พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ผู้แทนพระองค์ นำกระเช้าและดอกไม้ เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ


วันนี้( 4 ต.ค.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในส่วนของอาการบาดเจ็บของผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบรรยากาศที่อาคารผู้ป่วยฉุกเฉินโรงพยาบาลตำรวจ ในช่วงเช้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศโท ภักดี แสงชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนพระองค์ นำกระเช้าและดอกไม้ เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ น.ส.อัญพัชร์ อายุ 50 ปี ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณไหล่ข้างซ้าย โดยบรรยากาศในการรับมอบกระเช้าและดอกไม้ มีทางสามีและลูกสาวของ น.ส.อัญพัชร์ ร่วมกันรับมอบสิ่งของพระราชทานจากผู้แทนพระองค์

นอกจากนี้ในเวลาเดียวกันนั้น ยังมีนายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. ก็ได้มีการเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับครอบครัวของ น.ส.อัญพัชร์ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งบรรยากาศในการพูดคุย ผู้บาดเจ็บ มีอาการปลอดภัยและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งในการพูดคุย ทางสำนักงาน คปภ. จึงได้มีการสอบถามสิทธิประกันของผู้บาดเจ็บเพื่อดูแลเรื่องเงินประกันของผู้ประสบภัยที่จะได้รับ นอกเหนือจากค่ารักษาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์


ผู้บาดเจ็บ เปิดใจกับช่อง 8 เล่านาทีวิ่งหนีไปเจอกับคนร้าย กระทั่งถูกจ่อยิง 4 นัด

น.ส.อัญพัชร์ ผู้บาดเจ็บ ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเอง ได้เดินทางไปที่ห้างสยามพารากอนกับสามีเพื่อไปรอรับลูกสาวกลับบ้าน ซึ่งในขณะที่รอจึงได้มีการไปเดินเลือกซื้อของที่บริเวณชั้น G กระทั่งในช่วงที่เกิดเหตุตนเองเห็นผู้คนวิ่งแตกตื่นรีบออกจากห้าง ก็เลยคิดในใจว่าเกิดเหตุร้ายแน่ๆจึงวิ่งตามกลุ่มคนที่วิ่งนำหน้าเข้าไปยังโกดังของห้าง

แต่ปรากฎว่าเมื่อไปถึงโกดัง มีคนในนั้นพูดขึ้นมาว่า ในโกดังไม่ปลอดภัย ก็เลยวิ่งออกมาตรงทางแยกกระทั่งไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่งตะโกนว่า "พี่ๆขึ้นไปหลบชั้นบน คนร้ายมันอยู่ข้างล่าง" ซึ่งในใจคิดว่ายังไงต้องรีบหนีขึ้นไปชั้นบนถึงจะรอด กระทั่งไปเจอบันไดเลื่อนตรงร้านขายน้ำ และร้านดังกล่าวกำลังจะปิดประตู ก็เลยพยายามจะวิ่งเข้าไปขอหลบในร้าน แต่ก็วิ่งไปไม่ทัน เนื่องจากประตูร้านปิดก่อน จึงตัดสินใจชวนสามีวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้น M แต่ปรากฎเมื่อวิ่งไปครึ่งทางบนบันไดเลื่อนบริเวณทางขึ้นชั้น M ดันมองไปเห็นคนร้ายยืนดักอยู่ตรงทางขึ้น จากนั้นคนร้ายก็จ่อปืนยิงมาที่ตนเองกับสามีจำนวน 4 นัด แต่ตนเองกับสามี ใช้สัญชาตญาณในการเอาตัวรอด ย่อตัวลงแล้วก็เอี่ยวหัวหลบ กระสุนปืนจึงมาถูกที่หัวไหล่ข้างซ้ายจำนวน 1 นัด

ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจมาก แต่ตนเองกับสามีก็ตั้งสติกระโดดลงมาจากบันไดเลื่อนลงไปที่ชั้น G ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าเจ็บจากการกระโดดลงมา แต่ไม่รู้ตัวว่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็วิ่งหนีไปทางสยามเซ็นเตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่ของห้างตะโกนเรียก กระทั่งมารู้ตัวอีกทีถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายไม่รู้เดินต่อไปทางไหน

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ถามว่าทำไมถึงต้องเอี่ยวหัวหลบ ยอมรับว่า วินาทีนั้น คิดว่าทำยังไงก็ได้ที่ไม่ให้คนร้ายยิงมาถูกบริเวณหน้าอกและถูกศรีษะ ส่วนอาการบาดเจ็บตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วแต่ทางแพทย์ยังคงให้นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไปก่อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่ายังคงหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อคืนทั้งคืนพยายามข่มตาหลับ แต่ก็หลับไม่ลง เนื่องจากภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา ถ้าหากไม่เอี่ยวหัวหลบ ก็อาจจะไม่รอดกลับมาหาลูก

เหยื่อเผชิญหน้ามือยิงถามเจ็บ ถ้าถูกเล็งหัว 4 นัดจะอภัยไหม ตื้นตันในหลวงช่วย