*นายกฯ-อุ๊งอิ๊งค์ ร่วมไว้อาลัย
วันนี้ (4ต.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีเปิด "SCBX NEXT TECH" เทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ น.ส.ชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน
โดยก่อนเริ่มงาน น.ส.ชฎาทิพ ได้แถลงการณ์กล่าวไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยผู้บริหารและพนักงานของเราได้ดำเนินการระงับเหตุทันที อย่างสุดความสามารถ รวมถึงการอพยพลูกค้าออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดและรักษาความปลอดภัยแก่บรรดาร้านค้าและพนักงานที่มีอยู่ในอาคารนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คนจนสามารถระงับเหตุได้ภายในเวลาอันสั้น
น.ส.ชฎาทิพ กล่าวว่า อย่างไรก็ดีความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น ไม่สามารถประเมินค่าได้ สยามพารากอนขอขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่บริษัทและพนักงานของเรา ท่ามกลางวิกฤติตกาลนี้ และขอน้อมรับคำแนะนำทั้งปวงเพื่อนำมาพัฒนาและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจพวกเราในฐานะคนไทยที่จะต้องช่วยกันปรับปรุงและดูแลสังคมและเยาวชนของเราให้กลับสู่วัฒนธรรมแห่งความรักความเอื้ออาทรเช่นที่เคยเป็นมา ในโอกาสนี้สยามพารากอนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกท่าน จึงขอเรียนเชิญทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ร่วมยืนและตั้งใจสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตรวมกัน
จากนั้นนายกฯ น.ส.แพทองธาร และผู้ร่วมงานยืนไว้อาลัย 1 นาที
ต่อมา นายเศรษฐา ขึ้นเวทีกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และขอส่งกำลังใจให้กับญาติพี่น้องทางผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สุดวิสัย ไม่สามารถควบคุมได้ ตนเชื่อว่าทางศูนย์การค้าสยามพารากอนและเจ้าหน้าที่รัฐ และได้พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะดูแลความปลอดภัยตรงนี้ ก็ขอให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ส่วนการป้องกันต่างๆทางรัฐบาลยืนยันเต็มที่ กับการดำเนินการในเรื่องนี้
*สถานทูตจีนโพสต์เหตุ
นอกจากนี้ มีความเคลื่อนไหวจากเพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความ ระบุว่า "สถานทูตจีนเร่งดำเนินการในเหตุกราดยิงคนจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย แสดงความเสียใจและความห่วงใย
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 เกิดเหตุกราดยิงที่ห้างสยามพารากอน มีคนจีนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย หลังสถานทูตจีนประจำประเทศไทยทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าว จึงเร่งเปิดใช้กลไกฉุกเฉิน ตรวจสอบสถานการณ์ และทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลของสถานทูตเร่งไปสถานที่เกิดเหตุทันทีเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล ขณะนี้ได้ค้นพบข้อมูลประจำตัวของผู้เสียชีวิต และได้ส่งผู้ได้รับบาดเจ็บไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในอาการคงที่แล้ว
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ได้ไปเยี่ยมคนจีนที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล นายเศรษฐา และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้ต่อสายโทรศัพท์ถึงนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจโดยในนามของรัฐบาลไทย ต่อคนจีนที่เสียชีวิตและแสดงความห่วงใยต่อคนจีนที่บาดเจ็บ โดยเน้นว่า ฝ่ายไทยจะสอบสวนและจัดการเหตุการณ์นี้ตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และเสริมสร้างการจัดการความปลอดภัยทางสาธารณะ เพื่อเสนอสภาพแวดล้อมที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยสำหรับคนจีนที่เดินทางมาประเทศไทย
*นักท่องเที่ยววางดอกไม้อาลัย
โดยในวันนี้ มีนักท่องเที่ยวนำช่อดอกไม้มาวางไว้อาลัยเพื่อนร่วมชาติจีนที่เสียชีวิต ที่หน้าประตูทางเข้าห้าง
*เซลล์สาวช่วยลูกค้าหลบเหตุร้าย
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง8 ไปที่ร้านเครื่องสำอาง คาแรง ซึ่งเป็นอีกร้าน ที่มีคลิปปรากฏนาทีหนีตาย และช่วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ให้เข้ามาหลบภายในร้านได้อย่างปลอดภัย
บุ้งกี๋ นางสาวณธิดา สกลนิมิตร พนักงานในร้านเครื่องสำอางคาแรง บอกว่า ตัวเองได้ยินเสียงปืนตั้งแต่ลงไปทำธุระที่ชั้นล่างแต่ตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะมีการมายิงปืนในห้าง พอขึ้นมาที่ร้านตัวเองก็เห็นคนวิ่งวุ่นวาย และมีการตะโกนบอกกันว่ามีการก่อเหตุยิงปืนในห้างเกิดขึ้น ตัวเองก็เริ่มใจไม่ดีเพราะเสียงปืนที่ได้ยินก็เริ่มเข้าใกล้ร้านที่ตัวเองอยู่มากขึ้น จึงพยายามวิ่งหนีตายเข้าไปหาที่หลบภัยในห้องซึ่งมีไว้สำหรับทำผมให้กับลูกค้า ตามที่ปรากฏในคิดตอนนั้นรู้สึกกลัวตกใจไม่เคยเจอเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้มาก่อนในชีวิต
จังหวะที่กำลังวิ่งไปปิดประตูร้านเพื่อป้องกันภัยมีชาวต่างชาติอุ้มเด็กอายุไม่น่าจะถึงสามขวบ และมีต่างชาติอีกครอบครัวหนึ่งที่มีเด็กเล็กสองคน จากที่กำลังจะปิดประตูเพื่อนหนีเอาชีวิตรอดก็รู้สึกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจึงเรียกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเพื่อหลบภัยในร้านตัวเองด้วย
พอเหตุการณ์เลวร้ายผ่านไปโดยส่วนตัวแล้วก็รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาส ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะถ้าปล่อยให้เขาอยู่ข้างนอกอาจจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น