ศาลรัฐธรรมนูญขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมคำร้อง "พิธา" ถือหุ้นสื่อภายใน 15 วัน
วันนี้ (11 ต.ค.2566) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3 ) หรือไม่ ปม เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด ๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101(6) ประกอบมาตรา 98 (3 )
โดยผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญอภิปราย เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้บุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อ
ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ส่วนกรณีคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ในฐานะผู้ร้อง ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ ว่าการกระทำของนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1 ) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ....เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่
ต่อมา ผู้ถูกร้องทั้ง 2 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชี ระบุพยาน ฉบับลงวันที่ 26 ก.ย.2566 ซึ่งผลการพิจารณา
ศาลอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ