พฐ.เก็บหลักฐานเพิ่มในห้างพารากอน
พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.) กล่าวว่า การตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มีการดำเนินการอย่างละเอียดและเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืน ที่ผ่านมา มีการเก็บปลอก และหัวกระสุนปืนไว้เปรียบเทียบกัน รวมถึงตรวจหาสารพันธุ์กรรม หรือ DNA ของผู้ก่อเหตุ ตั้งแต่จุดที่ 1 ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ผู้ก่อเหตุเข้าไปใช้งาน บริเวณชั้น M
อย่างไรก็ตาม วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยังได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติม ที่บริเวณชั้น M อีกครั้ง จากที่เมื่อวาน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เพื่อนำหลักฐานทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์เป็นข้อมูลนำไปประกอบในสำนวนการสอบสวน รวมกับพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เก็บไว้ได้ก่อนหน้านี้
เปิดใจผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าระงับเหตุกราดยิง
ล่าสุดวันนี้ (4 ต.ค. 66) ทีมข่าวช่อง 8 ไปได้คลิปและภาพนิ่งหลังเกิดเหตุมาเพิ่มเติม ที่จะเห็นว่าก่อนที่จะมีการจับกุม และหลังการจับกุม มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่านที่เดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งภาพนิ่งก่อนที่ตำรวจจะปล่อยคลิปวงจรปิดขณะจับกุม ยังมีภาพ ที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. เข้าไปความคุมสถานการณ์ร่วมกับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร.และตำรวจนครบาล
จากนั้นก็จะเป็นภาพนิ่งและคลิปเพิ่มเติมที่จะเห็นว่า หลังการจับกุม ก็จะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. รวมไปถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เข้าไปพูดคุยกับเด็กที่ก่อเหตุ ซึ่งในคลิปนอกจาก ตำรวจของนครบาล ยังมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าไปช่วยกันพูดคุยกับเด็กที่ก่อเหตุ
จากนั้นเมื่อ นายกรัฐมนตรี มาถึงก็จะเป็นภาพที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าไปชี้แจงผลสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในภาพดังกล่าว ในความสำคัญของภาพ จะเห็นว่า พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มีการเปิดคลิป การทดสอบยิงปืนแบลงค์กัน ที่เคยให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ทดสอบความรุนแรงของปืนดังกล่าวในขณะที่ยังไม่ดัดแปลง
นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชย ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ จริงๆแล้วตนเองได้รับแจ้งเหตุมาเป็นการส่วนตัวจากเพื่อนที่เข้าไปใช้บริการในห้างสยามพารากอน ซึ่งในขณะที่ได้รับแจ้ง ตอนนั้นอยู่บนทางด่วน จึงได้มีการเช็คว่าเกิดเหตุจริงหรือไม่ทางโซเชียลมีเดีย ปรากฎว่าจริง ก็เลยเลี้ยวรถลงทางด่วนที่สนามเป้าและเดินทางไปยังห้างสยามพารากอน กระทั่งเมื่อไปถึง ตนเองและผบ.ตร.รวมไปถึงรอง ผบ.ตร.และตำรวจนครบาล ได้มีการขึ้นไปควบคุมสถานการณ์ในห้องคอนโทรลของห้าง เพื่อดูวงจรปิด และดูผังโครงสร้างของห้างว่าผู้ก่อเหตุอยู่ตรงไหนและดูว่าตัวประกันที่ติดอยู่ในห้าง อยู่ในที่ปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งความโชคดีในเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ไม่สูญเสียไปมากกว่านี้ก็คือ ระบบการรักษาความปลอดภัยของห้าง มีการใช้ยุทธวิธี ตามที่ตำรวจได้เคยฝึกมาให้ คือ "หนี ซ่อน สู้" เพื่อพาตัวประกันในห้างเข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัย ซึ่งหลักการดังกล่าว เป็นการถอดบทเรียนมาจากเหตุการณ์ ที่หนองบัวลำภูและที่โคราช
ส่วนประเด็นเรื่องคลิปในการจับกุม ที่ถูกปล่อยออกมาทำให้คนบางส่วน วิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำไมตำรวจถึงให้ความสำคัญกับผู้ก่อเหตุ ที่พูดว่าปลอดภัยแล้วนะ น้องใจเย็นๆ ซึ่งประเด็นนี้ในฐานะที่เป็นนายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ขอชี้แจงว่า การพูดของตำรวจ ไม่ใช่การปลอบใจผู้ก่อเหตุ แต่ด้วยความที่ผู้ก่อเหตุยังเป็นเด็ก สิ่งแรกที่ตำรวจต้องทำคือ สอบถามโดยไม่ใช่การถามแบบสอบปากคำ ซึ่งการสอบถามดังกล่าวกับเด็กในตอนนั้น เป็นจิตวิทยาเบื้องต้น โดยเป้าหมายของตำรวจ ทำเพื่อให้เด็กกับมาสู่ ภาวะปกติ หรือทำให้เด็กคิดว่าตำรวจเป็นพวก เพื่อตำรวจจะได้ข้อมูลที่แท้จริงจากเด็ก ว่าที่จริงแล้วก่อเหตุด้วยสาเหตุอะไร เด็กคนดังกล่าว เป็นจิตเวชหรือไม่ ซึ่งเด็กคนที่ก่อเหตุ ในส่วนตัวเชื่อว่า เด็กคนนี้มีความกลัวอยู่ในใจ เพราะการเลือกยิง จะเห็นว่าเด็กคนนี้เลือกยิงผู้หญิงเป็นส่วนมาก เนื่องจากเขาคิดว่าผู้หญิงอ่อนแอ กว่าผู้ชาย
ซึ่งในส่วนตัว หลังจากได้คุยกับญาติของเด็ก ได้ทราบข้อมูลมาว่า เด็กคนนี้ มีพฤติกรรมหมกมุ่นในเรื่องการเล่นเกมส์ และมีโลกส่วนตัวสูง ซึ่งความเดียวดายของเด็กคนนี้ก็น่าสงสาร และพฤติกรรมที่เขาไปก่อเหตุก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่ผู้ปกครองไม่สามารถเข้าถึงเด็กคนนี้ได้
ส่วนประเด็นเรื่องการเปิดคลิปการทดลองการยิงปืนแบงค์กันให้กับนายกฯดู เป็นการบอกถึงความรุนแรงของอาวุธปืนชนิดดังกล่าวที่เด็กนำมาใช้ในการก่อเหตุ เพื่อเป็นการผลักดันนโยบายกวาดล้างทั้งผู้ครอบครองและผู้ค้า ซึ่งปืนชนิดดังกล่าวในการทดลอง ถึงแม้จะยังไม่ดัดแปลง จะเห็นว่าหากนำไปจ่อยิงก็จะสร้างความเสียหายได้ไม่น้อย เช่นทำให้กระโหลกร้าวได้ แต่ถ้าหากดัดแปลงแล้ว อาวุธปืนแบบแบงค์กัน ก็ทำอันตรายถึงชีวิตได้ไม่ต่างจากอาวุธปืนจริง ซึ่งปืนชนิดดังกล่าว หากดัดแปลง จะสามารถใส่กระสุนจริงได้ถึง 15 นัด และปืนดังกล่าวจากการจับกุมผู้ต้องหาที่ผ่านมา พบว่ามีการซื้อขายกันในราคาหลักพัน เด็กจึงเก็บเงินหาสั่งซื้อกันทางออนไลน์ได้ไม่ยาก
โดยหลังจาก ทางตำรวจและฝ่ายปกครอง ก็ต้องไปถอดบทเรียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการผลักดันกฎหมายให้มีการจับกุมและลงโทษผู้ครอบครองและผู้ค้าเท่ากับอาวุธปืนจริง อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ต้องฝากถึงผู้ปกครองให้กลับไปดูลูกหลานของตัวเองและคนในครอบครัว เพื่อสอดส่องดูแลพฤติกรรมคนที่ชอบเก็บตัวและมีโลกส่วนตัวสูง เพื่อช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทดลองการยิงปืนแบงค์กันกับวัตถุประเภทต่างๆรุนแรงมาก
ซึ่งคลิปดังกล่าวที่ทีมข่าวได้มาจากท่านผู้ช่วย ผบ.ตร.ในวันนี้ จะเห็นว่า คลิปที่เปิดให้นายกฯดู เป็นการทดลองการยิงปืนแบงค์กันกับวัตถุประเภทต่างๆ โดยใช้ปืนและเครื่องกระสุนแบงค์กันขนาด 9 มม.ซึ่งยังไม่ถูกดัดแปลง
โดยการทดลองที่ 1. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้นำปืนแบงค์กันที่ยังไม่ดัดแปลงไปจ่อยิงกับเนื่อหมู ซึ่งจะเห็นว่า การจ่อยิงด้วยปืนแบงค์กัน มีความรุนแรงถึงขึ้นเนื้อหมูกระจายเป็นรู
ถัดไปเป็นการทดลองที่ 2. จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้นำปืนแบงค์กันที่ยังไม่ดัดแปลงไปจ่อยิงกับไก่สด ซึ่งจะเห็นว่า การจ่อยิงด้วยปืนแบงค์กัน ก็จะมีความรุนแรงถึงขึ้นเนื้อไก่กระจายเป็นรูเช่นเดียวกัน
ส่วนการทดลองที่ 3.และ 4 ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้นำปืนแบงค์กันที่ยังไม่ดัดแปลงไปจ่อยิงที่ลูกแตงโมและลูกผักกาด ซึ่งจะเห็นว่าผลลัพธ์จากความรุนแรงทำให้ทั้งสองอย่างแตกกระจายเช่นกัน
ย้อนดูผลตรวจยึดปืน blank Gun ปี 65 เจอ 2 พันกระบอก กระสุนปลอมกว่า 8 หมื่นนัด
ทีมข่าวช่องได้มาในวันนี้ ในสมัยที่ พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น ผบช.สอท. มีการกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนปืนแบงค์กัน ในกรุงเทพฯทั้งหมดคือ 1.ร้านย่านสะพานสงูเขตสะพานสูงกรุงเทพฯทาการตรวจยึดของกลาง 1.อาวธุ ปืนแบลงค์ (Blank Gun) จำนวน 1,865 กระบอก 2. เครื่องกระสุนปืนแบลงค์ จำนวน 82,450 นัด 3.อปุกรณ์ส่วนควบอาวธุปืนจานวน31 ชนิด
จุดที่ 2 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.เคหะร่มเกล้า เขต ลาดกระบังกรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลาง1.อาวธุปืนอดัลมแรงดันสูง เบอร์1และเบอร์2จำนวน 142 กระบอก 2. อาวธุ ปืนแบลงค์ (Blank Gun) จำนวน 238 กระบอก 3. เครื่องกระสุนปืนอัดลมแรงดันสูง เบอร์1และเบอร์2จานวน410 กล่อง 4.อปุกรณ์ควบอาวธุปืนจานวน97 ชิ้น
รวมของกลางทั้งสองจุด คือ 1.อาวธุปืนแบลงค์ (BlankGun) จานวน2,103กระบอก 2.อาวธุปืนอดัลมแรงดันสูงเบอร์1และเบอร์2 จานวน142กระบอก 3. เครื่องกระสถนปืนแบลงค์ จำนวน 82,450 นัด 4.กระสนุปืนอัดลมแรงดันสูงเบอร์1และเบอร์2 จำนวน 410 กล่อง 5.อปุกรณ์ส่วยควบคุมอาวธุปืน จำนน 128 ชิ้น