้อมไม่ยกมือให้ตอนโหวตนายก ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ประชาชน และมติของประชาชน ทั้งที่ พรรคก้าวไกล ได้รวบร่วมเสียงข้างมากในสภา แต่ สว ที่มาจากการแต่งตั้ง กับมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ บางท่านก็เรียกว่า ขยะบาง เอาที่สบายใจ สว บางคนก็ทำตัวเหมือนเปรียบเหมือน ขยะ ก็ไม่ยกมือบ้าง งดออกเสียงบ้าง ไม่เห็นชอบในการแต่งตั้ง พิธา ให้เป็นนายก พฤติกรรมดังกล่าว เป็นการขัดขวาง ความเจริญของประเทศ พี่น้องประชาชนมองว่า เมื่อพิธาและพรรคก้าวไกล ได้เสียงข้างมากก็น่าจะได้เป็นนายก แต่กลับโดน สว จากการแต่งตั้งเหล่านี้ ขัดขวาง ความเจริญ จนพี่น้องประชาชนเรียก สว เหล่านี้ ว่า ขยะ การขับไล่หมอพรทิพย์ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงออกทางการเมือง แบบอารยะ ในต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะเกิดขึ้นในร้านอาหารประเทศไทย หรือ รีสอร์ท หรือว่าอย่างไร เพราะคนเรา เริ่มไม่เห็นด้วย เพราะทุกวันนี้ สว ก็เริ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์หมด พรรคก้าวไกล ในหลายๆเรื่องมากมาย
ตนมองว่า สว. ที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ได้มาจากประชาชน ควรหุบปากเงียบๆ ควรจะหุบปากนะครับ สว. พวกนี้ เพราะคุณไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และหน้าที่ สว. คือต้องทำตัวเป็นกลาง วันๆ ไม่ใช่มานั้ง ใส่ร้ายกล่าวหา พรรคก้าวไกลอยู่ ระวังจะโดนไล่ออกจากร้าน เหมือนกับหมอพรทิพย์นะครับ
"พิธา" ชวนสร้างสังคมอดทนอดกลั้น มีวุฒิภาวะ เพื่อยุติความขัดแย้งหลัง "หมอพรทิพย์" โดนไล่ออกจากร้านในต่างประเทศ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภาเดินทางไปต่างประเทศ และถูกเจ้าของร้านไล่ออกจากร้าน ว่า ทั้งในฐานะนักการเมืองและส่วนตัวอยากเชิญชวนทุกคนมาสร้างสังคมที่แสดงออกอย่างอดทน อดกลั้น มีวุฒิภาวะ เชิญชวนให้มาสร้างระบบพรรคการเมืองที่ตรงไปตรงมาและมีรูระบายในการกำจัดความขัดแย้ง
ส่วนตัวมองว่าตาต่อตาฟันต่อฟันไม่ได้ช่วยอะไร ตนเป็นนักการเมืองมีความเข้าใจ เวลาลงพื้นที่ต่างจังหวัด หรือไปกับครอบครัวก็เจอการแสดงออกของประชาชนที่คล้ายๆกัน แต่เข้าใจว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ แต่การอนุญาตให้แสดงออกโดยไม่คำนึงถึงระบบก็น่าเสียดาย จากที่ได้ตามข่าวมา คู่กรณีที่เกิดขึ้น เป็นคนที่ชื่นชอบแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ แต่ด้วยระบบที่ไม่ตรงไปตรงมาและระบบทำให้เกิดความขัดแย้ง เสียงประชาชนที่มาจากเลือกตั้ง และเสียงในสภาที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ตรงไปตรง และเกิดความอึดอัดที่ต้องระบายออก ตนก็เข้าใจประชาชนที่อดทนอดกลั้น และรู้สึกไม่สบายใจกับการเข้าสู่อำนาจของการเมืองไทย และระบบการเมืองไทยที่ผ่านมา ก็อยากให้ระบบมันดี ถ้าระบบมันดี เรื่องลักษณะแบบนี้ก็จะน้อยลง เพราะมีรูระบายในระบบ
นายพิธายังมองว่า ความมืดไล่ความมืดไม่ได้ แต่ต้องใช้ความสว่าง จึงอยากให้ช่วยกันสร้างสังคมที่อดทน อดกลั้น และมีวุฒิภาวะ ระบบที่เสถียร ทำให้ความอึดอัดส่วนตัวน้อยลง