หลบในบังเกอร์นาน2วัน ก่อนทางการเข้าช่วย
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายไกรสร บัวผาย ที่ ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยครอบครัวมีการผูกข้อไม้ข้อมือเป็นการรับขวัญนายไกรสร ที่กลับบ้านอย่างปลอดภัย
นายไกรสร เล่าเหตุการณ์ให้ว่า ตนเองดีใจมากที่ได้กลับประเทศไทยมาพบหน้าลูกเมียอีกครั้ง เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ช่วงเวลา 18.30 น. เกิดเหตุการณ์ยิงกันที่คิงบูธ และแคมป์คนงานหลายจุดมีทั้งระเบิดและการบุกเข้ามากราดยิง จากนั้นก็มีการประกาศแจ้งเตือนของทางรัฐบาลอิสราเอลให้เข้าที่หลบภัย
ต่อมาช่วงกลางคืนในวันเดียวกัน เพื่อนที่อยู่อีกแคมป์คนงานได้โทรศัพท์มาบอกว่า กลุ่มฮามาสได้บุกเข้ามาทางตอนใต้ และเข้ามากราดยิงแรงงานแคมป์ใกล้กันเสียชีวิตไปกว่า 100 คน มีคนไทยเสียชีวิตที่แคมป์นั้น 16 คน โดยแคมป์ดังกล่าวอยู่ห่างจากแคมป์ของตนเองเพียง 1 กิโลเมตร ตนเองและคนงานไทยอีก 19 คน ต้องหลบซ่อนอยู่ในบังเกอร์หลบภัยกว่า 2 วันเต็มๆ เพราะไม่มีทหารเข้ามาช่วยพาออกไปเลย
กระทั่งวันที่ 9 ตุลาคม ตนเองซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานของแรงงานไทยอีก 19 คนในแคมป์และเห็นท่าไม่ดี จึงได้โทรศัพท์ประสานกับเจ้าหน้าที่กงสุลกรุงเทอาวีฟ เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย และมีระเบิดลงที่พักของตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนช่วง 19.00 น. ของวันที่ 9 ตุลาคม ถึงจะมีกองกำลังทหารพาตนเองและคนงานไทย 19 คน ออกจากแคมป์คนงานอพนพไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งหากตนเองไม่ได้โทรประสานไปยังกงสุลในวันนั้น ตนเองและเพื่อนแรงงานไทยอีก 19 คน อาจจะถูกบุกเข้ามากราดยิงเสียชีวิตไปแล้ว
สำหรับตนเองไปทำงานที่อิสราเอลได้ 5 ปีแล้ว อีก 3 เดือนจะครบหมดสัญญา ที่ผ่านมาได้ทำงานเป็น หัวหน้าคนงานเกษตร ดูเรื่องน้ำ ได้เงินเดือนประมาณ 5-6 หมื่นบาท
ส่วนสภาพความเป็นอยู่ยอมรับว่าค่อนข้างลำบากมาก และค่อนข้างเสี่ยงอันตรายเนื่องจากมีการยิงตอบโต้กันเกือบทุกวัน โดยแคมป์คนงานที่ตนเองพักอยู่ห่างจากโฉนดกาซาเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น
นอกจากนี้ นายไกรสร ได้ให้คลิปวิดีโอซึ่งบันทึกสภาพความเสียหาย ภายในแคมป์คนงานที่ทำงานอยู่ด้วย
สุดดีใจกลับคืนบ้านเกิด ไม่ต้องเสี่ยงกินข้าว
ทีมข่าวช่อง8 เดินทางไปที่บ้านของนายสมพร คาระบุตร ชาวบ้านบ้านโนนดู่ ตำบลหนองภัยศูนย์ อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็น 1 ในแรงงานที่ไปทำงานที่อิสราเอล กลับมาถึงไทยกลุ่มแรก โดยยอมรับว่า ดีใจมากที่ได้กลับเกิดอย่างปลอดภัย
แม่หอมรับขวัญลูก กลับบ้านปลอดภัย
ทีมข่าวช่อง8 เดินทางไปที่จ.หนองคาย บ้านของนายสถิตย์ พรมอุนารถ หรือ แจ็ค อายุ 38 ปี
โดยเจ้าตัวบอกถึงความรู้สึกที่ได้กลับบ้านดีใจมาก ตอนแรกคิดว่าตัวเองคงไม่มีชีวิตรอดกลับมาหาครอบครัวแล้ว ตัวตนเองนั้นทำงานที่เดียวกันกับนายไกรสร
โดยเจ้าตัวยังได้ส่งคลิปที่ได้บันทึกไว้ขณะระเบิดลงบริเวณแคมป์คนงานของตนเอง ซึ่งจะได้ยินเสียงทั้งระเบิดและเสียงปืนของทั้งสองฝ่ายยิงตอบโต้กันไปมาผ่านแคมป์ของตนเอง
นอกจากนี้บริเวณใกล้แคมป์คนงานของตนเองนั้น ยังถูกระเบิดลงที่ฟาร์มวัว ทำให้วัวที่อยู่ในฟาร์มตายไป 6 ตัวอีกด้วย โดยในคลิปจะเห็นหลังคาของฟาร์มวัว ถูกระเบิดลง
นายสถิตย์ เล่าว่า สำหรับตนเองทำงานเป็นคนแพ็คผลไม้ภายในไร่ เพิ่งเดินทางมาทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 1 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงลักษณะนี้ มีระเบิดยิงกันไปมาบ้าง แต่ไม่มีทหารบุกมาฆ่าคนตายมากขนาดนี้ ก่อนที่ระเบิดจะลงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ตุลาคม มีเพียงสัญญาณเตือนให้วิ่งเข้าที่หลบภัยเพียง 10 วินาทีเท่านั้น โชคดีมากที่ตนเองและเพื่อนคนไทยอีก 18 คนรอดชีวิตมาได้