ชาวนายโสธร ช่วยลงแขกเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วม ท่ามกลางระดับน้ำที่ท่วมสูงถึงหน้าอกอย่างทุลักทุเล ไปตากแดดบนที่สูง
ชาวนาที่บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ต้องขอแรงกันไปร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วนเพื่อหนีน้ำท่วมทั้งๆที่เมล็ดข้าวยังไม่แก่เต็มที่ก็ตามเพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานหลายวันกว่านี้ก็หวั่นเกรงว่าผลผลิตข้าวจะได้รับความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวที่กำลังออกรวงเป็นบริเวณกว้างตามแนวลุ่มน้ำชีและนาข้าวถูกน้ำท่วมมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้วจนเมล็ดข้าวเริ่มจะเน่าเสียหาย
โดยชาวนาต้องพากันเดินลุยน้ำเข้าไปเกี่ยวข้าวที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หรือสูงถึงระดับหน้าอกเพื่อป้องกันความเสียหายของนาข้าวดีกว่าจะไม่ได้อะไรเลยก่อนจะขนย้ายข้าวที่เกี่ยวเสร็จขึ้นเรือพายที่มีอยู่นำขึ้นไปตากแดดไล่ความชื้นในบริเวณที่สูงที่น้ำท่วมไม่ถึง โดยพื้นที่นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ในพื้นที่ของบ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร คาดว่ากินพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นทั้งข้าวนาปีและข้าวนาปรัง ขณะนี้ก็ยังพบว่าระดับน้ำที่ท่วมนาข้าวยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปกติพื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวตลิ่งแม่น้ำชีและมักจะเสี่ยงถูกน้ำท่วมนาข้าวเป็นประจำทุกปี
สำหรับบ้านทรายงาม หมู่ที่ 5 ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มีจำนวนครัวเรือน 233 ครัวเรือน อาศัยอยู่จริง 209 ครัวเรือน ซึ่งในฤดูน้ำหลากจะประสบปัญหาน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าหมู่บ้านเป็นประจำทุกปี ส่วนปีนี้ปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมถนนทางเข้าออกหมู่บ้านสูงกว่า 40 เซนติเมตร เป็นช่วงๆรวมระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ขณะนี้มีพื้นที่ผู้ประสบภัยแล้วจำนวน 226 ราย ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการเกษตร อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง และมีราษฎรประสบภัยบ้านถูกน้ำท่วมขังแล้ว จำนวน 1 ครัวเรือน ในขณะที่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 11 ตำบล 57 หมู่บ้าน มีเกษตรกรที่ประสบภัย จำนวน 3,494 ราย มีพื้นที่ทางการเกษตรที่ประสบภัย จำนวน 36,793 ไร่ และมีพื้นที่ประมงเสียหาย 46.50 ไร่