เพื่อนร่วมงานพ่อเด็ก 14 ตกใจ เพราะเห็นครอบครัวนี้อบอุ่นมาตลอด
ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ทึ่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทำงานของพ่อเด็กชายวัย 14 ผู้ต้องหา พูดคุยกับนายนนท์ (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงานของ พ่อเด็ก 14 บอกว่า วันนี้(4 ตุลาคม 2566) พ่อของเด็ก 14 ซึ่งเป็นอาจารย์สอนที่ ภาควิชาวิศวเครื่องกลไม่มาทำงาน คาดว่าน่าจะลากิจไปทำธุระเรื่องลูกชาย แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเค้าลาไปกี่วัน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตัวเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อของเด็ก 14 แต่อย่างใด
ที่ผ่านมาพ่อของเด็ก ก็เล่าให้ตัวเองฟังว่า ครอบครัวของเขาอบอุ่นมีความสุขดี และพ่อแม่ก็ดูแลเอาใจใส่ดี ส่วนตัวเคยเจอแต่ลูกของ พ่อเด็ก14 ที่เป็นลูกผู้หญิง ส่วนเด็กชายวัย 14 ปีที่ก่อเหตุนั้น ตัวเองไม่เคยเจอหน้าเขามาก่อน
ส่วนเรื่องที่เด็กชายวัย 14 ปี ที่เคยมีชื่อเข้าชิงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งนั้น ตัวเองก็ไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้
นักข่าวจึงถามว่า ที่ผ่านมาพ่อของเด็กชายวัย 14 ปี เคยเล่าเรื่องปืน หรือเรื่องที่เคยพาลูกชายไปซ้อมยิงปืนให้ตัวเองฟังหรือไม่นั้น นายนนท์ก็ตอบว่า ไม่เคย เพราะส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องที่ทำงาน และเท่าที่สัมผัสกับอาจารย์ที่เป็นพ่อของเด็ก 14 ปี ตัวของพ่อ เขาก็เป็นคนพูดจาดี อัธยาศัยดี มีแต่คนรัก เขาไม่น่าจะสอนลูกเรื่องปืน หรือเรื่องใช้ความรุนแรงแน่นอน
ย้อนบทสัมภาษณ์แม่ของเยาวชนอายุ 14 ก่อเหตุที่พารากอน
บทสัมภาษณ์เรื่อง “รักลูกให้ ‘สุด’ ทาง” เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการคุยกับพ่อแม่ที่เลือกโรงเรียนทางเลือกให้ลูก มีเนื้อหาบางตอนที่เป็นการสัมภาษณ์แม่ของเยาวชนอายุ 14 ปีที่ก่อเหตุที่พารากอนเมื่อวานนี้
ช่วงนึงของการสัมภาษณ์ แม่ของเด็ก 14 ปี เผยว่า “โรงเรียนทางเลือกส่วนใหญ่มีไม่ถึง ม.6 ส่วนใหญ่เด็กที่เรียนทางนี้ จะต้องไปต่อต่างประเทศ หรือไม่ก็เรียนอินเตอร์ แต่สำหรับตัวเอง อยากให้ลูกเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐมากกว่า สุดท้ายเลยต้องกลับมาสายวิชาการ”
การเลือกโรงเรียนอนุบาลที่เป็นสายวิชาการจึงเป็นสเต็ปแรก ด้วยค่าเทอมราวๆ ปีละแสน เมื่อบวกกับการเรียนพิเศษควบคู่กันไปทั้งวิชาการและกิจกรรมอื่นๆ เพื่อผ่อนคลาย จากปีแรกที่ยังติวแค่เบาๆ ก็เริ่มมากขึ้นเมื่อเข้าอนุบาล 2 เทอม 2 เสริมด้วยแบบฝึกหัดที่สองแม่ลูกช่วยกันติวเองที่บ้าน พอเข้าปิดเทอมก็หนุนด้วยคอร์สเรียนพิเศษจันทร์ถึงศุกร์ วันละ 4 - 5 ชั่วโมง และสุดท้ายก็ไม่เสียแรงที่ทุ่มไป เพราะลูกชายสอบเข้าโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถมได้ในที่สุด
ลูกยิงในโรงเรียนสหรัฐดับ 4 พ่อแม่ต้องรับโทษ
เทียบคดีของต่างประเทศจากเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ว่าสำนักงานอัยการเขตโอกแลนด์ ในรัฐมิชิแกน ทางตอนเหนือของสหรัฐ เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ ตั้งข้อกล่าวหา “ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยประมาท” กับนายเจมส์ ครัมบลีย์ และนางเจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์ บิดาและมารดาของนายอีธาน ครัมบลีย์ วัย 15 ปี ซึ่งก่อเหตุกราดยิง ภายในโรงเรียนมัธยมออกซฟอร์ด เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บ 7 คน