จากกรณี นางสุวรรณ อายุ 54 ปี ถูกนายชลนที อ่วมทอง หรือ จีน ซึ่งเป็นลูกเขย และนางสาวธาราทิพย์ เรืองอนันท์สกุล หรือ เบียร์ ลูกสาว ก่อเหตุร่วมกันฆ่านางสุวรรณ และนำศพไปซ่อนอำพรางไว้ในโอ่งน้ำข้างบ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป ซึ่งจนขณะนี้ตำรวจยังตามจับไม่ได้

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ 4 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 20.00 ที่ ต.ยาง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งล่าสุดตำรวจสามารถตามจับกุมทั้งสองผัวเมียได้แล้ว ที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ทราบเรื่องจากร้อยเวรเจ้าของคดีว่า ตำรวจสามารถติดตามจับกุมสองผัวเมียที่ก่อเหตุฆ่ายัดโอ่งได้แล้ว โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

 

โดยเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม และสถานีตำรวจภูธรบรบือ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่าทั้ง 2 ราย ได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda wave110i สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีมาจากบ้านเกิดเหตุที่จังหวัดมหาสารคาม

 

โดยหลบหนีมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องไปยังจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของ นายชลนที หรือ จีน และนำลูกวัย 3 เดือน ของตนเองมาฝากไว้กับ นางสาวราตรี น้าสาว ก่อนจะหลบหนีต่อไปยังจังหวัดเพชรบุรี จึงได้วางแผนและเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ใกล้บ้านน้าสาว

 

กระทั่งเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น. ได้พบผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อยู่บริเวณภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขากำแพงแสน ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

 

​จากการซักถามปากคำผู้ต้องหาขณะจับกุมให้การว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุเกิดจากการทะเลาะกันระหว่าง นายชลนทีฯ ลูกเขย และ นางสุวรรณ ผู้ตาย เหตุ เพราะ นายชลนที ไม่ยอมทำงาน และขอเงิน

 

นางสุวรรณ อยู่เป็นประจำ จึงถูกนางสุวรรณฯ ตำหนิ จนเกิดบันดาลโทสะ วางแผนร่วมกันกับ นางสาวธาราทิพย์ฯ ก่อเหตุในครั้งนี้

 

ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวสองผัวเมียมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุท่ามกลางชาวบ้านนับร้อยที่เดินทางมาดูการทำแผนฯ และ รุมสาปแช่งสองผัวเมียที่ฆ่าแม่ตัวเองได้อย่างโหดเหี้ยม

 

ระหว่างทำแผนนายชลนที หรือ จีน ลูกเขยของผู้ตายที่ลงมือใช้มีดแทงแม่ยายของตัวเองถึง 13 แผลอ้างว่า

ตัวเองได้ลงมือฆ่านางวรรณแม่ยายเนื่องจากบันดาลโทสะ ที่ถูกผู้ตายดุด่าเรื่องที่ตนเองชอบขอเงิน และไม่ทำงานทำการ โดยใช้อาวุธมีดแทงกระหน่ำแทง ก่อนจะลากศพนางวรรณจากในบ้านมาทิ้งไว้ในโอ่งข้างบ้าน โดยลงมือฆ่าตั้งแต่ 6 โมงเช้าของวันที่ 4 ตุลาคม จากนั้นได้ทรัพย์สินสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ของผู้ตายออกไปขายในช่วง 8 โมงเช้า ตามที่ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด ได้เงินมาจำนวน 17,000 บาท โดยนายจีนอ้างว่า นางสาวเบียร์ภรรยาไม่ได้รู้เห็นด้วย ทั้งตอนที่ตนเองฆ่านางวรรณ และตอนที่ตนเองพานางสาวเบียร์ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปขายทอง โดยตนเองเพิ่งมาบอกความจริงกับนางสาวเบียร์หลังจากขายทอง ได้เงินกลับมาบ้านแล้ว

 

ส่วนอาวุธมีดที่ใช้แทงนางวรรณ หลังจากก่อเหตุได้นำอาวุธมีดไปล้างบริเวณห้องครัวและวางไว้ที่เดิม เพื่อทำลายหลักฐาน เช่นเดียวกับเสื้อผ้าของตนเองที่เปื้อนเลือดขณะลงมือแทงนางวรรณได้นำไปซุกซ่อนไว้ภายในห้องนอน ตรวจเลือดที่เป็นทางไปถึงโอ่ง ขณะตนเองลากศพนางวรรณตนเองได้ใช้ทรายข้างบ้านกลบทำลายหลักฐานทั้งหมดแล้ว โดยยืนยันว่า ทำเองคนเดียว ส่วนนางสาวเบียร์ไม่รู้เรื่อง เพราะอยู่ในห้องนอนตลอด

 

ส่วนนางสาวธาราทิพย์ หรือ นางสาวเบียร์ ตำรวจได้ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และ พาไปชี้จุดบริเวณโอ่งน้ำที่สามีของเธอฆ่าแม่ยัดลงโอ่ง ซึ่งก่อนจะหลบหนี นางสาวเบียร์ ยอมรับว่า ได้เข้าไปดูศพของแม่ที่นอนตายอยู่ในโอ่งจริง ในเวลา 10 โมงเช้า หลังเอาสามีเอาทองไปขาย แต่ไม่กล้าแจ้งชาวบ้านหรือตำรวจ เธออ้างว่า เพราะถูกนายจีนขู่จะฆ่าหากนำเรื่องไปบอก จึงยอมช่วยสามีปกปิดทุกอย่าง และได้กลับเข้าไปในบ้านใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งช่วงค่ำ มีชาวบ้านมาเจอศพแม่ สามีจึงเข้าไปขโมยสมุดบัญชีธนาคารของแม่ และพาตนเองซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์หลบหนีออกไปจากหมู่บ้าน

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พยายามสอบถามนางสาวเบียร์ว่า ระหว่างแม่กับสามี รักใครมากกว่ากัน เจ้าตัวตอบ “รักแม่” ทีมข่าวจึงถามต่อว่า รักแม่ แล้วทำไมไม่หาทางแจ้งตำรวจชาวบ้านใกล้ๆ ก็มี ซึ่งเจ้าตัวยังอ้างคำเดิมว่า “ผัวหนูขู่จะฆ่า จึงไม่กล้าบอกใคร” จากนั้น ตำรวจ ได้คุมตัวทั้งสองขึ้นรถเดินทางออกจากบ้านที่เกิดเหตุทันที

 

โดยระหว่างนำตัวขึ้นรถชาวบ้านต่างตะโกนด่าสาปแช่งและโห่ไล่สองผัวเมียด้วยความโกรธแค้น ชาวบ้านบางคนตะโกนบอกว่า “สะใจโว้ย”

2 ผัวเมียจนมุมฆ่าแม่ยัดโอ่ง ลูกสาวอ้างกลัวตายเลยหนีตามกัน คนแห่ทืบนางงูพิษ