"ชาดา" เดือดจัด!! ซัดกลับปมดราม่าภาพยกนิ้วโป้ง หน้าพารากอน ลั่น คนเลวมาหาเรื่องคนดีตนไม่สน อย่าเอาเหตุการณ์นิดเดียว มาทำลายสังคมแบบนี้ แจงแค่ส่งสัญญาณให้สื่อรอ "ผบ.ตร" ข้างหลัง ชี้เป็นคนมีมารยาท ปรากฏตัวที่เกิดเหตุ เพราะอยู่ใกล้บริเวณนั้น ไม่ได้หิวแสง
วันที่ 4 ต.ค. 66 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงกรณีเดินทางไปจุดเกิดเหตุห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อคืนวานนี้ ว่า ช่วงนั้นตนอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงเดินทางเข้าไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่อยู่ภายในห้าง ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้เข้าไปจุดที่ ตำรวจกำลังควบคุมตัวเด็กอายุ 14 เพราะตนมีมารยาทไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจุดเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ เพียงไปอยู่หน้าประตูเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน แต่เมื่อเจอกับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้ชวนตนไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเยาวชน แต่เรื่องคดีตนไม่เปิดเผยรายละเอียดการพูดคุย เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอยู่ในสำนวนคดี แต่อยากบอกว่าน้องน่าสงสาร ส่วนเรื่องความผิดก็คือความผิด
พร้อมกันนี้นายชาดา ยังได้ชี้แจงภาพถ่ายที่ยกนิ้วโป้ง 2 ข้างขึ้นมา ขณะเดินออกจากห้างสรรพสินค้าพารากอน ว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเดินออกจากห้าง สื่อมวลชนเรียกและพยายามจะสัมภาษณ์ตน ตนจึงส่งสัญญาณ ไปยังสื่อมวลชนว่าให้ ผบ.ตร. พี่กำลังจะเดินออกมาข้างหลัง เพราะไม่ใช่หน้าที่ตน และปกติก็ใช่คนหิวแสง ที่จะมาทำอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ แต่เนื่องจากสื่ออยู่ไกลจากตนมาก จึงยกมือทำสัญลักษณ์ชี้ไปด้านหลังแบบนั้น จากนั้นตนก็เดินทางกลับมาเลย เพราะหมดหน้าที่แล้ว ซึ่งภาพที่ปรากฏออกมา เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพียงช็อตเดียว
"อย่าแปลผิด ถ้าไม่ให้ผมนิ้วโป้งมือชี้ จะให้ผมเอาอะไรชี้ อย่ามาใช้เหตุการณ์นิดเดียว มาทำลายสังคมแบบนี้ ผมบอกแล้ว หน้าไหนที่พูดเรื่องนี้ ผมไม่สน ผมมีหน้าที่ผมก็ทำ คนทำดีคุณยังมาหาเรื่อง คนเลวมาหาเรื่องคนดีผมไม่สน ผมต้องไป ถ้าผมอยู่บริเวณนั้นแล้ว ผมไม่ไป ประชาชนด่าผมไหม อย่าเอาสื่อประเภทนิสัยไม่ดีมาเล่นกับผม อย่ามาชกใต้เข็มขัด ผมทำตามหน้าที่และผมมีมารยาทพอ ผมอดีตนายกเทศมนตรี อยู่กับระบบราชการมาหลายสิบปี รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร และผมไม่ใช่คนที่เป็นแสง มันเป็นเหตุการณ์มันเป็นเหตุการณ์ที่ใครจะไปรู้ ว่าเป็นเด็ก แต่ถ้ามีเหตุอะไรผมอยู่ตรงไหนผมต้องไป เพราะผมอยู่กระทรวงมหาดไทยบำบัดทุกข์บำรุงสุขทั่วประเทศ" นายชาดา กล่าว