สืบนครบาล จับกุมคนขายกระสุน-แม๊กกาซีนให้คนร้าย พร้อมบุกค้นบ้าน โอ ยี่เรือ ผลิต-ดัดแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน บีบีกันขายผ่านกลุ่มโซเชียล ยึดของกลางกว่า 300 ชิ้น เร่งตรวจสอบหาความเชื่อมโยงก่อเหตุสลดในพารากอน

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ตำรวจนครบาล ได้นำหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้เข้าจับกุม นายปิยะบุตร อายุ 31 ปี ได้ที่ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พร้อมของกลางอาวุธปืนแบลงค์กัน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน โดยค้นได้ขณะพกพาที่ตัวผู้ต้องหา 1 กระบอก และในกระเป๋าสะพายที่โต๊ะทำงานอีก 1 กระบอก ซึ่งนายปิยะบุตรมีความเชื่องโยงกับเคสเหตุสลดในห้างพารากอน โดยเป็นคนขายกระสุนปืน และแม็กกาซีนบรรจุกระสุน ให้กับผู้ก่อเหตุ ขณะนี้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักย่านดอนเมือง

เบื้องต้น นายปิยะบุตร ให้การว่า เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายเพราะมีเครดิตดีอยู่ในกลุ่ม เคยสั่งของมาใช้เองแล้วได้ของจริง ได้ค่าตอบแทนเป็นการเลี้ยงอาหารหรือเงินไม่เกิน 500 บาท เป็นค่าตอบแทน





ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ท้ายซอยประชาอุทิศ 65 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว หลังพบเป็นสถานที่ผลิตและดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกันและแบล็งกัน พร้อมจับกุมนายวีรยุทธ หรือ โอ ยี่เรือ อายุ 41 ปี ตรวจยึดอุปกรณ์สำหรับผลิตอาวุธปืนขนาดต่าง ๆ หลายสิบนัด แม็กกาซีนกว่า 40 อัน ถังทดสอบอาวุธปืน 1 ถัง ยาไอซ์ 6 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี และยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) รวมสิ่งของที่ตรวจยึด จำนวน 48 รายการ 322 ชิ้น ประกอบด้วย

1) แมกกาซีน จำนวน 26 อัน
2) โครงปืน จำนวน 6 อัน
3) ลำกล้องปืน จำนวน 38 อัน
4) สไลด์ปืน จำนวน 5 อัน
5) ลูกโม่ปืน จำนวน 5 โม่
6) ชุดลั่นไก จำนวน 1 อัน
7) ปะกับปืน จำนวน 7 อัน
8) กล่องปืนวินกันเปล่า จำนวน 1 กล่อง
9) ไกปืน จำนวน 1 อัน
10) ด้ามปืน จำนวน 5 ด้าม
11) สปริงชุดลั่นไก จำนวน 1 ชุด
12) ปลอกเหล็กอัดโม่ จำนวน 36 ปลอก
13) บูชปืน 1911 จำนวน 2 อัน
14) เป้ากระดาษ จำนวน 11 แผ่น
15) กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 8 นัด
16) ไกด์รอดปืน 1911 จำนวน 4 อัน
17) นกปืน 1911 จำนวน 2 อัน
18) ชุดเข็มแทงชนวน จำนวน 2 อัน
19) หลังอ่อนปืน 1911 จำนวน 2 อัน
20) ลำกล้องปืนทองเหลือง จำนวน 3 อัน



21) ก้านล็อคปืนลูกโม่ จำนวน 1 อัน
22) กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 16 นัด
23) กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 18 นัด
24) ปลอกลดแสงปืนยาว จำนวน 1 อัน
25) สปริงไกด์หลอด 1911 จำนวน 1 อัน
26) กระสุนปืนแบลงค์กัน จำนวน 44 นัด
27) โทรศัพท์ 2 เครื่อง
28) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง (รวม 6.02 กรัม)
29) เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง
30) อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 1 ชุด
31) กล่องพัสดุเตรียมส่งให้ลูกค้า จำนวน 1 กล่อง
32) ปืนลูกโม่ดัดแปลง ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก
33) แมกกาซีนสแตนเลส จำนวน 12 อัน
34) แมกกาซีนเหล็กรมดำ จำนวน 12 อัน
35) สปริงแมกกาซีน จำนวน 8 อัน
36) กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 10 นัด
37) กระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 11 นัด
38) ซองพกใน จำนวน 2 ซอง
39) อาวุธปืนดัดแปลง ขนาด .22 ยี่ห้อ WE จำนวน 1 กระบอก
40) ฐานรองแมกกาซีน จำนวน 4 อัน
41) สว่านแท่น จำนวน 1 แท่น
42)  ล้อหินเจียร์ จำนวน 1 เครื่อง
43) ตู้เชื่อมไฟฟ้า จำนวน 1 ตู้
44) เครื่องเจียร์มือ(ลูกหมู) จำนวน 1 เครื่อง
45) ปากกาจับชิ้นงาน จำนวน 1 อัน
46) โครงแมกกาซีนอยู่ระหว่างผลิต จำนวน 1 อัน
47) ถังทดสอบอาวุธปืน จำนวน 1 ถัง



พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ได้ขยายผลการจับกุมผู้ขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์มานานกว่า 2 เดือน จนพบว่าสถานที่นี้ เป็นที่ผลิตปืนแบล็งกัน และลำกล้อง รวมถึงแม็กกาซีนบรรจุกระสุน ผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์การไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะนำไปเปรียบเทียบกับกระสุนปืนที่นำไปใช้ในเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ จากนั้นจึงจะทราบด้วยว่าผู้ก่อเหตุ ขายปืนมานานเพียงใด โดยบก.น.8 จะสืบสวนขยายผลต่อว่าผู้ประกอบปืน รับอุปกรณ์ต่าง ๆ มาจากที่ใดและส่งขายที่ใดบ้าง ส่วนเรื่องคดีผู้ค้าอาวุธปืนให้กับเยาวชนผู้ก่อเหตุ ตำรวจจับกุมได้ 2 ราย จาก จ.ยะลา และล่าสุดจับกุมได้อีกรายที่ย่านดอนเมือง ทั้งหมดกำลังคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา

จากการสอบสวนนายวีระยุทธ์ ให้การว่า ตนเรียนจบระดับชั้น ปวส.สาขาช่างยนต์ สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ก่อนทำงานเป็นช่างยนต์ และหันมาเล่นปืนบีบีกัน ทั้งนี้ เนื่องจากตนมีความรู้เรื่องช่างเป็นทุน บวกกับมีเพื่อนแนะนำให้ลองซ่อมดัดแปลงปืนบีบีกันให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงได้ จึงลองทำ และทำได้ดี ก่อนหันมารับจ้างทำเป็นอาชีพหลักและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลุ่มลับพร้อมย้ายมาเช่าที่อยู่อาศัยในพื้นที่ทุ่งครุ มีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 30,000 บาท เงินที่ได้รับว่านำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่าที่พัก และซื้อยาเสพติดมาเสพ

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เมื่อปี 2558 เคยต้องคดีเกี่ยวกับการผลิตอาวุธปืนในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ ถูกศาลตัดสินจำคุกในเรือนจำบางบอน 3 ปี และปีเดียวกันยังเคยต้องโทษคดีครอบครองแอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน พื้นที่ สน.วังทองหลาง ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดีฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต" ,ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทเเอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย" ตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามชาวบ้านยังทราบว่า ผู้เช่ารายนี้เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มาเช่าอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน และมักไม่สุงสิงกับใครในละแวกนี้ ทั้งยังปิดบ้านตลอด แม้แต่อาหารก็ต้องสั่งเข้ามากิน บุคคลที่แวะเวียนเข้ามาหา ส่วนมากเป็นแมสเซนเจอร์รับส่งพัสดุ แต่งกายสวมหมวกโม่งมิดชิด และมักจะมาเคาะประตูส่งเสียงดัง