ผู้การ 191 เผยเด็กชายวัย 14 ปี โทรหา 191 หลังจากก่อเหตุ ก่อนบอกว่ายิงคนบาดเจ็บ
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เด็กชายวัย 14 ปี
โดยเมื่อวานนี้ เวลา 16.10 น. เด็กชายวัย 14 ปี ได้โทรศัพท์เบอร์ 191 เข้ามา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ห้องสื่อสาร บก.จร.เป็นผู้รับสาย คำพูดแรกของเด็กชายวัย 14 เขาบอกว่า “ผมพึ่งไปก่อเหตุยิงคนได้รับบาดเจ็บมา เผมจะถูกดำเนินคดีไหม ผมต้องทำอย่างไรกับชีวิตดี“ ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงบอกให้เด็กชายวัย 14 ปี ใจเย็นๆ และวางอาวุธ
โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ 191 คุยกับเด็กชายอายุ 14 ปีนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้สอบถามชื่อ-สกุล การแต่งกายของเด็กชายคนดังกล่าว รวมถึงพิกัดว่าอยู่ที่ชั้นอะไรของห้างฯ พอได้ รับข้อมูลดังกล่าวจากเด็กชายวัย 14 ปีแล้ว 191 จึงได้โทรประสานไปยังตำรวจในพื้นที่ กระทั่งได้มาติดตามระงับเหตุ
ซึีงที่เห็นเด็กชายวัย 14 วางอาวุธปืน ยกมือ 2 ข้างขึ้นมา และคุกเข่า เพื่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ก็เป็นการเจราจาพูดคุยของ 191 ที่พูดคุยกับเขาในสาย โทรศัพท์ กระทั่งเขายอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ชุดที่จับกุมแต่โดยดี
ส่วนสาเหตุที่ เด็กชายวัย 14 ปี เขาก่อเหตุยิงคนในตอนนั้น เขาบอกว่าเขาหูแว่ว และเห็นภาพคนหลายคนสวมเสื้อสีดำ พร้อมกับถือปืนจะเข้ามายิงเขา และนอกจากนี้ผู้ก่อเหตุ ก็ยังบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาไม่ได้ทานยามาระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าคือยาอะไร
เปิดห้องควบคุมศูนย์ผ่านฟ้า 191 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาโทรศัพท์มาหาเจ้าหน้าที่ หลังก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาทีมข่าวมาดูห้องควบคุมศูนย์ผ่านฟ้า 191 ซึ่งเป็นห้องที่ใช้รับสาย 191 รวมถึงรับสายเด็กชายวัย 14 ปี ที่โทรเข้ามาหลังก่อเหตุในเมื่อวานนี้นั้น
ซึ่งห้องดังกล่าวนี้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับสายอยู่ 24 ชั่วโมง หากมีคนโทรเข้ามาแจ้งเหตุ ก็จะขึ้นบนจอด้านหน้าห้องเป็นสีเหลือง และหากเป็นสีแดง คืออยู่ระหว่างช่วยเหลือ หรือให้คำปรึกษาคนที่อยู่ในสาย สีส้มคือสายที่พึ่งวางไปหรือกำลังประมวลข้อมูล สีเขียวคือสายพร้อมใช้งาน หรือพร้อมรับสาย สีเทาคือเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าพัก
อย่างเช่นเมื่อวานนี้หากเด็กชายวัย 14 ปีโทรศัพท์เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ ก็จะขึ้นสีเหลือง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะทำการรับสาย เพื่อสอบถามข้อมูลทั้งหมดที่เกิด โดยแต่ละโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่ ก็จะมีการพิมพ์ข้อมูลเหตุการณ์ในแป้นพิมพ์ และมีการบันทึกเสียงอัตโนมัติทุกสายที่โทรเข้ามาอีกด้วย
นอกจากนี้ที่บริเวณฝั่งซ้ายของห้องควบคุมดังกล่าว ยังมีผังวงจรปิดของกล้องวงจรปิดทั้งหมดใน กรุงเทพมหานคร เพื่อดูเหตุการณ์ตามที่ผู้แจ้งโทรเข้ามา ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย