ผบ.ทบ. ลงพื้นที่นราธิวาส พอใจผลการปฏิบัติงานสร้างความศรัทธาให้ประชาชน เตือนอย่าตั้งอยู่ในความประมาท สั่งคุมเข้มแนวชายแดนไทย-มาเลย์ หลังได้รับรายงานผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบข้ามแดนมากกว่าปีที่ผ่านมา
วันที่ 7 ตุลาคม 2566 มีรายงานว่า ที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบ
โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมผู้บังคับบัญชาชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานหมายเลข 2 ตัว 5 หน่วย ที่รับผิดชอบในพื้นที่ 13 อำเภอ รวมไปถึงตัวแทนหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน และตัวแทนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 50 นาย คอยให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ทั้งนี้ ในที่ประชุม พล.อ.เจริญชัย ผบ.ทบ. ได้รับฟังการบรรยายสรุปจาก พ.อ.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พอสรุปใจความว่า เหตุการณ์ความไม่สงบโดยภาพรวมลดลงกว่าในปีที่ผ่านมา ซึ่ง อ.จะแนะ มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นมากที่สุด และทางผู้บังคับบัญชาได้ใช้นโยบาย 5 ประการของแม่ทัพภาคที่ 4 ในการคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น จนปัจจุบันประชาชนเริ่มมีความศรัทธาการทานของเจ้าหน้าที่กองกำลัง และหันมาให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาทุกกรณี
ในส่วนเชิงลึกได้มีการจัดส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา ในการออกแผนกดดันกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขา จนปัจจุบันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ และได้มีการเชิญตัวมาสอบสวนปากคำและซักถามจนนำไปสู่การออกหมายจับ ซึ่งเป็นผลพวงที่ทำให้เหตุการณ์ร้ายในพื้นที่ จ.นราธิวาส ลดลงและคลี่คลายไปสู่ทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พล.อ.เจริญชัย ได้รับฟังบรรยายจาก พ.อ.ธานี เกียรติสาร รอง ผบ.ชุดควบคุมสุริโยทัย ที่รับผิดชอบแนวชายแดนทั้ง 3 อำเภอ คือ แว้ง ตากใบ และสุไหงโก-ลก จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการ ซึ่งมีช่องทางข้ามธรรมชาติ 197 ช่องทาง มีการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกองพันทหารราบจู่โจมที่ 2 และ 3 ของประเทศมาเลเซีย ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารและวางมาตรการร่วมในการแก้ไขปัญหา การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว การลักลอบการค้าสินค้าหนีภาษี และการลักลอบการค้ายาเสพติด รวมไปถึงการลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งผลการปฏิบัติที่ผ่านมามีผลการจับกุมการลักลอบข้ามแดนของแรงงานต่างด้าว มีจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศมาเลเซียมีการกวดขันจับกุม ส่งผลทำให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้จะแอบหลบหนีการจับกุมด้วยการลักลอบข้ามแดนมายังประเทศไทยด้าน จ.นราธิวาส
โดย พล.อ.เจริญชัย ได้กล่าวสรุปในที่ประชุม ว่า ตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานในทุกสังกัด ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบด้วยความเข้มแข็ง ทำให้ในภาพรวมสถานการณ์ความรุนแรงเริ่มลดลงกว่าในปีที่ผ่านมา พร้อมเน้นย้ำเรื่องการข่าวที่ปัจจุบัน กลุ่มผู้ก่อเหตรุนแรงยังคงพยายามก่อเหตุทุกรูปแบบ เพื่อลดความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐและรุกทางการเมือง หวังให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าแทรกแซงและสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อสังคมตลอดเวลา อีกทั้งยังตอบโต้การปฏิบัติการทางทหารเชิงรุก มุ่งก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหลักเพื่อแสดงศักยภาพ ซึ่งถือว่าการข่าวต้องดีและดีได้จากเบาะแสของประชาชน จุดนี้คือจุดสำคัญที่ต้องเจาะลึกและคำนึงถึงรักษาแหล่งข่าวให้มีความปลอดภัย
ต่อมา พล.อ.เจริญชัย ผบ.ทบ. ได้ร่วมพิธีมอบโอวาทและเยี่ยมปลอบขวัญกำลังพล ที่บริเวณสนามหน้าหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมได้กล่าวกับกำลังพลพอสรุปใจความว่า มาเยี่ยมเยียนพวกเราผมไม่ได้มาตรวจ แต่มาเห็นพวกเรามีสายตาที่มุ่งมั่น ณ ที่นี้แล้วสบายใจแล้ว วันนี้ได้พบปะพูดคุยในห้องประชุมได้รับฟังบรรยายสรุป ได้เห็นสิ่งที่พวกเราทำแล้วผมจะนำความเหล่านี้ไปแจ้งให้คนที่อยู่ในส่วนกลาง ได้รับทราบว่าพวกท่านมุ่งมั่นตั้งใจอย่างไร รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของรัฐบาล ขอให้พวกเรานั้นได้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง สิ่งที่บอกคือการปฏิบัติงานในพื้นที่นั้นพวกท่านอาจจะอยู่กันมานาน อาจจะปฏิบัติแบบคุ้นเคยเพราะฉะนั้นเหตุการณ์ต่าง ๆ จะลดลงได้ด้วยความไม่ประมาท
จากนั้น ผบ.ทบ. ได้เดินเยี่ยมทักทายกำลังพลแบบเป็นกันเอง พร้อมสอบถามความเป็นอยู่รวมไปถึงสถานะทางครอบครัว ที่ต้องเสียสละทิ้งครอบครัวมาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาประเทศชาติ ซึ่งทุกนายต่างให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เปรียบเสมือนบ้านเกิดที่ต้องปกป้องเพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างผ่าสุขจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และก่อนเดินทางกลับ ผบ.ทบ. ได้มีการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นกำลังใจแก่กำลังพลในครั้งนี้ด้วย