14แรงงาน เผยนาทีหนีตาย
ทีมข่าวของเรา ได้พูดคุยกับ นายป๊อย 1 ใน 14 แรงงาน ที่ทหารอิสราเอลสามารถช่วยเหลือมาได้
นายป๊อบ ชาวนครราชสีมา เปิดเผยกับเราว่าหลังเกิดเหตุต้องไปแอบหลบซ่อนอยู่ในหลุมหลบภัยประมาณ 3 วัน ประทังชีวิตด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จนวันนี้ทางการอิสราเอลไปเจอถึงได้ช่วยเหลือขึ้นมาได้
ตอนที่อยู่ในหลุมหลบภัยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อใครได้คิดถึงครอบครัว โดยเฉพาะทางบ้านที่อยู่ที่ประเทศไทย และระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังอยู่ตลอดเวลาใกล้กับจุดที่หลบภัยอยู่จึงไม่กล้าขึ้นมากัน
ล่าสุดวันนี้ มีทหารอิสราเอลผ่านมาเห็นจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ ตอนนี้ได้ย้ายมาอยู่ในโรงแรมอย่างปลอดภัยแล้ว อยากจะขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ตลอดที่ผ่านมาทราบดีว่ากลายเป็นคนที่หายสาบสูญ เพราะไม่สามารถติดต่อได้ทำให้ญาติหลายคนถึงขั้นร้องไห้เสียใจกลัวว่าจะไม่สามารถได้เจอกันอีกแล้ว แต่วันนี้พวกเขาทั้ง 14 คนสามารถออกมาได้แล้วอยากจะให้ทุกคนสบายใจและขอบคุณคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้
โผกอดรับขวัญ คนไทยกลับบ้านเกิดปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเมืองจาก หมู่ 5 ต.โนนอุดม อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา พบนายรัฐพงษ์ ไทยแท้ อายุ 30 ปี แรงงานชาวจังหวัดนครราชสีมาที่ไปทำงานสวนผมไม้ ที่ประเทศอิสราเอล ได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเดินทางมาจากสนามบินนานาชาติเบนกูเรียน โดยสายการบินแอลอัส เวลา 22.25 น. ในเวลาท้องถิ่น ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 12.00 น. ก่อนเหมารถแท็กซี่เดินทางกลับมายังบ้านเกิดในจังหวัดนครราชสีมา
โดยบรรยากาศที่บ้านเกิดนายรัฐพงษ์ หลังจากที่ญาติที่ทราบข่าวต่างพากันมารอต้อนรับ ซึ่งมียายทองดี อายุ 75 ปี ยายของนายรัฐพงษ์ หลังจากที่เห็นหลานชายลงรถแท็กซี่รีบเดินปรี่เข้าไปสวมกอดพร้อมหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจที่หลายชายเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งญาติต่างดีใจ ให้ความตอนรับอย่างอบอุ่น และยังเป็นห่วงแรงงาน คนที่อยู่ที่อิสราเอลถึงแม้แรงงานส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแต่ก็ยังอยากให้กลับมายังประเทศไทยเพราะกลัวสงครามบานปลายขยายวงทั้งประเทศ จากนั้นได้นำด้ายสายสิญจน์มาผูกที่แขนเพื่อรับขวัญหลานชาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายรัฐพงษ์ เปิดใจว่า สงครามที่อิสราเอลตอนนี้ยังรุนแรงและน่ากลัว ตนเองได้เดินทางไปทำงานที่สวนผลไม้ ทางภาคเหนือตอนล่างมาแล้ว5 ปี ซึ่งมีคนไทยทั้งหมด 13 คน หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในอิสราเอลมีคนไทยหลายคนขอกลับบ้าน เนื่องจากหวั่นว่าความรุนแรงจะบานปลาย เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะเดินทางกลับลำบาก ซึ่งตอนนี้สนามบินสามารถเปิดใช้ได้ตามปกติ ส่วนการประสานงานการเดินทางกลับประเทศไทย นายจ้างเป็นคนดำเนินการให้ทั้งหมด
เปิดใจ 1 ใน 15 คนไทยล็อต กลับไทย 12 ต.ค.
สำหรับการช่วยเหลือคนไทยกลับประเทศนั้น ในวันที่ 12 ต.ค.66 จะมีคนไทยจากอิสราเอล 15 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทย
ทีมข่าว ได้พูดคุยกับ นายสมบูรณ์ แซ่ว่าง ชาวจ.น่าน ซึ่งเป็น 1 ใน 15 คนไทยที่จะเดินทางกลับไทยล็อตแรก เปิดเผยว่า ตนเองได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้ประมาณ 7 เดือน ซึ่งเมื่อไปถึงนายจ้างก็ส่งไปทำงานดูแลระบบน้ำที่แคมป์คนงานที่จะอยู่ห่างจากฉนวนกาซ่า ประมาณ 2 - 3 กิโลเมตร
โดยเหตุการณ์ที่ตนเองรอดชีวิตกลับมาได้ เป็นความโชคดีที่แคมป์คนงานของตนเอง อยู่ในพื้นที่กันดาร ไม่มีไฟและมีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนน้อย ซึ่งตนเองไปอยู่รวมกับคนไทยทั้งหมด 11 คน แต่รอดชีวิตกลับออกมาแค่ 5 คน เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนั้น หลังจากมีสัญญาณจ้างนายจ้างให้เข้าไปหลบในห้องนิรภัย ตนเองกับคนงานอีก 4 คน เข้าไปหลบอยู่ในห้องติดกัน ซึ่งตนเองอยู่ในห้องกับคนไทยอีกหนึ่งคน อีกสามคนแยกไปอยู่อีกห้อง ส่วนคนไทยอีก 6 คนที่เสียชีวิตหลบไปอยู่ห้องนิรภัยที่หลังห้องของตนเอง ซึ่งเหตุการณ์ในคืนนั้น เท่าที่ได้ยิน ในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มตามเวลาในประเทศอิสราเอล ได้ยินเสียงปืนจากกลุ่มฮามาส ได้ยิงถล่มมาที่ห้องนิรภัยที่คนไทยซ่อนตัวอยู่ กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็ได้ยินเสียงเท้าของกลุ่มฮามาส เข้ามาใกล้ห้องนิรภัย ซึ่งเท่าที่ได้ยิน พวกเขาพยายามที่จะดึงประตูกับหน้าต่างเพื่อเข้าไปจับกุมคนไทยทั้ง 11 คน แต่ตนเองและคนไทยอีก 3 คนที่อยู่ข้างๆกัน ไม่มีใครออกไปเปิดประตูให้ ทำให้กลุ่มฮามาส เดินอ้อมไปเคาะประตูเรียกคนไทย 6 คนที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งคาดว่าคนไทย 6 คนได้เปิดประตูออกมา เนื่องจากหลังได้ยินเสียงประตูเปิด ตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกชุด พอเสียงปืนเงียบ กลุ่มฮามาส ก็ได้เดินกลับมาพยายามเปิดประตูห้องตนเองอีกครั้ง ซึ่งจังหวะนั้นในใจคิดว่ายังไงก็จะไม่เปิดประตูออกไป กระทั่งตนเองได้ยินเสียงรถถังเข้ามาใกล้แคมป์คนงาน แล้วก็ได้ยินเสียงปืนถล่มเข้ามาหน้าประตูห้อง ซึ่งตนเองเข้าใจว่า ทหารของอิสราเอล ยิงใส่กลุ่มฮามาส เพื่อสกัดไว้ไม่ให้กลุ่มฮามาส พังประตูเข้ามาจับตนเอง
จากนั้นเมื่อสิ้นเสียงปืน และเวลาล่วงเลยไปถึงตี 1 ตนเองก็ได้ยินเสียงเท้ามาที่หน้าห้องอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็มีคนมาเคาะประตูห้อง แต่ไม่ยิงเข้ามา ตนเองจึงเอียงหูไปฟังว่าใครมาเคาะประตู ซึ่งปรากฏว่า เสียงที่คุยกันอยู่หน้าประตู เป็นภาษาอิสราเอล ตนเองจึงตัดสินใจเป็นประตูออกไป ทำให้ทหารอิสราเอล ช่วยออกมาได้ ซึ่งก่อนที่ตนเองจะเดินไปขึ้นรถถังของทหารอิสราเอล ทางทหารได้บอกให้ไปเรียกคนไทยมาขึ้นรถ แต่ปรากฎว่าเมื่อตนเองเดินไปเรียก มีคนไทยห้องข้างๆรอดชีวิตอยู่ในห้องแค่ 2 คน ส่วนอีก 6 คน ถูกยิงเสียงชีวิตอยู่ในห้องนิรภัย
"ยอมรับว่าตอนนี้สภาพจิตใจทุกคนที่รอดกลับมาพร้อมกันทั้ง 5 คนก็ยังย้ำแย่อยู่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียเพื่อนร่วมงานไป 6 คน ตอนนี้ทางการของอิสราเอล ได้นำคนไทยที่จะเดินทางกลับชุดแรกไปอยู่ในโรงแรมใกล้กับเขตติดต่อของประเทศจอร์แดน แต่ไม่สามารถบอกพิกัดได้ ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่จะได้กลับบ้าน หากคนไทยที่ไม่อยากกลับประเทศไทยฟังอยู่ ก็อยากจะฝากบอกว่า ถ้ายังคิดจะอยู่ก็ขอให้หลบในที่ที่ปลอดภัย ยืนยันหลังจากนี้จะไม่เดินทางไปทำงานที่ต่างแดนอีกแล้ว ขอบคุณทหารอิสราเอล ที่ช่วยชีวิตออกมา" นายสมบูรณ์ กล่าว