ความคืบหน้าเหตุสลด ในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 นำมาสู่การขยายผลการจับกุม นายสุวรรณหงษ์ อายุ 45 ปี และนายอัครวิชญ์ อายุ 22 ปี พ่อและลูก ที่ขายอาวุธปืนให้ผู้ก่อเหตุ รวมถึงนายปิยะบุตร อายุ 31 ปี ผู้ขายและส่งกระสุนปืนให้ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา
คุมเค้นสอบ3ผู้ต้องหา
จากการสอบสวน พบข้อมูลว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา นายสุวรรณหงษ์ และนายอัครวิชญ์ 2พ่อลูก มีการซื้อขายปืนดัดแปลงเฉลี่ยวันละ 100 กระบอก หรือ ประมาณ 12,000 กระบอกต่อปี
โดยในการสอบสวนายสุวรรณหงษ์ และนายอัครวิชญ์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ปิยะบุตรรับขายกระสุนปืน
ขณะที่การสอบปากคำนายปิยะบุตร ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขายกระสุนปืน ทั้งนี้ ประมาณ 10.00 น. มีญาติของนายปิยะบุตร เดินทางมาขอเข้าเยี่ยมนายปิยะบุตร โดยมีการนำข้าวน้ำมาให้ แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชน เบื้องต้นทราบว่า จะขอหารือตำรวจในการขอยื่นประกันตัว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้เชื่อมโยงกับการก่อเหตุอีก 2-3 คน
พบถุงดำกล่องพัสดุ
ทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ไปที่บ้านของนายสุวรรณหงษ์ และนายอัครวิชญ์ อ.เมือง จ.ยะลา โดยบ้านพักปิดเงียบและไม่มีใครอยู่ในบ้านพัก โดยบริเวณหน้าบ้านพักยังพบอะไหล่ซ่อมรถวางอยู่ในกล่อง ซึ่งมีถุงดำประมาณ2-3 ถุง วางอยู่หน้าบ้านพัก เมื่อทีมข่าวเข้าไปสังเกตการณ์ก็พบกล่องพัสดุเปล่าประมาณ 3-4 กล่องที่ถูกนำมาทิ้ง
โดยชื่อกล่องพัสดุเปล่า 3 กล่อง ดดยมีการระบุชื่อผู้รับผู้ส่งอยู่หน้ากล่อง โดยพบว่าผู้ส่ง มาจาก จ.อุทัยธานี , กรุงเทพ และนครราชสีมา
ส่วนชื่อผู้รับ คือ อุศนา ซึ่งเป็นภรรยาของนายสุวรรณหงษ์
อุษณาโพสต์ขอให้เป็นฝันร้าย
ในขณะที่บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของนางอุษณา มีการระบุข้อความหลังจากที่สามีและลูกถูกจับกุมว่า วันที่ฉันฝันร้ายที่สุดในชีวิต ขอให้เป็นแค่ความฝันได้ไหม โดยโพสต์ในคืนวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ลุยค้นหลักฐานเพิ่มรอบ2
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพวงจรปิด ตำรวจชุดสืบสวนของภูธรจังหวัดยะลา และสภ.เมืองยะลา สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของสองพ่อลูกผู้ต้องหาเป็นครั้งที่ 2 ช่วง 12.21 น. จากภาพวงจรปิดจะเห็นขบวนรถของตำรวจสี่คันเลี้ยวเข้ามาใกล้ซอยบ้านพักของผู้ต้องหา
พบกล่องพัสดุ คาดลูกใช้ชื่อแม่เป็นคนรับ
จากการสอบถาม จ่าโร 1 ใน อส.ในพื้นที่ เปิดเผยการตรวจค้นวานนี้เข้าค้นสองครั้ง ครั้งแรกเป็นการค้นพร้อมนำหมายจับกุมไปแสดงช่วงเวลา 01:00 น. ครั้งที่สองเป็นการตรวจค้นของกลางเพิ่มเติมในช่วงเวลาประมาณ 12.21 น.
ครั้งที่สองที่เข้าตรวจค้นพบในบ้านพักมีสมาชิกอยู่สองคนคือนางอุษณา และลูกชายคนเล็ก ซึ่งทางนางอุษณาเป็นแม่ของนายอัครวิชญ์และเป็นภรรยาของนายสุวรรณหงษ์ โดยนายอัครวิชญ์ เป็นลูกติดของนางอุษณา ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของนายสุวรรณหงษ์ จังหวะที่เข้าตรวจค้นรอบที่สองพบว่านางอุษณาเตรียมถุงดำหลายถุงวางไว้บริเวณหน้าบ้านพักคล้ายเตรียมนำไปทิ้ง
ทางตำรวจจึงขอตรวจค้นและพบว่าในถุงดำมีกล่องพัสดุเปล่าที่มีชื่อผู้รับเป็นของนางอุษณา อะไหล่ดัดแปลงปืนแบงก์กัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตปืนแบงค์กัน และหมอนยิงซ้อมปืน จำนวนหลายใบ เมื่อทำการตรวจค้นภายในบ้านพักก็พบถุงดำอีก รวมทั้งหมดที่พบถุงดำที่ใส่หลักฐานเตรียมทิ้ง 10 ถุง
และจากการสอบถามเบื้องต้น ก็พบว่านายอัครวิชญ์เป็นเจ้าของอุปกรณ์ผลิตและอะไหล่ดัดแปลงปืนทั้งหมดในบ้านพัก โดยเอาชื่อแม่เป็นผู้รับกล่องพัสดุ และเอาบัญชีธนาคารของข้อเป็นผู้รับเงินโอนของลูกค้า ส่วนตัวก็เชื่ออยู่บ้านเดียวกันก็น่าจะรู้เห็นจะปฏิเสธก็เป็นไปได้ยาก
เปิดภาพใหม่ยุทธวิธีระงับเหตุ
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง 8 ได้รับคลิปจากกล้องหมวกตำรวจ ความยาว 1.25 นาที ซึ่งเป็นนาทีเขาควบคุมสถานการณ์ ก่อนมีการเข้าคุมตัวเยาวชน14 ปี
โดยคลิปดังกล่าวจะเห็นปฏิบัติการของชุดจับกัม 4 นาย พร้อมกับมีช่วงที่มีการเจราจา ทำนองว่า “ให้น้องลง หันหลัง ถอดเสื้อ ยกมือขึ้น วางอาวุธ และชูมือขึ้นสูงๆ”