"พิพัฒน์" แจงล่าสุดแรงงานไทยลงทะเบียนขอกลับเพิ่มเป็น 2,990 คน เตรียมหารือนายกฯขอเช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์รับกลับไทย พร้อมสั่งตรวจสอบด่วน หลังมีกระแสแรงงานบางส่วนถูกขายต่ออีกทอด-ช่วยเหลือล่าช้า
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า วันที่ 11 ต.ค.นี้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 15 คน จะเดินทางออกจากอิสราเอล มาถึงไทย 12 ต.ค.นี้ แบ่งเป็นสองเที่ยวบิน ได้แก่เที่ยวบินแรกในเวลา 10.35 น. จำนวน 10 คน และเที่ยวบินที่สองในเวลา 12.35 น. อีก 5 คน
และล่าสุดมีจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย เพิ่มเป็น 2,990 คน ซึ่งคงต้องรอทางรัฐบาลอิสราเอลตอบกลับ ว่า จะพร้อมรับเครื่องบินของทหารอากาศประเทศไทย เพื่อเดินทางเข้าไปรับแรงงานไทยได้เมื่อไหร่ แต่หากมีภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ จะต้องมีการหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเช่าเหมาลำเครื่องบินจากอิสราเอล หรือเครื่องบินพาณิชย์สายอื่นๆ เพื่อความรวดเร็วในการพาแรงงานไทยกลับสู่ประเทศไทย แต่ถ้าเหตุการณ์บรรเทาลง เราคงจะต้องสอบถามแรงงานไทยอีกครั้งว่า มีความต้องการกลับสู่ประเทศไทยอยู่หรือไม่ หากยืนยันว่าอยากกลับประเทศไทยตามเดิม กระทรวงแรงงานก็จะประสานเรื่องนี้ให้อีกครั้ง
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 66 อิสราเอลได้เคลื่อนย้ายแรงงานบางส่วนไปยังศูนย์อพยพที่ปลอดภัย ซึ่งเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่ศูนย์อพยพ ซึ่งคงต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน และได้มีการตั้งวอร์รูมเพื่อประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าในแต่ละชั่วโมงมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
เมื่อถามถึงกรณีที่มีแรงงานร้องเรียนมายังเพจต่างๆ ว่า ได้รับการช่วยเหลือล่าช้าและยังถูกนำไปขายต่ออีกทอดนึง นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ ได้แจ้งไปยังเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลแล้ว ว่า ให้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการด่วน พร้อมประสานกับสถานทูตไทยในอิสราเอล ในช่วงที่เราเกิดความยากลำบาก เราคงต้องเร่งขอความร่วมมือไปยังอิสราเอล
เมื่อถามว่า มีแรงงานบางส่วนแจ้งมาตามช่องทางที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราเพิ่งได้รับข้อมูล โดยได้มีการสั่งการไปเมื่อช่วงเช้าของวันนี้แล้ว ขอเวลาดำเนินการถึงช่วงเที่ยงวันนี้ แล้วจะมีการแจ้งอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านได้เตือน และเสนอแนะว่า ควรมีการรองรับเรื่องงานให้แก่กลุ่มแรงงานดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีความกังวล จนไม่ประสงค์จะกลับประเทศไทย นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนได้แจ้งไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า กระทรวงแรงงานเราพร้อมที่จะรับเพื่อนๆ กลับจากอิสราเอล แต่ก็ยังมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่กังวลว่า กลับมาแล้วจะไม่ได้กลับไปทำงานอีก โดยกระทรวงแรงงานได้ประชุม หารือ ว่าจะมีการประสานกับบริษัทนายจ้างว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ เราขอแรงงานกลับไทยก่อน ส่วนการกลับไปอิสราเอลอีกครั้ง เราจะขอความกรุณาว่า เมื่อเหตุการณ์สงบจะขอเดินทางกลับไปที่เดิม ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับไทย กระทรวงแรงงานเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายกลับอิสราเอลเมื่อเหตุการณ์สงบ จะต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า เราจะหางบจากที่ไหน
"สุดท้ายคงจะต้องของบจากนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนๆ ที่เสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว มีการเสียโอกาส เพราะฉะนั้น เราจะมอบโอกาสนี้คืนให้กับผู้ใช้แรงงานทุกคน ก็ต้องขอบคุณฝ่ายค้านที่มีการเสนอแนะมา ซึ่งการที่พวกท่านเสนอแนะมา เราก็ได้มีการทำและประชุมล่วงหน้าไปแล้ว"
นายพิพัฒน์ กล่าวย้ำว่า เราพร้อมที่จะรับกลับ และพร้อมที่จะส่งกลับไปทำงานในสถานที่เดิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็จะมีนายจ้างที่รับคนงานอื่นไปแล้ว แต่เราก็จะหาที่ใหม่ให้อีกครั้งหนึ่ง และพยายามส่งกลับไปอีกครั้ง แต่ในส่วนค่าใช้จ่ายอย่างไรก็ต้องมี โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้รับผิดชอบในเบื้องต้นไปก่อน
นายพิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า งบอพยพทางรัฐบาลจัดการให้อยู่แล้ว แต่การส่งกลับเป็นปัญหาที่กระทรวงแรงงานจะต้องดูแลงบประมาณ ยอมรับงบประมาณไม่มี ยังอยู่ในระหว่างการหารือ