อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แจงไฟไหม้อาคารไม้ฝึกวิชาชีพ มีอายุนานกว่า 55 ปี คาดไฟฟ้าลัดวงจร ประสาน พฐ.ลงตรวจที่เกิดเหตุ
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลามภายในอาคารแดนฝึกวิชาชีพ เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อช่วงเวลา 22.40 น. ของวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดยาว สามารถควบคุมเพลิงในที่เกิดเหตุได้ภายใน 2 ชม. เพลิงจึงสงบ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผ่านทางโทรศัพท์ว่า เหตุพลิงไหม้เมื่อคืนนี้เป็นอาคารฝึกวิชาชีพแดน 4 โดยไหม้ไป 2 อาคาร และที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากเรือนนอนผู้ต้องขังประมาณ 100 เมตร ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เนื่องจากอาคารดังกล่าวสร้างขึ้นมาพร้อมกับเรือนจำกลางคลองเปรมได้ประมาณ 55 ปี โดยเป็นอาคารปูนที่ผสมกับไม้ และอาคารมีความทรุดโทรมเก่าแก่ ทั้งยังเกี่ยวกับเรื่องระบบไฟฟ้าขัดข้อง เนื่องจากตนได้รับรายงานว่าทางเรือนจำฯ เคยได้ประสานกับทางการไฟฟ้าเพื่อที่จะปรับปรุงระบบไฟฟ้ามาก่อน แต่มาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ภายในวันนี้จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง เพื่อเก็บหลักฐานทั้งหมด เนื่องจากเมื่อคืนนี้ฝนตกและค่อนข้างมีวิสัยทัศน์มืด เป็นปัญหาต่อการตรวจสอบจึงจะมีการดำเนินการในวันนี้แทน พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น และเบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตุเพลิงไหม้เมื่อคืนนี้เกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรือไฟฟ้าลัดวงจร
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจรและด้วยความที่เป็นอาคารเก่าแก่มีไม้ผสม จึงทำให้เพลิงไหม้ลุกลามไวได้ รวมถึงภายในอาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่มีการเก็บวัสดุเกี่ยวกับเครื่องไม้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำโดยผู้ต้องขัง คาดว่าอาจจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีพวกแลคเกอร์ที่สามารถเป็นเชื้อเพลิงได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการขนย้ายบางส่วนได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ทางเรือนจำฯ จะมีการประเมินความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกเพลิงไหม้ว่าสูญเสียไปกี่รายการและเป็นมูลค่ารวมเท่าไร
นายสหการณ์ กล่าวด้วยว่า ปกติแล้วแดนฝึกวิชาชีพแห่งนี้ในช่วงกลางวันจะมีผู้ต้องขังมาฝึกวิชาชีพประมาณ 200 ราย ซึ่งในช่วงเกิดเหตุ (กลางดึก) ไม่มีใครอยู่ แต่มีเพียงเจ้าหน้าที่เรือนจำที่อยู่เวรและเห็นเหตุการณ์ โดยเห็นเป็นเพลิงสีแดงลุกไหม้ แต่ไม่ได้ยินเสียงระเบิดหรือเสียงปะทุของวัสดุใดก่อนหน้าเพลิงลุกลาม และเมื่อพิจารณาว่าตัวเองไม่สามารถระงับเหตุได้ จึงได้มีการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าระงับเหตุ
ต่อมาเวลาประมาณ 09.30 น. นายสมบูรณ์ ศิลา ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้นำอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับตรวจเก็บวัตถุพยานหลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้