ก่อนหน้านี้ มีภาพ 4 แรงงานไทย ถูกจับเป็นตัวประกัน ล่าสุด มีพ่อของเพื่อนกลุ่มนี้ ออกมาตามหาลูกชาย หลังพบคลิปสุดท้ายว่า เป็นกลุ่มเดียวกับเพื่อนที่ถูกจับ แต่หลังจากนั้น ไม่ปรากฏภาพลูกชายอีกเลย จึงไม่รู้ชะตากรรม ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ตอนนี้ทำได้แค่ ไปดูหมอดู และพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คลิปสุดท้าย ที่ถูกบันทึกไว้ ก่อนแรงงานไทย และชาวต่างชาติ 5 คน จะโดนจับเป็นตัวประกัน หนึ่งในนั้นคือ นายเกียรติศักดิ์ หรือ ท็อป ชาวอำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งในคลิปจะเห็นภาพ ขณะกลุ่มแรงงาน 6-7 คน กำลังเดินเข้าไปหาที่หลบสักแห่ง คนที่ใส่เสื้อคลุม กางเกงขายาวสีดำ คือ นายท็อป ตอนนี้ยังสูญหาย ส่วนเสื้อขาวด้านขวา คือ นายคมกริช และคนท้ายคือ นายมณี ที่มาภาพปรากฏก่อนหน้านี้ ว่าถูกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ จับเป็นตัวประกัน และยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ไม่มีภาพของ นายท็อป รวมอยู่ด้วย

ทีมข่าว ลงพื้นที่ บ้านนายท็อป ที่ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี พบว่ามีเพื่อนบ้าน มาสอบถาม ข่าวคราวของนายท็อปตลอดทั้งวัน สอบถาม นางศร ภูเฮียงแก้ว น้าสาวของท็อป บอกว่า หลังรู้ข่าวหลานหายไป ก็ทำอะไรไม่ถูก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ส่วนพ่อหลาน ก็ไม่ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่วิ่งบนบานศาลกล่าว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ ไปดูหมอดูทั่วจังหวัด ทั้งคำชะโนด วัดพระแท่น วัดคำสีดา หวังให้ลูกปลอดภัย

 

 

ส่วน นายอนันต์ มูลทองสุข อายุ 39 ปี พี่ชายนายท็อป ได้วิดีโอคอล คุยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่เมืองตานาเนีย ทางภาคใต้ของอิสราเอล ตอนนี้สถานการณ์ยังหนักอยู่ ได้ยินเสียงระเบิด เป็นระยะ ๆ ตนทำได้แค่รอน่านฟ้าเปิด และ จะรีบกลับไทยแน่นอน ส่วนน้องชายที่สูญหาย เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับที่โดนจับ และมีภาพออกทาโซเซียล ตอนนี้ เป็นห่วงน้องชายมาก ไม่รู้ชะตากรรม ซึ่งน้องนั้นตั้งใจจะเดินทางกลับไทยในเร็ว ๆ นี้แล้ว ตอนนี้ทำได้แต่ขอให้น้องปลอดภัย

 

 

ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายคำสี พาที และ นางเครือวรรณ เม้าราศรี พ่อและแม่ของนายท็อป บอกว่า ลูกตน ไปทำงานอยู่ที่อิสราเอลระยะหนึ่งแล้ว ทำงานเป็นคนเลี้ยงไก่ รายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ทุกเดือนจะส่งมาให้พ่อกับแม่ใช้ 20,000 ถึง 30,000 บาท ไม่เคยขาด ถือเป็นเสาหลัก เลี้ยงดูครอบครัว ตอนนี้เป็นห่วงมาก ตนยังมีความหวังว่า ลูกชายอาจจะหลบหนีไปได้ ไม่ถูกจับเป็นตัวประกัน พร้อมบอกด้วยว่า ตอนนี้ได้แต่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย และที่ไปดูหมอดูมา ก็บอกว่า ลูกยังมีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ระหว่างหลบซ่อนตัว หมอดูยังทำนายด้วยว่า อีก 8 วัน จะได้เห็นหน้าลูก ตนก็ขอให้เป็นเรื่องจริง

ขณะที่ อดีตคนงานไทย 3 คน ที่เคยไปทำงานในอิสราเอล และเป็นเครือญาตินายท็อป ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ถือว่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง สมัยพวกตนเองไปทำงาน เป็นคนงานเกษตรกรเมื่อ 5-6 ปีก่อน ก็มีการยิงตอบโต้กันเกือบทุกวัน แต่ไม่รุนแรงขนาดนี้ ไม่มีการยิงจรวด หรือ ขีปนาวุธใส่กัน ไม่เคยมีครั้งไหนที่กลุ่มฮามาส บุกไปตามแคมป์คนงาน และ จับคนงานเป็นตัวประกัน หรือ ยิงทิ้ง ตอนนี้ก็อยากให้รัฐบาล ช่วยพี่น้องคนไทยกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย พร้อมบอกสาเหตุ การไปทำงานที่อิสราเอล เพราะรายได้ดี ลงทุนทำเรื่องไปประมาณ 150,000 บาท ทำประมาณ 5 ปี แต่ได้เงินกลับมาบ้าน 2-3 ล้าน แม้เสี่ยง แต่ก็คุ้มค่า เพราะได้เงินกลับมาปลดหนี้