"อัจฉริยะ" เดินหน้าร้องต่อเนื่อง ล่าสุดยื่น ปปป. ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ด้านช่องเม็ก รีดไถนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชายแดน อ้างส่งเงินให้ลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก"
วันที่ 3 ต.ค. 2566 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้บังคับการ ปปป. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนคดีที่เจ้าหน้าที่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ที่ก่อนหน้านี้เคยร้องเรียนให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน กรณีที่มีการเรียกรับเงินจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าด่านชายแดน โดยนายอัจฉริยะอ้างว่าส่งส่วยให้ทีมงานของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีม้า ชื่อ นายพุฒิพงษ์ พี่เกี่ยวพันกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ที่ถูกใช้เป็นบัญชีรับเงินเพื่อโอนให้กับเครือข่ายและคนใกล้ชิดของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ซึ่งพบว่าเคยมีการโอนเงินกว่า 50 ล้านบาท จึงได้นำหลักฐานมามอบไว้เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวน หากพบการกระทำผิดก็ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ขณะที่ เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.66) นายพุฒิพงษ์ที่ถูกนำข้อมูลไปเปิดบัญชีม้า ได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ. สำโรงเหนือ แล้ว ดำเนินคดีกับ พันตำรวจโทคริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ กรณีที่ถูกตำรวจ สภ. สำโรงเหนือ จับกุมขณะตั้งด่านจับกุมเด็กแว้น แต่บังคับให้เปิดบัญชีม้าเพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ด่านช่องเม็กที่โอนเงินส่งส่วยให้เครือข่ายของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์นั้น ทาง ป.ป.ช.กำลังเรื่องเสนอกลับมาให้ บก.ปปป. ดำเนินการต่อ
นอกจากนี้ ยังบอกว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดตัวละครตัวใหม่ ซึ่งเป็นอดีตนายพลตำรวจ มือขวาของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ โดยได้รับเงินเดือนๆ ละ 50,000 บาท จากบัญชีม้าเครือข่ายของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพื่อแลกกับการเข้าไปล้วงข้อมูลลับคดีต่างๆ เช่น คดีตู้ห่าว ในกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำมาให้เครือข่ายของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ นำมาเปิดเผยสู่สาธารณชนให้เป็นข่าว โดยเรื่องนี้พลตำรวจโทอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนเองเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะเป็นการนำข้อมูลลับทางราชการ ออกมาเปิดเผย ซึ่งช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค. 2566) จะมาร้องเรียนที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย