วันนี้ที่วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สถานที่บำเพ็ญกุศลศพน.ส.โมมิน หรือ ตะวัน พนักงานสาวชาวเมียนมา เหยื่อกระสุนปืนเด็กอายุ 14 ที่ถูกยิงเสียชีวิตในห้างสรรพสินค้าพารากอน
โดยวันนี้มีแม่ ญาติพี่น้อง นายจ้าง เพื่อนร่วมงาน และกลุ่มร่วมชาติพันธุ์ชนเผ่าปาโอ กว่า 200 คน มาร่วมไว้อาลัยกันแน่นศาลา โดยทุกคนต่างเดินทางมาส่ง น.ส.ตะวัน เป็นครั้งสุดท้าย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
จนช่วง 11.45 น.เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนโรงบรรจุร่าง น.ส.ตะวัน ที่คลุมด้วยธงชาติเมียนมา โดย นางคิน วิน แม่ของผู้เสียชีวิต ได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย ได้ร่ำไห้และเป็นลม โดยเอามือซ้ายจับที่หัวใจอยู่ตลอดเวลา ทางญาติได้ประคองตัวให้นั่งพักดมยาดม และพัดให้
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำศพ น.ส.ตะวัน วนรอบเมรุ 3 รอบ เสร็จแล้วนำโลงขึ้นไปบนเมรุ นิมนต์พระสงฆ์ประกอบพิธีฌาปนกิจทางศาสนา ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ และเปิดฝาโลงศพ ก่อนญาติเพื่อนพี่น้องต่างร่ำไห้
โดยระหว่างที่เปิดโลง แม่ของ น.ส.ตะวัน ทำใจไม่ได้ จึงนำรูปถ่ายลูกสาว ขึ้นรถตู้ของสถานทูตเมียนมา ออกไปจากงานทันที โดยยังร้องไห้ และอยู่ในอาการโศกเศร้า
ต่อมา ลูกสาวของนายจ้าง น.ส.ตะวัน ได้อ่านประวัติ และกล่าวคำอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนให้ทุกคนยืนสงบนิ่ง 1 นาที ให้น.ส.ตะวัน
ด้าน น.ส.อักษร นายจ้าง ของ น.ส.ตะวัน เปิดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับทางห้าง เพื่อขอเข้าไปที่ร้านทำบุญส่งดวงวิญญาณของ น.ส.ตะวัน ก่อนเปิดร้าน
ส่วนเรื่องคดี เราค่อนข้างกังวล แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินไปตามรูปคดี เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็ยังไม่ได้พูดคุยกันมากนัก เนื่องจากตอนนี้ต้องดูแลเรื่องสภาพจิตใจของ น.ส.ตะวัน ก่อน
ซึ่ง จริง ๆ ตอนนี้แม่ของ น.ส.ตะวัน ก็มีสภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงเศร้าอยู่ ซึ่งเธอเองจะยังคงส่งเงินเดือน 1 หมื่นบาทให้กับแม่ของ น.ส.ตะวัน ทุกเดือน เหมือนที่ตะวันเคยให้แม่ทุกเดือน แบบไม่มีกำหนด เท่าที่คุณแม่ต้องการความช่วยเหลือ ส่วนเรื่องกระดูกของ น.ส.ตะวัน แม่มีความประสงค์ให้เก็บไว้ที่ประเทศไทย
โดยขณะนี้ทุกคนยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนมาช่วยเหลือ และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ น.ส.ตะวัน โดยต้องขอบคุณแทนพี่ตะวันด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้หาใครมาแทนพี่ตะวัน อาจจะต้องจัดการกันเองก่อน เพราะพี่ตะวันทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านอยู่ที่สาขาสยามเซ็นเตอร์
พี่น้อย เพื่อนร่วมเผ่าปาโอ บอกว่า เธอเดินทางมาจากที่พักย่านนวมินทร์ เพื่อมาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องตะวัน เธอเองก็เสียใจมาก ไม่มีใครอยากให้เรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ แม้กระทั่งน้องผู้ก่อเหตุ พ่อแม่ก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบนี้ ลูกใครใครก็รัก ใครก็หวง เรารู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ แต่ก็ขอให้ให้อภัยกัน
ส่วนตัวเธอเองยังมีความเชื่อมั่นในการทำงานที่เมืองไทย เธอเองรักเมืองไทยมาก ๆ เพราะที่นี่อบอุ่นมาก ๆ ไม่กลัวที่จะต้องทำงานที่เมืองไทย เพราะเธอเองมาแบบถูกต้องตามกฎหมาย