*เปิดภาพ รปภ.ฮีโร่เสี่ยงชีวิตช่วยคน
เหตุการณ์เมื่อวานนี้ (3ต.ค.66) ผู้ใช้ ติ๊กต็อก ได้เผยคลิปขณะที่ รปภ. ของห้างพยายามเข้าช่วยเหลือคนที่อยู่ในห้างบริเวณหน้าลิฟต์ ด้วยการปิดประตูลงมาครึ่งหนึ่ง และพยายามต้อนคนให้รีบเข้ามา มีการตะโกนว่า "เข้ามาเลยครับ ๆ" เพื่อช่วยเหลือคนให้ได้มากที่สุด

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง8 พูดคุยกับนายประสงค์ แดนกาไส รปภ.ที่ปรากฏในคลิป บอกว่า ขอบคุณที่คำชม ซึ่งมีคนเข้ามาชื่นชมมากตัวเอง ก็รู้สึกดีใจ แต่จังหวะตอนนั้น ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวมากแต่ต้อง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะตอนนั้นตัวเองพยายาม เร่งให้ปิดประตูกั้น แต่เห็นว่ามีคนเดินอยู่ ตัวเองจึงยืนเฝ้าประตูและพยายามก้มตัวต่ำ เพื่อรอให้ลูกค้าออกมาจากห้างให้หมดก่อน และจังหวะนั้นเองนายประสงค์ เห็นคนร้าย พร้อมกับที่มีเสียงดังปัง เนื่องจากคนร้ายยิงสวนเข้ามา

เข้าที่นายประสงค์ ได้มีโอกาสเผชิญหน้ากับคนร้ายรู้สึกว่า ตอนนั้นเขาเหมือนไม่ได้สติ แล้วแกว่งปืนไปทั่ว ในใจคิดจะวิ่งหนีไปเลยก็ได้เพราะกลัวตายไปคิดว่าหน้าที่ก็สำคัญต้องช่วยลูกค้าออกมาจากห้างให้ได้หมดก่อน

"ไม่คิดว่าการที่ตัวเองทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถจะได้รับความชื่นชมขณะนี้ตอนนี้รู้สึกดีใจมากมีหลายคน มาตามหาพี่ประสงค์เพื่อขอถ่ายรูปเนื่องจากเป็นฮีโร่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย" นายประสงค์ กล่าว

*เปิดให้หลบในร้าน ปิดไฟซ่อนหนีเหตุร้าย
นอกจากนี้ ยังมีคลิปนาทีเหตุการณ์ที่คนในห้างกำลังวิ่งหนี ปรากฏภาพของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เปิดร้านให้ประชาชนเข้ามาหลบด้านใน และปิดไฟ

ทีมข่าวของเราไปพูดคุย เปิดใจ พี่อุ๊ นางสาวกวินศญา จิติ ผู้จัดการร้าน เป็ดย่าง โฟซีซั่น ชั้นG สยามพารากอน ซึ่งเป็นคนที่ช่วยลูกค้าหลบภัย

พี่อุ๊ บอกว่า ตอนนั้นพอได้ยินเสียงปืน คนก็แห่กันเข้ามาหาที่หลบภัย ตัวเองจึงตัดสินใจโทรถามทางห้างว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนทราบแค่เพียงว่าเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายที่อาจจะเกิดอันตรายและมีอาวุธปืน

ซึ่งตัวพี่อุ๊เองได้บทเรียนจากการติดตามข่าวสารเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างในจังหวัดโคราช และเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู จึงตัดสินใจพาลูกค้าทุกคนที่อยู่ใกล้บริเวณจุดนั้นหลบเข้ามาภายในครัวของร้านซึ่งเป็นพื้นที่มิดชิด

และด้วยความที่ร้านเป็ดย่างโฟซีซั่น มีทางเข้าออกสองทางคือทางด้านหน้าและทางด้านหลังจึงตัดสินใจล็อกประตูทั้งหมดแล้วให้ลูกค้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ตามตู้เย็นที่เอาไว้แช่เป็ดย่าง และจำได้ว่าตอนเกิดเหตุการณ์กราดยิงก่อนหน้านี้มีคำแนะนำบอกว่าให้ปิดไฟอยู่ให้เงียบที่สุด จึงตัดสินใจปิดไฟแล้วบอกให้ทุกคนในร้านเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขณะหลบหนีก็มีเรื่องน่าตื่นเต้น เนื่องจากว่ามีคนแก่อายุมากกว่า 60 ปี เป็นอาม่านั่งรถเข็นมากับหลานติดอยู่ในร้านด้วย ในขณะที่นักท่องเที่ยว และลูกค้าคนอื่นหลบหนีออกนอกห้างไปได้หมดแล้ว พี่อุ๊ต้องนำอาม่าที่นั่งรถเข็นกับหลานออกไปส่งด้านหน้าห้างเป็นคนสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นยังจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ จังหวะที่เข็นอม่าออกไปใกล้ถึงประตูทางออก จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าอย่าพึ่งออกมาคนร้ายกำลังจะมาทางนี้พี่อุ๊ก็ต้องเข็นรถเข็นอาม่ากลับมาที่ร้านเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นอีกครั้งหนึ่ง จนกว่าตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้ถึงจะสามารถนำไปส่งได้อย่างปลอดภัย

ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่กลัวและตกใจมากแต่ก็ดีใจที่ได้มีโอกาสช่วยนักท่องเที่ยวหลายคนให้มาหลบอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุอันตรายถึงชีวิต

*ฝ่าฝนหนีออกนอกห้าง
ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่คลิปของประชาชน วิ่งหนีออกจากห้าง ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก